ยังไม่ถึงขั้นสงคราม: ทักษิณ โกรธคลิปเสียง ฮุน เซน ปมแพทองธารเจรจากัมพูชา

ยังไม่ถึงขั้นสงคราม: ทักษิณ โกรธคลิปเสียง เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาถึงความรู้สึก “ช็อกและโกรธมาก” หลังฟังคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา ข่าวการเมืองวันนี้ โดยเขาเน้นว่าตลอดระยะเวลา 33 ปีของความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างตนกับฮุน เซน เขาไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ความรู้สึกส่วนตัวนี้สะท้อนถึงความ “สะเทือนใจ” ของ อดีตผู้นำไทย ที่เชื่อมั่นในมิตรภาพที่มีมาอย่างยาวนาน

เจาะลึกเหตุการณ์ ทักษิณ โกรธคลิปเสียง รอเจรจา 3 ชั่วโมง ที่โรงแรมโรสวูด

ในช่วงที่ แพทองธาร ชินวัตร เดินทางไป ประเทศกัมพูชา พร้อมทีมงานเพื่อพบกับผู้นำกัมพูชา เธอได้เข้าพักที่ โรงแรมโรสวูด ในกรุงพนมเปญ และรอการพูดคุยจาก ฮุน เซน กว่า 3 ชั่วโมง แต่กลับได้รับแจ้งว่า “ผู้นำกำลังหลับอยู่” เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ทักษิณเกิดความไม่ไว้ใจ ว่าการพบปะที่ตั้งใจไว้อาจถูกเบี่ยงเบนด้วยจุดประสงค์อื่น ซึ่งเขายอมรับว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้สึก “อึดอัดและผิดหวัง”

ทักษิณ โทรตรงไปถึงฮุน เซน ด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด

หลังจากรู้ว่าลูกสาวไม่ได้รับการพูดคุยจากฮุน เซน ทักษิณเผยว่าเขาได้ โทรตรงผ่านนายฮวด ผู้ใกล้ชิดของสมเด็จฮุน เซน เพื่อสอบถามเหตุผลและระบายความรู้สึก โดยระบุว่า “อารมณ์ของเขาไม่สามารถควบคุมได้” เพราะรู้สึกถึงการไม่ให้เกียรติลูกสาวของตน และยังเป็นเรื่องที่สะเทือนความสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างหนัก ถือเป็นหนึ่งในครั้ง ข่าวการเมืองออนไลน์ ที่เขาแสดงอารมณ์อย่างชัดเจนในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ

ย้อนเหตุการณ์ชายแดนปี 46 และบทบาท C-130

ทักษิณ ชินวัตร ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดชายแดนในปี 2546 เมื่อเกิดเหตุการณ์ “ดาวพระศุกร์” ที่ เมืองเสียมเรียบ ซึ่งส่งผลให้มี การชุมนุมโจมตีสถานทูตไทยในพนมเปญ เขาย้ำว่าได้ ส่งเครื่องบิน C‑130 และเรือรบหลวงเพื่อรับคนไทยกลับประเทศ และ สั่งการให้ส่งกองกำลังถึง 12,000 นาย ไปประจำชายแดน ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าจะมีการปะทะ แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็ยุติลงอย่างสันติ สิ่งนี้ทำให้เขามั่นใจว่า “ความขัดแย้งใด ๆ ก็สามารถเจรจาได้ ถ้าไม่มีอคติส่วนตัวมาแทรก”

ทักษิณพูดถึงห้องนอนสีชมพู และภาพลักษณ์ผู้นำ

หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงในคลิปเสียงคือ ห้องนอนของฮุน เซน ซึ่งมีลักษณะตกแต่งด้วย “ผ้าสีชมพู” ทักษิณยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง แต่การนำเรื่องส่วนตัวมาเปิดเผย การเมือง อาจทำให้ผู้นำถูกลดความน่าเชื่อถือได้ ทักษิณเน้นว่า ภาพลักษณ์ผู้นำที่มั่นคงและไว้ใจได้ เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือไม่ก็ตาม เขาเชื่อว่าความโปร่งใสและการให้เกียรติระหว่างกันควรมาก่อนเรื่องส่วนตัว

ยืนยันความหวังยังมี เจรจาไทย-กัมพูชายังไม่ถึงทางตัน

สุดท้าย ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันว่าแม้จะมีความตึงเครียดระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ แต่เขายังเชื่อว่า “การเจรจาทางการทูตยังเป็นทางออก” ที่ดีที่สุด และขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะเกิด สงครามไทย-กัมพูชา เหตุการณ์ทั้งหมดควรเป็นบทเรียนสำคัญในเรื่องความไว้ใจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความรับผิดชอบต่อประชาชน

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่