จับสึกรอบ 3 พระนอนบ้าน ขับรถตระเวนบิณฑบาต

วงการพระสงฆ์ฉาวอีกครั้งมีเรื่องให้นำเสนอข่าวไม่เว้นแต่ละวันกันเลยทีเดียว งานนี้วงการพระสงฆ์ก็ปวดหัวกันไม่น้อย จับศึกรอบ 3 แล้วหลวงพี่น้ำฝนพระนอนอยู่ที่บ้านแต่มีการขับรถตระเวนบิณฑบาตไม่ค่อยจำวัดเท่าไหร่ ญาติโยมเองก็สุขจึงร้องเรียนเข้ามา อัพเดทข่าวด่วนทันเหตุการณ์

จับสึกรอบ 3 พระนอนบ้าน ขับรถตระเวนบิณฑบาต

นับได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สะเทือนวงการพระสงฆ์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้แล้วมีหลวงพี่น้ำฝนจับศึกกันถึง 3 รอบ โดยมีพระสงฆ์นั้นขับรถตระเวนหาบิณฑบาตและไม่กลับมาจำวัด ซึ่งจะนอนที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ทั้งนี้เองญาติโยมก็สุดจะทนกับพฤติกรรมแบบนี้จึงเข้ามาร้องเรียนให้ตรวจสอบนั่นเอง

โดยวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาหลวงพี่น้ำฝนเจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐมนั้น ได้ออกมาดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขขัดข้องระบบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการร้องเรียนเข้ามาพร้อมทั้งให้ควบคุมตัวพระเรืองชัยทั้งนี้ขอสงวนนามสกุลเอาไว้ อายุ 70 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี

จะเห็นได้เลยว่ามีการขับรถมาบิณฑบาตในเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยขณะเดียวกันนั้น พระเรืองชัยได้ขับกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า มาบิณฑบาตในทุกๆเช้าบริเวณตลาดสดริมน้ำเทศบาลเมืองโป่ง จากการตรวจสอบพบว่าภายในรถยนต์นั้นพบอุปกรณ์ตัดไม้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ขวาน มีด ครีม ตัดเหล็ก เลื่อย และเลื่อยยนต์ตัดไม้

ทั้งนี้แล้วหลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเองหลวงพี่น้ำฝนก็ได้เข้ามาดูพฤติกรรมและลงพื้นที่เข้ามาดูว่าพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าวนี้ ถือได้ว่ามีพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์และไม่เหมาะสมแต่อย่างใด ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าหลวงพี่น้ำฝนเองก็ให้ข้อมูลว่ามีญาติโยมนั้นเข้ามาแจ้งเบาะแสถึงพฤติกรรมดังกล่าวของพระรูปนี้ที่มีมีการขับรถบิณฑบาตและไม่เข้าไปจำวัดแต่อย่างใด

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยพระที่อาตมาเคย จับศึกไปแล้ว 2 รอบ ทั้งนี้แอบกลับมาบวชใหม่จังหวัดสิงห์บุรีนั่นเอง ซึ่งตั้งแต่มาบวชนั้นก็ไม่เคยจำวัดแต่อย่างใดเลยกลับมาอยู่ที่บ้าน ทั้งนี้จึงได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาติดต่อในพื้นที่โดยมาดูในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการจับกุมพระเอาไว้ เพราะรู้สึกว่าพระรูปนี้นั้นมีท่าทีและพฤติกรรมที่แปลกเพราะขับรถมาบิณฑบาตเองประกอบไม่ใช่พระในพื้นที่จึงได้ควบคุมตัวซึ่งอาตมาตามมาอยู่แล้ว

แต่ถ้ารอบก่อนนั้นก็มีการแอบไปห่มผ้าเหลืองจะต้องมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะคงไม่มีใครที่อยากจะให้บวชอีกซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้นั้นชาวบ้านก็สุดจะทนและเลื่อมระอาเป็นอย่างมาก เพราะเกิดขึ้นมาหลาย 10 ปีแล้วซึ่งแน่นอนว่าคณะสงฆ์ก็จะมีการเข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้ให้อยู่เกี่ยวกับกรอบระเบียบของพระที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่