Tuesday, 3 December 2024

พล.ต.ท. วิศณุ ออกแฉยับ วงจรการเลื่อนขั้นตำรวจไทย ชั่งเงินกิโลแลกตำแหน่ง

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 สิงหาคม 2564 รายงานข่าว กรณี พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ออกให้สัมภาษณ์แฉยับ วงจรการเลื่อนขั้นตำรวจไทย  ชั่งเงินกิโลแลกตำแหน่ง เงินสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าทางการงาน

สล็อต xo Slotxo

วงจรการเลื่อนขั้นตำรวจไทย การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ชั่งเงินกิโลแลกตำแหน่ง วิ่ง 5 กิโล 5 ล้าน วิ่ง 3 กิโล 3 ล้าน

วงจรการเลื่อนขั้นตำรวจไทย การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ชั่งเงินกิโลแลกตำแหน่ง วิ่ง 5 กิโล 5 ล้าน วิ่ง 3 กิโล 3 ล้าน

เมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อสัมภาษณ์ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี นายตำรวจรุ่นพี่เดิมเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปัจจุบันได้เกษียณราชการมาเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรค เสรีรวมไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 10 ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ กมธ. การตำรวจ สภาผู้แทนฯ

กรณี ผกก.โจ้ ทำให้เกิดคำถามต่อวงการตำรวจเป็นจำนวนมาก และท่านเคยอภิปรายให้สภาต่อวงการตำรวจอย่างหนึ่งก็คือ “การซื้อขายตำแหน่งต่างๆ ในระดับสน.และมีการเอาเงินแบงค์พันมาชั่งกิโล” สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นปัญหาเดียวกันที่เกิดขึ้นมานานและทำให้ประชาชนหมดความศรัทธาต่อวงการตำรวจ

พล.ต.ท.วิศณุ ได้เล่าสะท้อนภาพที่เห็นออกมาว่า ตนอยู่ในราชการมาเกือบ 40 ปี ก็เกษียณราชการมา 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้มีโอกาสอยู่ในตำแหน่งในหลายๆตำแหน่งด้วยกัน สืบสวนสอบสวน  จราจรทั้งฝ่ายปฏิบัติราชการทั้งเป็นสตราฟก็เคย ที่สำคัญก็มีโอกาสได้ทำคดีที่สำคัญๆมาก่อนหลายคดีด้วยกัน เคยอยู่ทั้ง บจก. ภูธรนครบาล ตม.ต่างๆมา กรณีที่เคยอภิปรายไว้ในเรื่อง “การซื้อขายตำแหน่ง” ถ้าถามว่าทำไมปัจจุบันยังมีการซื้อขายตำแหน่งอยู่ แต่ก็คงจะมีมากน้อยต่างกันไปตามยุคตามสมัย บางยุคระดับภูธรภาคการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งก็จะมีอยู่มากมาย การที่บอกว่าชั่งเงินเป็นกิโลคือการเปรียบเทียบ เพราะเงินแบงค์พัรเมื่อนำมาชั่งกิโล 1 กิโลเท่ากับ 1 ล้านบาท วิ่งไป 5 กิโล 5 ล้านา 3 กิโล 3 ล้าน ถ้าถามว่าทำไมถึงยังมีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ก็สืบเนื่องมาจากระบบคุณธรรมในการแต่งตั้ง ไม่มีคุณธรรม! หรืออาจจะมีน้อยลงเลยทำให้ข้าราชการตำรวจไม่มีช่องทางการเจริญเติบโตในด้านการงาน บางคนทำงานให้ตายก็จะดักดานอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จักวิ่ง ไม่รู้จักเข้าหานาย ไม่รู้จักไปส่งส่วย เลยทำให้ช่องทางการเจริญเติบโตในการรับราชการมันไม่มี หรือมีก็น้อยมาก ผมเติบโตมาจากอีสานจากมุกดาหารสมัยก่อน ใครที่มีประวัติการเข้ารับราชการที่ดี หมายถึงการเป็นตำรวจน้ำดี มีฝีมือในเรื่องของการปราบปราม การสืบสวนสอบสวน มันจะมีการคาดการหรือการทายอนาคตได้เลยว่าคนๆนั้นในเวลาต่อไปต้องได้เป็นผู้การหรือผู้กำกับ แต่เมื่อข้ามมาในปัจจุบันนี้ไม่สามารถคาดเดาอะไรในระบบข้าราชการตำรวจได้เลย เพราะมีการซื้อขายตำแหน่งเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมใครสัมผัสการซื้อใครที่มากที่สุดคือ ตอนที่ผมเป็นรองผู้กำกับภูธรภาค 8 ที่สุราษฎร์ ภาคใต้ตอนบนดูแล 3 จังหวัดฝั่งอ่าวไทย คือจังหวัด ชุมพร  สุราษฎร์ นครศรี และฝั่งอันดามัน คือ ภูเก็ต กระบี่ วันนั้นถ้าย้อนกับไปดูจะเห็นมีการซื้อขายตำแหน่งกันทุกระดับเลย มันเลยกลายเป็นว่าคนที่ตั้งใจทำงานก็ไม่มีโอกาสเติบโต จึงเกิดความท้อแท้สิ้นหวังกันไป แม้แต่ระดับบนสุดก็มีการฝากฝั่งการย้ายคนให้มาลงในตำรวจภูธรภาค 8 แล้วเอาตำรวจของภาค 8 ออกไปนอกภาค ให้ไปอยู่ภาคเหนือหรือภาคอีสาน เมื่อเกิดความท้อแท้ก็เป็นเหตุให้หาทางเจริญเติบโตด้วยการวิ่งเต้นหาผู้ใหญ่ เพื่อซื้อขายตำแหน่ง เมื่อเป็นเรื่องมีการสืบสวนเกิดขึ้นก็จะทำการเคลียร์ๆและช่วยเหลือกันไป สุดท้ายรอดตัวไป

ทำไมยังมีการซื้อขายตำแหน่งในราชการตำรวจ?

1.เรื่องระบบคุณธรรมในการแต่งตั้ง

2.การกระจายอำนาจในการแต่งตั้งให้ไปถึงระดับจังหวัด

ส่วนในทางทฤษฎีมันเหมือนการกระจายอำนาจมากกว่า แต่ในโลกของเป็นจริงไม่ได้มีระดับขั้นตอนที่มีคุณธรรม เพราะจะมีการส่งโผลลงมาที่ภาค ขนาดผู้การยังไม่มีอำนาจแต่งตั้งตำแหน่งได้  คนที่ตั้งใจทำงานจึงไม่มีได้เจริญทางการงานจริงๆ บางคนจึงคิดเห็นไปว่าไม่ต้องทำงานหนักมากก็ได้แค่เอาใจเจ้านาย ผู้การ ผู้กำกับ แล้ววิ่งไปเอาโผลลงมารับตำแหน่ง คนที่ทำงานจริงๆจึงน้อยลงๆ