ปัดให้สัมภาษณ์: พ.ร.ฎ.ยุบสภา เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 สถานการณ์ทางการเมืองในประเด็นการยุบสภาเข้าสู่ภาวะที่น่าจับตาอีกครั้ง เมื่อมีข่าวแพร่สะพัดว่าร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร ที่คณะรัฐมนตรีได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ “ถูกตีกลับ” ลงมา โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ข่าวการเมืองวันนี้ ได้เดินผ่านกลุ่มสื่อมวลชนที่รอสัมภาษณ์โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งแตกต่างจากท่าทีที่เคยแสดงออกอย่างมั่นใจก่อนหน้านี้

พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถูกตีกลับ: สัญญาณความไม่แน่นอน

แหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลได้เปิดเผยว่ามีข่าวลือหนาหูว่าร่าง พ.ร.ฎ. ยุบสภาฯ ที่ได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมานั้น ได้ถูกส่งคืนลงมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผิดปกติและไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยนักในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งหากข่าวนี้เป็นความจริง ก็จะส่งผลให้การคาดการณ์เรื่องการเลือกตั้งใหม่ต้องล่าช้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด และยังคงสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองต่อไป

ท่าที “ภูมิธรรม”: เดินหนีสื่อไม่ตอบคำถาม

ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือท่าทีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าได้มีการนำร่าง พ.ร.ฎ. ยุบสภาฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว แต่ในวันนี้ เมื่อกลุ่มสื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงกรณีข่าวที่ถูกตีกลับ นายภูมิธรรมกลับเลือกที่จะเดินฝ่าวงล้อมของสื่อไปโดยไม่มีการให้สัมภาษณ์หรือคำชี้แจงใดๆ ข่าวการเมืองล่าสุดวันนี้ ซึ่งท่าทีที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้สื่อและประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าข่าวการถูกตีกลับอาจเป็นความจริง

นักวิเคราะห์: เกมการเมืองยังไม่จบ

นักวิเคราะห์การเมืองต่างแสดงความคิดเห็นว่า การที่มีข่าว พ.ร.ฎ. ยุบสภาฯ ถูกตีกลับในครั้งนี้ อาจเป็นหนึ่งในเกมการเมืองที่มีความซับซ้อน โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งความไม่พร้อมของพรรคร่วมรัฐบาลและแรงกดดันทางการเมืองที่ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้อาจถูกตีความได้หลายแบบ และยังคงไม่มีใครรู้ว่าบทสรุปของสถานการณ์นี้จะจบลงอย่างไร

ความสับสนในระบบราชการ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนถึงความสับสนในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระบบราชการ เพราะในขณะที่ผู้มีอำนาจระดับสูงอย่างนายภูมิธรรมออกมาประกาศอย่างชัดเจน แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับไม่มีการยืนยันหรือชี้แจงใดๆ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และสร้างคำถามถึงความโปร่งใสในการดำเนินการ

ความไม่แน่นอนยังคงเป็นคำตอบ

ในท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้ช่วยให้เรื่องการยุบสภาชัดเจนขึ้นเลย แต่กลับทำให้เกิดความคลุมเครือและข้อสงสัยมากขึ้น ข่าวการเมืองออนไลน์ ว่าข้อเท็จจริงคืออะไรกันแน่ และใครคือผู้ที่พูดความจริงในเรื่องนี้ ซึ่งคงต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการจากผู้เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อคลายข้อสงสัยและคลายความกังวลของประชาชน

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่