Saturday, 27 July 2024

ผบ.ตร. ยืนยันใช้ทุกวิธีเพื่อป้องกัน ม็อบ 7 สิงหาคม เตือนผู้ชุมนุม คิดถึงความเสียหายประเทศชาติ

ข่าวการเมือง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 กองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดูแลความมั่นคง พลตำรวจโท สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ปฏิบัติราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดบช.ก. บช.ส. บช.สอท. เข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มเคลื่อนไหว ม็อบ 7 สิงหาคม

สล็อต xo Slotxo

ผบ.ตร. ยืนยันใช้ทุกวิธีเพื่อป้องกัน ม็อบ 7 สิงหาคม

ข่าวการเมือง ม็อบ 7 สิงหาคม
โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก Free Youth ซึ่งได้มีการนัดหมายเวลา 13.00 น. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะทำการเคลื่อนขบวนไปพระบรมหาราชวัง กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนายธนเดช ได้มีการนัดหมายซึ่งยังไม่ทราบเวลาบริเวณที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งได้จัดกิจกรรมแบบ CarMob 2 ล้อ ซึ่งจะเคลื่อนขบวนไปยัง ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง

พลตำรวจเอก สุวัฒน์ เผยก่อนประชุมว่า โดยการประชุมดังกล่าว ในการเตรียมความพร้อมที่จะดำเนินการรับมือกับผู้ชุมนุมในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหลักและมีฝ่ายสนับสนุน โดยอาจมีความจำเป็นที่อาจจะต้องใช้กำลังของตำรวจต่างจังหวัดเข้ามาค่อนข้างมาก

ช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยการชุมนุมในประเทศจนถึงปัจจุบัน 2,233 ครั้ง ซึ่งคดีเกี่ยวกับการชุมนุม 524 คดี เป็นภาระบั่นทอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ทว่าตำรวจก็ไม่เคยบ่น เนื่องจากเป็นเรื่องที่จะต้องทำ ซึ่งเป็นภาระของประเทศชาติ ในสภาวะที่บ้านเมืองต้องเผชิญกับความยากลำบาก ประชาชนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 อยากจะขอฝากว่าหากกระทำการอะไรก็อย่าได้ทำการซ้ำเติมความเดือดร้อน สุดท้ายก็เกิดขึ้นกับประเทศชาติ และสังคมโดยรวม จึงอยากขอให้คิดให้ดี

คนที่กระทำความผิดซ้ำคดี เจ้าหน้าที่ต้องทำการดำเนินคดีไม่เคยปล่อยปละละเลย เมื่อช่วงวันหนึ่ง แม้การดำเนินคดีช้าบางคดี อยากจะขอให้ตระหนักถึงสิ่งที่กระทำว่าส่งผลกระทบอะไรบ้าง โดยการชุมนุมที่จะถึงได้มีการกล่าวพาดพิง ซึ่งได้มีการกล่าวถึงประชาชนจำนวนมาก รู้สึกถูกเหยียดหยาม เป็นการพูดทำร้ายจิตใจ การทำลายความรู้สึก มีการพูดพาดพิงถึงสถาบันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวของคนในสังคม

โดยคนที่ทำไม่ว่าจะทำด้วยเหตุอันใด ควรที่จะนึกคิดว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็ต้องรับผิดชอบเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องทำทุกอย่างตามกฎหมายเพื่อให้เกิดความสงบ คนทำซ้ำก็ทำอยู่อย่างนั้น คนใช้ความรุนแรงก็จะทำอยู่ซ้ำๆ เราใช้กฎหมายจริงๆ ไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่านั้น ซึ่งจะทำจนกว่าจะถึงที่สุด โดยไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ

ผบ.ตร. ยืนยันใช้ทุกวิธีเพื่อป้องกัน ม็อบ 7 สิงหาคม เตือนผู้ชุมนุม คิดถึงความเสียหายประเทศชาติ
โดยหลายครั้ง ที่การปฏิบัติหน้าที่ก็มีการกระทบกระทั่งจนมีความสูญเสียเกิดขึ้น โดยไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เมื่อเกิดการกระทบกระทั่งกันแล้วก็ยากที่จะควบคุมได้ ซึ่งใครคิดจะทำต้องรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้ดีที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ที่รักษากติกาของคนในสังคม ประชาชนและประเทศชาติก็มีความยากลำบาก ถึงอยากจะขอให้ทบทวนใหม่ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ใครที่สามารถกลับใจหรือเปลี่ยนใจก็ต้องขอขอบคุณ

การชุมนุมนั้นมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด พลตำรวจเอก สุวัฒน์ เผยว่า กรณีการชุมนุมที่ผ่านมาได้มีการใช้อาวุธ โดยในบางครั้งหลังจากการเลิกการชุมนุมแล้ว ยังคงมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ได้แยกกลุ่มเป็นกลุ่มย่อยๆ กลุ่มเล็กบาง กลุ่มใหญ่บางกระจายกันไป เพื่อสร้างความเสียหายยังสถานที่ต่างๆ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ เผาทรัพย์สิน ลักษณะการก่อเหตุเหมือนกับคึกคะนอง

จากเรื่องดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามปรับกลยุทธ์ วิธีจัดการ โดยเฉพาะการทำลายสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น มาตรการในการดำเนินการนั้น เจาสามารถที่จะบอกได้ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์วิธีการจัดการ มีการปรับเปลี่ยนโดยนำบทเรียนเก่ามาศึกษา รวมถึงการยั่วยุโดยมีการสั่งกำชับการปฏิบัติอยู่แล้ว

โดยกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ต้องมีการตรวจสอบว่ามีลักษณะรูปแบบใดปรับเปลี่ยนไปตามหน้างาน โดยแกนนำที่มีคดีติดตัว ที่มีการดำเนินคดี 500 กว่าเรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการดำเนินคดีทุกเรื่อง

โดยคดีค้างอยู่จำนวนมากทั้งในชั้นศาล ทั้งชั้นอัยการ ทั้งที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามดำเนินให้เสร็จสิ้น ซึ่งใครจะออกหมายจับก็จะขออนุมัติศาลให้ออกหมายจับเพื่อที่จะทำการดำเนินคดีจับกุมตัว บางรายมีพยานและหลักฐานไม่เพียงพอก็จะต้องพยายามรวบรวม

ในส่วนของแกนนำที่ทำการออกมาชุมนุมที่ได้มีคดีติดตัวจะดำเนินการจับกุมหรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า โดยการดำเนินการดังกล่าวต้องตัดสินใจกันหน้างาน โดยพื้นที่ความปลอดภัยสำหรับการทำงานของนักข่าว อยากให้นักข่าวทำการประสานกับผู้คุมกำลังบริเวณที่ไป

โดยนักข่าวต้องมีการแจ้ง โดยตนจะทำการจัดเจ้าหน้าที่ทีมโฆษกให้เป็นผู้ประสานงาน เนื่องจากนักข่าวไปเองโดยไม่มีการแจ้ง ทำให้ผู้คุมกำลังไม่ทราบว่าเป็นใคร เพื่อให้อยู่ในพื้นที่อย่างสบายใจซึ่งกันและกัน นักข่าวสามารถทำหน้าที่ไปในระดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ในระดับหนึ่งควรหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น