Saturday, 27 July 2024

ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” เดือด! โต้งตอบแท็กเฟซบุ๊กกันไปมา ปมดราม่าร่วมม็อบใส่สูทถือกล้อง

ข่าวล่าสุดมีการโต้งกันเดือด! เกิดขึ้นต่อเนื่องปมดราม่าใส่สูทถือกล้องในการชุมนุมม็อบโดย ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” เมื่อ 24 สิงหาคม 2564 ลูกนัทแหย่พี่อี้แทนคุณพร้อมแท็กหาในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก เล่น clubhouse ยังไงพูดคนเดียวเป็นชั่วโมงไม่แบ่งคนอื่นพูด

สล็อต xo Slotxo

เดือดต่อเนื่อง ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” โต้งเดือด ปมดราม่าร่วมม็อบใส่สูทถือกล้อง ลูกนัทแหย่ พี่อี้เดือดทวงบุญคุณ ทำไมไม่รู้จักเปิดพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงอีกด้าน

เดือดต่อเนื่อง ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” โต้งเดือด ปมดราม่าร่วมม็อบใส่สูทถือกล้อง ลูกนัทแหย่ พี่อี้เดือดทวงบุญคุณ ทำไมไม่รู้จักเปิดพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงอีกด้าน

ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” เริ่มจากที่คุณลูกนัทได้มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยได้กล่าวถึงคุณแทนคุณเรื่องการคุยสื่อสารใน clubhouse ปมดราม่าใส่สูทถือกล้องเข้าม็อบ

ลูกนัท: โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแท็กหาพี่อี้ “ถ้า อี้ Tankhun Jitt-itsara ยังจะเล่น clubhouse แบบ พูดไม่ยอมหยุดเป็นชั่วโมงๆแบบไม่แบ่งคนอื่นพูดเลย แล้วไปทุกห้องแบบนี้ ผมว่าผมจะเลิกเล่น clubhouse ละ รำคาน”

เมื่อโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไปบรรดาแฟนคลับลูกนัทต่างแห่กันมาเม้นต์เดือดเหน็บแรงไปตามๆกัน อาทิเช่น “ประเทศไทยในมุมมองของสลิ่มมันช่างสุกสกาววาววับสวยงามไปหมด อะไรๆก็ดีจะด่าจะทะเลาะกันทำไม แต่ความเป็นจริงแม่งก็แค่ผักชีโรยหน้าสวยแต่เปลือกปัญหาซุกไว้เต็มพรม ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าผู้มีอำนาจไม่เคยคิดจะฟังเสียงประชาชน ประเทศที่หนุนนายทุนเป็นใหญ่กดหัวประชาชนคนจ่ายภาษีให้เป็นทาสแรงงาน”

“ถ้าคนพูดแบบไม่เปิดโอกาศให้คนอื่นพูด คนแบบนี้ คือ คนขี้ขลาด กลัวคนอื่นพูดความจริงมาตัดหน้ามัน เพราะฉะนั้น มันไม่เกรงใจและฉวยโอกาสของมัน เรา ก็ต้องพูดตัดหน้ามันและ พูดตัดมันเลย ถึงเวลาshut up แล้ว หยุด ให้โอกาสคนอื่นออกความเห็นบ้าง ถ้ามันไม่หยุด ใส่หนักเลย คนแบบนี้มันใช้โอกาสที่เราเกรงใจมันไงคะ.”

“หลายๆ คนคงพอจะจำกันได้กับบทบาทลูกคุณหนูไฮโซ ตัวโกง หน้าตี๋ ดูโฉดๆ เลวๆ ในละครเรื่อง “ทอฝันกับมาวิน” เมื่อ 13 ปีก่อน ที่ทำให้เค้ามีชื่อเสียง หนุ่มที่ว่านั้น คือหนุ่ม “อี้ เอกชัย บูรณผานิต” ที่ตอนหลังมาเปลี่ยนชื่อ เป็น “แทนคุณ จิตต์อิสระ” นั่นเอง”

