ทุนจีนสีเทางานเข้า! “ชูวิทย์” เดินหน้าเอาจริง เตรียมเปิดหลักฐานชิ้นสำคัญ ลั่นนอกในหมัดเดียว

โพสต์อัพเดทข่าวล่าสุด ของอดีตนักการเมืองชื่อดัง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ทุนจีนสีเทางานเข้าแล้ว อดีตนักการได้รวบรวมหลักฐานชิ้นสำคัญเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดและผู้มีส่วนร่วมในคดีดังกล่าว แง้มตำรวจต้องจับตำรวจด้วยกันเอง!! หลักฐานชิ้นนี้จะตัดสินว่าผู้บังคับการตำรวจและนายกฯควรดำรงตำแหน่งเพื่อสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนต่อไปหรือไม่

ทุนจีนสีเทางานเข้า คดีนี้ตำรวจต้องจับตำรวจด้วยกันเอง “ชูวิทย์” เตรียมยื่นเอกสารสำคัญ 11 โมง 23 ธ.ค. 65

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของอดีตนักการเมือง “ชูวิทย์” ภายหลังจากที่เมื่อไม่นานนี้ได้ออกมาปล่อยประโยคเด็ดเผยหลักฐานชิ้นสำคัญผ่าน facebook ส่วนตัว พึ่งได้มีการระบุใจความว่า วันที่ 22 ธันวาคมนี้ เจ้าตัวจะมีการแถลงข่าวด่วนภายในช่วงบ่าย เนื่องจากในวันที่ 23 ธันวาคม วันพรุ่งนี้ เขาจะเตรียมนำเอกสารทั้งหมดที่รวบรวมเอาไว้ได้ ซึ่งมันมีแต่หลักฐานเด็ดนำไปให้กับอัยการ จากที่เคยนัดเอาไว้ก่อนหน้า เวลา 11:00 น. อดีตนักการเมืองยังได้เปิดเผยอีกว่าหลักฐานทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับการอำพรางคดีของจินหลิง ซึ่งได้กล่าวเป็นนัยยาวอีกว่า “จินหลิง” คือคนที่ทำไฟไหม้และยังปล่อยให้มันลุกลาม ก็เสนอตัวไปช่วยเหลือ “ตู้ห่าว” คนที่ทำไฟไหม้อีกราย

นอกจากนี้ยังได้กล่าวว่า เอกสารที่เขาเตรียมเอาไว้นั้น “หมัดเดียวน็อค” มีข้อมูลสำคัญซึ่งหลักฐานที่รวบรวมเอามาได้เนื่องจากการช่วยเหลือของตำรวจน้ำดีที่กำลังจะปลดเกษียณ รวมไปถึงตำรวจที่มียศเป็นนายร้อยผู้ที่ไม่ยอมเอาชีวิตและอนาคตของข้าราชการมาเสี่ยง ได้พาการจัดส่งข้อมูลให้กับประชาชนที่ทำการเรียกร้องความเป็นธรรม หลักฐานที่ได้จะสามารถนำไปตั้งข้อหาในคดีฟอกเงิน ซึ่งก่อนหน้าไม่มีการตรวจพบและสารเกือบจะไม่มีการออกหมายจับให้แล้ว

อดีตนักการเมืองยังกล่าวถึง “บิ๊กโจ๊ก” และ ผู้บังคับการตำรวจ เปิดเผยว่าทั้งสองคนยังไม่ได้ทราบเรื่องข้อมูลสำคัญชิ้นนี้ เนื่องจากพยายามปกปิดเอาไว้ไม่ให้มีการรายงานไปถึงบุคคลในระดับสูง ก่อนจะบอกอีกว่าสำหรับคดีตู้หาวมีการจับแพะไปผิดคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตำรวจหรือแม้แต่ตัวประกัน โดยปกติแล้วตำรวจต้องจับโจร ดูเหมือนว่าในคดีนี้มันกลับตาลปัตร “ตำรวจต้องจับตำรวจ” เนื่องจากปกปิดและอำพรางคดีช่วยเหลือผู้กระทำความผิด “นายตู้ห่าว”

นอกจากนี้หลักฐานชิ้นสำคัญจะมีการนำไปให้ผู้สื่อข่าวเปิดเผย..และมันจะมีข้อมูลสำคัญที่สามารถตัดสินได้ว่าผู้บังคับการตำรวจและนายกรัฐมนตรีควรที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นมันคุ้มไหมที่ประชาชนจะได้รับ