ข่าวการเมือง ยังคงร้อนระอุยิ่งอยู่ใกล้ช่วงเลือกตั้ง ล่าสุด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ออกมาประกาศไว้ในวันที่ 28 มกราคม 2566 เปิดเผยว่าตัวเขาพร้อมที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป “นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” พร้อมไล่ตะเพิดลุงแก่บ้าอำนาจให้กลับไปอยู่ในสิ่งที่ควร ไปนอนเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน..
พิธา ลิ่มเจริญรัตน์ ปลุกพลังเลือกพักก้าวไกล ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม พร้อมลบล้างไล่ตะเพิดลุงแก่บ้าอำนาจ ไม่กลับไปนอนเลี้ยงหลานอยู่บ้าน!
เมื่อเวลา 14:30 น ของวันที่ 28 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ภายในอาคารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี ม.ธรรมศาสตร์-ศูนย์รังสิต ซึ่งวันนี้พักก้าวก่ายได้มีการจัดประชุมประจำปีครั้งใหญ่ ซึ่งได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ต่างๆจากผู้นำพรรค คือ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซึ่งขณะที่ขึ้นปาสัยบางช่วงได้ออกมากล่าวไว้ว่า พร้อมที่จะนำพาประเทศไทยให้เดินต่อและก้าวหน้าไปมากกว่านี้ และพร้อมจะลงมือซ่อมประเทศเพื่อให้คนไทยมีการสร้างงานที่ดีขึ้น 99% สร้างอนาคตที่ดีกว่า ไม่ใช่จะให้ความสำคัญแค่คน 1% เท่านั้น ความสำคัญกับทุกคน
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงแนวทางเศรษฐกิจที่มีความเหลื่อมล้ำและเติบโตของประเทศ มันสามารถที่จะเติบโตได้มากกว่านี้แต่มันกลับลดลง ทำให้เขาได้มองเห็นปัญหาต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการงานและการเงิน รวมไปถึงโอกาส และในวิกฤตนี้ก็ได้เล็งเห็นแนวทางเพื่อให้จะนำรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้ในกรุงเทพฯ ร่วม 3,000 คัน ในระยะเวลา 7 ปี ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วจะตกปีละ 300 คัน มีโครงการที่จะพัฒนาต่อเกี่ยวกับระบบการประปาซึ่งจะนำเอาสมาร์ทมิเตอร์เข้ามาใช้งานและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เป็นเรื่องให้แก้ไขซ้ำซาก รวมไปถึงระบบการศึกษาจะต้องมีการปฏิวัติใหม่ ลดภาระครู ต่อเติมความฝันของเด็กให้เป็นจริง ลดการท่องจำอย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาพูดมามันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากยังไม่แก้ไขเรื่องราวในอดีต เรื่องราวในอดีตที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไขและยังเป็นปัญหาอยู่ จะมีการเมืองที่ดีการใช้ชีวิตที่ดีมีอนาคตที่ดี มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้ายังมีการเมืองแบบเดิมๆ อนาคตและปากท้องก็คงจะเหมือนเดิม การเมืองที่มาจากอำนาจคสช. การเมืองที่เกิดมาจากรัฐประหาร การไม้อำนาจฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างใหม่ให้คล้องจองกับอำนาจที่ตัวเองจะปกครองแล้วกลับมาเลือกตั้งยุบพรรคเรื่องราวแบบนี้มันคนจะเกิดขึ้นซ้ำๆซากๆวนไปทุกๆ 5 ปีอย่างแน่นอน คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ประเทศไทยจะสามารถก้าวก่ายไปได้อย่างไร ถ้าการเมืองอยู่ในการปกครองของทหาร การเมืองการปกครองนี้มันไม่ใช่เรื่องของมรดกของลุงแก่ๆที่มาร์คหลงไหลในอำนาจ ลุงแก่นก็ควรที่จะไปทำหน้าที่นอนอยู่บ้านเลี้ยงหลาน แต่นี่มาทำงานเป็นเวลา 8 ปี ก่อนหน้านี้สัญญาจะพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น สุดท้ายยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง ก่อนจะเปิดภารกิจสำคัญและตั้งเป้าหมายเอาไว้เพื่อนล้มล้างอำนาจลุงๆ “การปิดสวิตซ์ 3 ป.” ล้มล้างอำนาจของลุงที่มักจะคิดว่าการเมืองการปกครองนั้นเป็นมรดกสืบทอดของ คสช. ให้อำนาจนี้มันสาบสูญไปจากการเมืองไทยเสียที ประเทศถึงจะเดินหน้าต่อได้และไปไกลกว่านี้
สำหรับใครที่เห็นด้วยกับความคิดการล้มอำนาจมรดกคสช. แนวทางและสิ่งสำคัญที่จะต้องทำต่อจากนี้มี 2 อย่าง
1.ให้นำเอาพรรคการเมืองที่เป็นพักจำแลงของทหารออกจากระบบการเมืองไทย (พ.พลังประชารัฐ,พ.รวมไทยสร้างชาติ)
2.การเอารัฐธรรมนูญที่เอื้อต่ออำนาจคสช.ออกไปให้หมดจากสังคมไทย
*ถ้าเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี 100 วันแรก เขาจะตั้งประชามติเพื่อที่จะสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากความคิดของประชาชน*
การที่เขาได้มายืนในวันนี้ปราศรัยต่อหน้าทุกคน เขาให้คำมั่นสัญญาด้วยเกียรติสูงสุดในชีวิต “ผมพร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย” เขาพร้อมอย่างมากที่จะปิดสวิตซ์ 3 ป. ล้มล้างอำนาจมรดกคสช. เพื่อความหวังความก้าวหน้าของประเทศไทย เพื่อทำให้ประชาชนมีอนาคต การเงินการงานที่ดีขึ้น มันถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะก้าวออกมาเพื่อยืนหยัดและพร้อมเดินไปกับพักก้าวไกลเปลี่ยนประเทศไทยไม่ให้เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ให้อยู่ในอำนาจมรดกของใคร
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์