พี่อี้: โต้งกลับออกเม้นต์ใต้โพสต์ “ผมไม่ได้พูดคนเดียว​นะครับ มีกติกา​และเคารพกติกา มีการควบคุมเวลาและเนื้อหา ไม่ให้พูด​แทรกซึ่งผมไม่เคยพูดแทรก และไม่ใช้คำหยาบคาย​ซึ่ง​ถือเป็น​ความรุนแรงชนิดหนึ่งหลังๆบางคนใช้พวกมากปิดปาก ปิดกั้นเสรีภาพ​ของคนเห็นต่างไม่ได้​เป็น​ประชาธิปไตย​อย่างที่เขากล่าวไว้ และกลับไม่เปิดพื้นที่​รับฟังข้อเท็จจริง​อีกด้าน รวมทั้งปิดกั้นเสรีภาพ​ในการแสดงความคิดเห็น​ของคนอื่นครับ ถ้าจะเป็นผู้นำม็อบต้องเริ่มจากการมีหลักการที่มุ่งประโยชน์​เพื่อส่วนรวม​จริงๆและมีกัลยาณมิตร​ที่คอยเตือน การเมือง​คือสงคราม ที่ไม่นองเลือด​เท่าสงครามจริงๆ”

ลูกนัท: ไม่รอช้าตอบกลับใต้เม้นต์เช่นกัน  “ทุกคนพอครับ จบแล้ว ผมคุยไลนกับพี่อี้แล้ว ต้องขอโทษพี่ด้วยที่โพสต์ Status อาจจะฟังดูไม่ค่อยสุภาพ ส่วนทุกๆคนครับความเห็นต่างยังไงก็จะเกิดขึ้นเราไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ทุกคนคิดเหมือนเราได้ ถึงทำได้การกระทำแบบนั้นก็ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นคนเห็นต่างไม่ใช่ศัตรูของเรา ศัตรูของเราคือเผด็จการเท่านั้น เลิกเสียเวลามานั่งเสวนาโวยวายจับคนเห็นต่างเถอะครับเค้าไม่ผิด ผิดที่เผด็จการ”

ไม่ผิด ผิดที่เผด็จการ”

ล่าสุดเช้าวันนี้ที่ 25 สิงหาคม 2564 พี่อี้ของคุณลูกนัท หรือ แทนคุณ จิตต์อิสระ ได้ออกมาแชร์โพสต์ที่ลูกนัทแท็กหาและได้เขียนโพสต์พร้อมรูปภาพยืนยันในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ Tankhun Jitt-itsara เพื่อแท็กกลับหาลูกนัทแบบมารยาทผู้ดีด้วยว่า

ได้ไปคอมเม้นท์​ตอบนัท  Nat Thanakitamnuay

(ขออภัยต้นสกุล เพราะยังไม่สรุปว่าที่กำลังหานามสกุล​ใหม่  คืออะไร)​

กรณีบางคนบิดเบือน​ข้อเท็จจริง​ในการใช้ Clubhouse ของผมจึงขอชี้แจงรวมๆ ดังนี้

1.ผมไม่ได้​พูดคนเดียวเป็น​ชั่วโมง​ๆแต่มีคน (Moderator)ที่ใจกว้างให้โอกาส​ แลกเปลี่ยน​และมีการกำหนดกติกาที่ชัดเจน​ และมีคำถามถามมาตลอดผมก็ตอบบนจุดยืนของผมในเวลาจำกัดสั้นกระชับ ตรงประเด็นแต่สังเกต​ว่าพอตอบอะไรที่เป็​นความจริง  ทำให้แนวร่วม​พวกเขาอาจจะเริ่มเข้าใจ​และเปิดใจ​ในมุมมอง​ที่แตกต่าง​จนมีวุฒิภาวะมากขึ้น รับฟัง แลกเปลี่ยน​เรียนรู้​ อยู่​ร่วมอย่างสันติ  ไม่บิดเบือน​ให้ร้าย ด่าทอหยาบคาย​แบบปวิน และสาวก (บางคน)

