Friday, 29 March 2024

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศลั่น!! พร้อมขึ้นเป็นนายกคนต่อไป ลบล้างอำนาจลุงแก่บ้าง

ข่าวการเมือง ยังคงร้อนระอุยิ่งอยู่ใกล้ช่วงเลือกตั้ง ล่าสุด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ออกมาประกาศไว้ในวันที่ 28 มกราคม 2566 เปิดเผยว่าตัวเขาพร้อมที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป “นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” พร้อมไล่ตะเพิดลุงแก่บ้าอำนาจให้กลับไปอยู่ในสิ่งที่ควร ไปนอนเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน..

สล็อต xo Slotxo

พิธา ลิ่มเจริญรัตน์  ปลุกพลังเลือกพักก้าวไกล ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม พร้อมลบล้างไล่ตะเพิดลุงแก่บ้าอำนาจ ไม่กลับไปนอนเลี้ยงหลานอยู่บ้าน!

พิธา ลิ่มเจริญรัตน์  ปลุกพลังเลือกพักก้าวไกล ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม พร้อมลบล้างไล่ตะเพิดลุงแก่บ้าอำนาจ ไม่กลับไปนอนเลี้ยงหลานอยู่บ้าน!

เมื่อเวลา 14:30 น ของวันที่ 28 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ภายในอาคารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี ม.ธรรมศาสตร์-ศูนย์รังสิต ซึ่งวันนี้พักก้าวก่ายได้มีการจัดประชุมประจำปีครั้งใหญ่ ซึ่งได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ต่างๆจากผู้นำพรรค คือ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซึ่งขณะที่ขึ้นปาสัยบางช่วงได้ออกมากล่าวไว้ว่า พร้อมที่จะนำพาประเทศไทยให้เดินต่อและก้าวหน้าไปมากกว่านี้ และพร้อมจะลงมือซ่อมประเทศเพื่อให้คนไทยมีการสร้างงานที่ดีขึ้น 99% สร้างอนาคตที่ดีกว่า ไม่ใช่จะให้ความสำคัญแค่คน 1% เท่านั้น ความสำคัญกับทุกคน

นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงแนวทางเศรษฐกิจที่มีความเหลื่อมล้ำและเติบโตของประเทศ มันสามารถที่จะเติบโตได้มากกว่านี้แต่มันกลับลดลง ทำให้เขาได้มองเห็นปัญหาต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการงานและการเงิน รวมไปถึงโอกาส และในวิกฤตนี้ก็ได้เล็งเห็นแนวทางเพื่อให้จะนำรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้ในกรุงเทพฯ ร่วม 3,000 คัน ในระยะเวลา 7 ปี ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วจะตกปีละ 300 คัน  มีโครงการที่จะพัฒนาต่อเกี่ยวกับระบบการประปาซึ่งจะนำเอาสมาร์ทมิเตอร์เข้ามาใช้งานและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เป็นเรื่องให้แก้ไขซ้ำซาก รวมไปถึงระบบการศึกษาจะต้องมีการปฏิวัติใหม่ ลดภาระครู ต่อเติมความฝันของเด็กให้เป็นจริง ลดการท่องจำอย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาพูดมามันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากยังไม่แก้ไขเรื่องราวในอดีต เรื่องราวในอดีตที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไขและยังเป็นปัญหาอยู่ จะมีการเมืองที่ดีการใช้ชีวิตที่ดีมีอนาคตที่ดี มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้ายังมีการเมืองแบบเดิมๆ อนาคตและปากท้องก็คงจะเหมือนเดิม การเมืองที่มาจากอำนาจคสช. การเมืองที่เกิดมาจากรัฐประหาร การไม้อำนาจฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างใหม่ให้คล้องจองกับอำนาจที่ตัวเองจะปกครองแล้วกลับมาเลือกตั้งยุบพรรคเรื่องราวแบบนี้มันคนจะเกิดขึ้นซ้ำๆซากๆวนไปทุกๆ 5 ปีอย่างแน่นอน คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ประเทศไทยจะสามารถก้าวก่ายไปได้อย่างไร ถ้าการเมืองอยู่ในการปกครองของทหาร การเมืองการปกครองนี้มันไม่ใช่เรื่องของมรดกของลุงแก่ๆที่มาร์คหลงไหลในอำนาจ ลุงแก่นก็ควรที่จะไปทำหน้าที่นอนอยู่บ้านเลี้ยงหลาน แต่นี่มาทำงานเป็นเวลา 8 ปี ก่อนหน้านี้สัญญาจะพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น สุดท้ายยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง ก่อนจะเปิดภารกิจสำคัญและตั้งเป้าหมายเอาไว้เพื่อนล้มล้างอำนาจลุงๆ “การปิดสวิตซ์ 3 ป.” ล้มล้างอำนาจของลุงที่มักจะคิดว่าการเมืองการปกครองนั้นเป็นมรดกสืบทอดของ คสช. ให้อำนาจนี้มันสาบสูญไปจากการเมืองไทยเสียที ประเทศถึงจะเดินหน้าต่อได้และไปไกลกว่านี้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นักการเมืองหัวคิดทันสมัยทันโลก

สำหรับใครที่เห็นด้วยกับความคิดการล้มอำนาจมรดกคสช. แนวทางและสิ่งสำคัญที่จะต้องทำต่อจากนี้มี 2 อย่าง

1.ให้นำเอาพรรคการเมืองที่เป็นพักจำแลงของทหารออกจากระบบการเมืองไทย (พ.พลังประชารัฐ,พ.รวมไทยสร้างชาติ)

2.การเอารัฐธรรมนูญที่เอื้อต่ออำนาจคสช.ออกไปให้หมดจากสังคมไทย

*ถ้าเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี 100 วันแรก เขาจะตั้งประชามติเพื่อที่จะสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากความคิดของประชาชน*

การที่เขาได้มายืนในวันนี้ปราศรัยต่อหน้าทุกคน เขาให้คำมั่นสัญญาด้วยเกียรติสูงสุดในชีวิต “ผมพร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย” เขาพร้อมอย่างมากที่จะปิดสวิตซ์ 3 ป. ล้มล้างอำนาจมรดกคสช. เพื่อความหวังความก้าวหน้าของประเทศไทย เพื่อทำให้ประชาชนมีอนาคต การเงินการงานที่ดีขึ้น มันถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะก้าวออกมาเพื่อยืนหยัดและพร้อมเดินไปกับพักก้าวไกลเปลี่ยนประเทศไทยไม่ให้เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ให้อยู่ในอำนาจมรดกของใคร

Related posts
คนบันเทิงชาวเน็ตแสดงความเสียใจ! “เมฆ วินัย ไกรบุตร” “เสียชีวิต” แล้ว
จนท.เร่งสอบคดี “หั่นศพ” หลังพบ “เลื่อย” ถูกซุกเอาไว้ใต้เตียง!
ปูอัด เปิดใจ “ร้องไห้” เปิดใจหลังจาก “พรรคก้าวไกล” มีมติเอกฉันท์ ขับออกจากพรรค
เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบ “คุณปลื้ม” คาสนามบิน ส่งศาลคดีอาญาทุจริตฯ เจ้าตัวยังยิ้มออก
ผบ.ตร เคลียร์เหตุโอนคดี “กำนันนก” ให้กองปราบ – บิ๊กก้อง ลั่นไม่มีละเว้นสักยศ
วงจรปิดจับภาพ!! ผกก.เบิ้ม เป็นคนพาสารวัตรศิวและ รอง ผกก.ไป รพ.