ตั้งแต่วานนี้: ภูมิธรรมทูลเกล้าฯ ยุบสภา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 สถานการณ์การเมืองไทยเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและได้นำร่างพระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นทูลเกล้าฯ ข่าวการเมือง ถวายตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยนายภูมิธรรมระบุว่าจากนี้ไปเป็นเรื่องของพระราชอำนาจที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณถึงการสิ้นสุดของรัฐบาลชุดปัจจุบันและเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ในอนาคตอันใกล้

ภูมิธรรมทูลเกล้าฯ ยุบสภา ผลจากความขัดแย้งทางการเมือง

การตัดสินใจยุบสภาในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันและความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภายในและภายนอกรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นความไม่ลงรอยระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและแรงต้านจากภาคประชาชนที่ต้องการเห็นการปฏิรูปทางการเมืองครั้งใหญ่ ซึ่งการยุบสภาถือเป็นทางออกที่รัฐบาลเลือกใช้เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนในการตัดสินใจเลือกผู้แทนที่จะเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง

ภูมิธรรม ยันทำตามขั้นตอน ยุติบทบาทแล้ว

นายภูมิธรรมได้กล่าวกับสื่อมวลชนอย่างชัดเจนว่า “เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) เราได้นำร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายไปแล้ว” พร้อมอธิบายว่าขั้นตอนหลังจากนี้เป็นไปตามหลักการของรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่รัฐบาลได้ส่งเรื่องขึ้นไปแล้วก็ถือว่าได้ยุติบทบาทการตัดสินใจในเรื่องนี้แล้ว โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่หลังการเลือกตั้ง

นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งใหม่

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 ระบุว่า หลังจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปภายใน 45-60 วัน นับตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ ข่าวการเมืองออนไลน์ ซึ่งหมายความว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการหาเสียงและส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครั้งใหม่ทันที

พรรคการเมืองทุกฝ่ายเตรียมความพร้อม

การประกาศยุบสภาอย่างเป็นทางการส่งผลให้พรรคการเมืองทุกฝ่ายต้องเร่งเตรียมความพร้อม โดยพรรคฝ่ายค้านต่างออกมาระบุว่าพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างเต็มที่ เพื่อนำเสนอนโยบายใหม่ๆ ให้กับประชาชน ขณะที่พรรครัฐบาลก็ต้องวางแผนในการรักษาฐานเสียงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง

อนาคตการเมืองไทยบนความไม่แน่นอน

การยุบสภาในครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าการเมืองไทยยังคงอยู่ในช่วงเวลาแห่งความผันผวนและความไม่แน่นอน ซึ่งการตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ ข่าวการเมืองล่าสุดวันนี้ และจะเป็นการพิสูจน์ว่าการเลือกตั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้จะสามารถนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเมืองได้อย่างที่ทุกคนคาดหวังได้หรือไม่

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่