2.สิทธิ​เสรีภาพ​เป็น​ของทุกคนในการพูดอะไรก็ต้องคู่ไปกับความรับผิดชอบ​ทั้งต่อตนเอง  ครอบครัว​และสังคมทั้งไม่ใช้เสรีภาพ​ในการบิดเบือน​โจมตีให้ร้าย สร้างความแตกแยก​กับสังคม​ ซ้ำเติม​สถานการณ์​โรคระบาด การเปิดดวทีรับฟัง​กันในทุกเรื่อง​จะทำให้หาทางออกที่ดีได้ด้วย

3.การเปิดใจรับฟัง​ความคิดเห็น​ที่แตกต่างและเปิดพื้นที่​ให้คนคิดต่างแสดงออกคือ ความงดงาม​ของ ประชาคม Clubhouse ที่มีวุฒิ​ภาวะแม้จะเห็นต่างกัน แต่จะมีบ้างที่ยัง บูลลี่  เหน็บแนม​ ก้าวร้าว ซึ่ง​เป็น​ธรรมดาของคนที่มีปมขาดความมั่นใจ​อันเกิดจากการกลัวการสูญเสียตัวตนจากความเชื่อที่ถูกหว่านล้อม​โดยสายอวย หรือขาดความรักความอบอุ่น​ขั้นพื้นฐาน​ในวัยเด็ก​

4.สุดท้าย​ผ​มไม่ได้​หิวแสง ผมมีแสงของผมอยู่​แล้วเป็นแสงสว่าง​ที่เกิดจากการอยู่​ท่ามกลาง​คนที่รักชาติ​ ศาสน์​ กษัตริย์​และประชาชน​ ที่เพียงพอ​ต่อการสร้างความอบอุ่น​ให้เสมือนเป็นคนในครอบครัว​เดียวกัน และพร้อมแลกเปลี่ยน​และอยู่​ร่วมกับคนที่ไม่รัก หรือไม่ต้องการให้มีสิ่งยึดเหนี่ยว​จิตใจเหล่านี้​

เพราะผมไม่อยากให้เกิดสงครามกลางเมือง​แบบหลายๆประเทศ​ที่ถูกปลุกปั่นด้วยวิธีการ​และข้ออ้างว่าจะเป็น​ประชาธิปไตย​แบบประเทศ​นั้นๆเท่านั้น

(ทั้งที่ประเทศ​นั้นยังมีการเหยียดผิว เหยียดชาติพันธุ์​ และรุกรานชาติอื่น​อยู่

ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์​ใส่ตัว)​

สุดท้าย ผมอยากฝากนัทในฐานะ “เพื่อน” คนหนึ่งที่เคยพูดคุยเหมือนพี่เหมือนน้อง

“อย่าขับเคลื่อน​ชีวิต​ด้วยความเกลียด​ชัง สุดท้ายพอมันพังเราจะไม่เหลือ​ใคร​ที่จริงใจกับเรา”

ผม​เป็น​คนเชื่อในกฎแห่งกรรม คือ จิตเจตนาที่เล็งเห็น​ผลในการกระทำเชิงวิทยาศาสตร์​ คือ​เป็น​เหตุเป็นผล​เชื่อในกุศลจิตและอกุศล​จิตของคน  ว่ามันจะกำหนดให้กำเนิดใหม่ให้ตัวเรา​ต้อง​ประสบกับสิ่งใดๆก็ตามล้วนแต่จากสำนึกของเราเองและหลาย​สิ่งที่เกิดขึ้น​กับชีวิต​เรา มันเป็​นสิ่งที่สั่งสมมานับภพชาติ​ไม่ถ้วน  นัทมีบุญวาสนาดี ที่เกิดมาดี ร่ำรวยกว่าคนนับล้านคนในประเทศ (ไม่เท่าเทียม??? )​ที่ดีที่สุดคือ มีพ่อแม่ที่รักนัทมากๆ  โดย​เฉพาะ​คุณ​พ่อ ตอนที่นัทลงสมัคร​ส.ส. ปชป. เขตมีนบุรี​ ถึง​ขนาดนัดผมทานกาแฟ เพื่อขอให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยง ช่วยแนะนำ ​ช่วยดูแล​นัทให้หน่อย ผมก็สัมผัส​ได้ถึงความรักและปราถนาดีของท่านต่อนัท อยากให้นัทได้รับรู้​ไว้บ้าง

