“ส่องได้แล้ว: เฟซบุ๊กฮุน เซนปลดล็อก ไอพีไทย ทัวร์ไทยบุกถล่มคอมเมนต์ – โพสต์เพลงปลุกใจรัวไม่หยุด”

“ส่องได้แล้ว: เฟซบุ๊กฮุน เซนปลดล็อก กลายเป็นกระแส ที่ร้อนแรงในโลกออนไลน์ไทย เมื่อ เฟซบุ๊กของ “สมเด็จฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา การเมือง และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ได้ทำการ ปลดบล็อก IP Address ของประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อย หลังจากถูกจำกัดการเข้าถึงจากผู้ใช้งานในไทยมานานหลายเดือน

ฮุน เซนเปิดเพจให้ไทยดูได้อีกครั้ง หลังเคยบล็อกไม่ให้เข้าถึง

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กของ ฮุน เซนถูกบล็อก IP จากประเทศไทย โดยไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่ามีความเกี่ยวข้องกับกระแสวิจารณ์และข้อพิพาทด้านแนวชายแดนในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุดข่าวการเมือง เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้งานชาวไทยเริ่มสังเกตได้ว่าเพจของฮุน เซนกลับมาเข้าถึงได้ตามปกติ และมีโพสต์ใหม่จากเจ้าตัวหลายโพสต์ ซึ่งส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “ความสามัคคีของชาติ” และการส่งเสริมอุดมการณ์ชาตินิยมของกัมพูชา

ทัวร์ไทยลงฉ่ำ คอมเมนต์ทะลักทั้งสนับสนุนและตั้งคำถาม

ทันทีที่เพจถูกปลดบล็อก ชาวเน็ตไทยจำนวนมาก เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์ของฮุน เซน อย่างหลากหลาย ทั้งในเชิง ตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาชายแดน, วิจารณ์นโยบายในอดีต, หรือแม้กระทั่งการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

หลายคอมเมนต์สะท้อนถึงความรู้สึกค้างคาใจของคนไทยบางกลุ่ม เช่น

• “อยากเห็นชายแดนไทย-กัมพูชาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ใช่ปะทะกันผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก”
• “การใช้เพลงปลุกใจไม่ใช่คำตอบ ถ้าไม่แก้ปัญหาในระดับท้องถิ่น”
• “หวังว่าจะไม่มีการใช้โซเชียลสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนสองประเทศ”

เจ้าตัวโพสต์รัว ๆ เพลงปลุกใจ สร้างกระแสชาตินิยมเข้มข้น

นอกจากการปลดบล็อก เฟซบุ๊กของฮุน เซนยังมีการโพสต์ วิดีโอคลิปหลายรายการที่มี “เพลงปลุกใจ” เป็นองค์ประกอบหลัก ไม่ว่าจะเป็นคลิปทหารฝึกซ้อม, เยาวชนในกิจกรรมชาติ หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา

เนื้อหาหลักของเพลงเหล่านี้คือการ ย้ำถึงการปกป้องแผ่นดิน ความภาคภูมิใจในชาติ และการไม่ยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอกเพลงปลุกใจที่ใช้ประกอบหลายโพสต์ มีจังหวะหนักแน่น และเนื้อร้องเน้นการต่อสู้เพื่ออธิปไตย ทำให้ผู้ชมจำนวนมากมองว่าเป็นการส่งสารทางการเมืองโดยตรง

วิเคราะห์: การสื่อสารของฮุน เซนในยุคดิจิทัล

การใช้เฟซบุ๊กของผู้นำหรืออดีตผู้นำทางการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ กรณีของฮุน เซนถือว่าชัดเจนมากในแง่ของการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อส่งสารทางการเมืองข้ามพรมแดนหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า การโพสต์ของฮุน เซนช่วงนี้มี เป้าหมายเพื่อแสดงจุดยืนด้านอธิปไตยของกัมพูชา และอาจต้องการใช้กระแสโซเชียลในการ กดดันไทยทางอ้อม เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนและความสัมพันธ์ทวิภาคี

คำถามสำคัญที่ควรจับตา

1. ไทยจะมีท่าทีอย่างไรต่อการโพสต์ที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
2. ประชาชนจะใช้โซเชียลในการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์หรือสร้างความแตกแยก?
3. เฟซบุ๊กของฮุน เซนจะถูกใช้ต่อเนื่องเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองหรือไม่?

การสื่อสารผ่านโซเชียลของผู้นำไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะสามารถเปลี่ยนทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้โดยตรง

สรุป: สงครามคำพูดในยุคเฟซบุ๊ก ใครถือ “คีย์บอร์ด” ก็มีพลัง

การปลดบล็อกเฟซบุ๊กของ ฮุน เซน เปิดประตูให้เกิดการแสดงออกจากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ข่าวการเมืองวันนี้ ขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นว่า การเมืองในโลกดิจิทัลไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่ข้ามพรมแดนได้ในพริบตาสิ่งสำคัญคือการรักษาความเข้าใจและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศ ไม่ให้ความขัดแย้งในโซเชียลกลายเป็นรอยร้าวในโลกจริง

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่