ผมรู้ว่านัทเป็น​คนหนุ่ม​ที่มุ่งมั่นมีอุดมการณ์​ มีศักย​ภาพ​และกำลังฮึกเหิม​เลยพาลฟาดงวงฟาดงาไปกับทุกคน​ ผมแค่ยังอยากใช้โอกาส​ในฐานะเป็น​กัลยา​ณ​มิตร​ให้สติ อย่าหักหาญ​น้ำใจ​พ่อแม่ไปมากกว่านี้  การเมือง​เป็น​เรื่องผันแปรร้อยแปดตามเหตุปัจจัย​  ไม่ใช่เรื่องระยะสั้นจะเอาชนะในวันสองวันได้ ยิ่งรุนแรง​ยิ่งพ่ายแพ้

บางทีนัทอาจเครียดไป  อินมากไปและยิ่งมีคนมาอวยเราเยอะ   ทำให้หลงตัวเอง​ไป  จากคนที่เงียบเหงา​มานานได้​มีตัวตน​ต่อสาธารณชน​เป็น​ข่าว อย่างที่นัทอยากได้​แต่มันไม่ยั่งยืน

เดี๋ยว​ก็ผ่านไป  ผ่อนคลาย​บ้าง  อย่าเครียดเกินไป

ผมได้แต่หวังว่าในสนามรบครั้งหน้า  เราจะไม่ต้องเผชิญหน้า​กันแบบคนที่คิดร้ายต่อกันเพียงเพราะความเห็​นต่างและยังสามารถ​พูด​คุยกันได้​ในฐานะคนไทยด้วยกัน  อะไรที่สุดโต่งมักทำลายตัวเราเอง  โดยเฉพาะ​อย่าล้อเล่น​กับความรักความศรัทธา​ที่บริสุทธิ์​ของคนไทยจำนวนมากเพียงเพราะความ​รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือคึกคะนอง​  เพราะเชื่อเพื่อนชั่ว​เป็น​ปาปมิตร โดย​เฉพาะ​คนอย่าง”ปวิน”  ผมไม่อยากให้​นัทต้องมีจุดจบแบบเขา คือลี้ภัยไปต่างประเทศ​

ปล เสียใจ​ด้วยอีกครั้งเรื่อง​การเสียดวงตาขวา ดังนั้น​มีสติอย่าประมาทเด็ดขาด คิดในแง่ดี ทำบุญ​ทำกุศล​ให้มากๆครับ

ทั้งนี้เพื่อคุณแทนคุณก็ได้เม้นต์แสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกันว่า ไม่แพ้หน้าเหล่าบรรดาแฟนคลับคุณลูกนัท โดยได้ระบุว่า “คุณอี้ เขียนให้ปัญญากับอีกฝ่ายมากๆ นับเป็นกัลยาณมิตรที่มีความหวังดี และจริงใจ ? หวังว่าจะพอสามารถเตือนสติได้บ้าง ? แต่ช่วงนี้ดูแล้วกำลังหลงในคำอวยจากพวกฉวยเอาผลประโยชน์ให้ตัวเอง น่าสงสารพ่อแม่นะ ?”

“ผมก็เข้าไปฟังในห้อง Clubhouse ในช่วงที่ชุลมุนกันครับ ผมชื่นชมคุณอี้ที่ทนฟังและตอบคำถามด้วยความอดทนมีเหตุผลและใจเย็น ชื่นชมคุณอี้ครับ และให้กำลังใจคนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติด้วยความจริงใจ”

เรียกว่าเดือดต่อเนื่อง เรียกบรรดาแฟนคลับขาเผือกมีเรื่องเม้าท์กันยาวๆ