Monday, 10 November 2025

โจนส์ทาวน์ (Jonestown) โศกนาฏกรรมการฆ่าตัวตายหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 40 ปีก่อน โลกต้องสั่นสะเทือนกับข่าวสุดสะพรึงของ “โจนส์ทาวน์ (Jonestown)” หมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางป่าลึกในประเทศกายอานา อเมริกาใต้ ซึ่งกลายเป็นฉากแห่ง การฆ่าตัวตายหมู่ของผู้คนกว่า 900 ชีวิต ภายใต้การนำของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า “จิม โจนส์ (Jim Jones)” นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์จริงที่ทั้งหลอน สลด และยังคงเป็นสัญลักษณ์ของ “ด้านมืดแห่งศรัทธา” มาจนถึงทุกวันนี้

สล็อต xo Slotxo

🕴️ จุดเริ่มต้นของชายผู้มีเสน่ห์ลึกลับ – Jim Jones

จิม โจนส์ เป็นนักเทศน์ชาวอเมริกันที่เริ่มก่อตั้งกลุ่มศาสนาเล็ก ๆ ขึ้นในช่วงปี 1950 ภายใต้ชื่อว่า “People’s Temple” เขาประกาศตัวว่าเป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยเมตตา สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และช่วยเหลือผู้ยากไร้

ในช่วงแรก เขาได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนผิวสีและชนชั้นแรงงาน เพราะคำสอนของเขาดูเป็นมิตรต่อทุกคน ไม่แบ่งแยก และมีแนวคิดแบบสังคมนิยมที่เน้นการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อของจิม โจนส์เริ่มเปลี่ยนจากการ “ช่วยเหลือผู้คน” ไปสู่การ “ควบคุมจิตใจ” เขาเริ่มเชื่อว่าตัวเองคือผู้ถูกเลือกจากพระเจ้า เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเหนือศาสนาและมนุษย์

โจนส์ทาวน์ (Jonestown)

🏚️ สร้างเมืองในฝัน “Jonestown” กลางป่ากายอานา

ประวัติศาสตร์ ในปี 1974 จิม โจนส์พากลุ่มศิษย์หลายร้อยชีวิตอพยพออกจากสหรัฐฯ ไปตั้งรกรากที่ประเทศกายอานา เพื่อสร้าง “ยูโทเปียแห่งสันติภาพ” ที่เขาเรียกว่า “โจนส์ทาวน์ (Jonestown)

หมู่บ้านแห่งนี้ถูกโฆษณาว่าเป็น “ดินแดนแห่งความเท่าเทียม” ไม่มีชนชั้น ไม่มีการเหยียดผิว ทุกคนทำงานแลกอาหาร มีชุมชนที่อบอุ่น และอยู่ภายใต้คำสอนของจิม โจนส์

แต่แท้จริงแล้ว เบื้องหลังความสงบสุขนั้นคือ ระบบควบคุมแบบลัทธิศาสนาเผด็จการ
ผู้คนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวที่อยู่ต่างประเทศได้
ทุกการกระทำ ทุกคำพูด ต้องผ่านการอนุญาตของ “ศาสดา” เพียงผู้เดียว

😨 จากความศรัทธา…สู่การล้างสมอง

จิม โจนส์เริ่มใช้วิธีการล้างสมองอย่างแนบเนียน เขาจัดประชุมทุกคืน ให้ลูกศิษย์ยืนฟังคำเทศน์เป็นชั่วโมง ๆ พร้อมทั้งย้ำว่า “โลกภายนอกเต็มไปด้วยความชั่วร้าย” และ “หากใครหนีไปจะต้องเจอกับหายนะ”

สมาชิกที่คิดหลบหนีหรือแสดงความสงสัยจะถูกลงโทษรุนแรง ทั้งการกักขัง การข่มขู่ และการประจานต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน

จิมยังหลอกล่อให้ผู้ติดตามบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้กับลัทธิ โดยอ้างว่า “ทรัพย์สินของพวกท่านคือของพระเจ้า” และยังควบคุมการสื่อสารทุกอย่างให้ผ่านตนเองเท่านั้น

✈️ จุดแตกหัก : เมื่อรัฐบาลเริ่มสงสัย

เมื่อข่าวลือเกี่ยวกับลัทธิ People’s Temple เริ่มแพร่สะพัด รัฐบาลสหรัฐฯ และสื่อมวลชนก็เริ่มส่งทีมสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ จนกระทั่งปี 1978 ส.ส. “ลีโอ ไรอัน (Leo Ryan)” เดินทางไปยังโจนส์ทาวน์ เพื่อสำรวจข้อเท็จจริง

ในตอนแรก ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี จนกระทั่งมีสมาชิกบางคนแอบส่งจดหมายร้องขอความช่วยเหลือ บอกว่า “พวกเราถูกกักขังอยู่ที่นี่”

เมื่อคณะของ ส.ส. ไรอัน เตรียมออกจากกายอานา สมาชิกของลัทธิบางส่วนได้ขอติดตามกลับไปด้วย ทำให้จิม โจนส์เดือดจัด เขาสั่งให้ลูกน้องติดอาวุธไปดักโจมตีคณะเจ้าหน้าที่ถึงสนามบิน จนมีผู้เสียชีวิตรวมถึง ส.ส. ไรอัน

สร้างเมืองในฝัน “Jonestown” กลางป่ากายอานา

☠️ คืนแห่งโศกนาฏกรรม – “ดื่มน้ำพิษเพื่อพระเจ้า”

หลังเหตุการณ์ฆ่าสังหารที่สนามบิน จิม โจนส์รู้ว่าทางการจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่ เขาจึงประกาศ “พิธีแห่งการอุทิศชีวิต” ให้ลูกศิษย์ทุกคนร่วมกัน “ละทิ้งร่างกายเพื่อความสงบชั่วนิรันดร์”

คำพูดนี้คือสัญญาณของ การฆ่าตัวตายหมู่

ในค่ำคืนวันที่ 18 พฤศจิกายน 1978 จิม โจนส์สั่งให้ผสมเครื่องดื่มเย็นกับไซยาไนด์ แล้วให้สมาชิกทุกคนดื่ม โดยเริ่มจากเด็กเล็กก่อน ตามด้วยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

เสียงร่ำไห้และความสับสนดังไปทั่วหมู่บ้าน แต่หลายคนไม่กล้าขัดขืน เพราะเชื่อว่าหากไม่ทำตาม จะถูกยิงหรือถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ

ผลลัพธ์คือผู้เสียชีวิตกว่า 918 คน รวมถึงเด็ก ๆ กว่า 300 คน นับเป็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตายหมู่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่

📖 บทเรียนจาก “โจนส์ทาวน์”

เหตุการณ์โจนส์ทาวน์ได้กลายเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังของโลกว่า

“ศรัทธาที่ไม่มีเหตุผล…อาจนำไปสู่ความหายนะได้”

หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เริ่มกำหนดกฎหมายควบคุมลัทธิศาสนาและการเผยแพร่ความเชื่อแบบสุดโต่งมากขึ้น รวมถึงใช้คำว่า “ดื่มน้ำมะนาว” (Drink the Kool-Aid) เป็นสำนวนแทนการ “เชื่อโดยไม่คิด” ซึ่งมีที่มาจากเครื่องดื่มที่ใช้ในพิธีฆ่าตัวตายหมู่ครั้งนั้น

🕯️ โจนส์ทาวน์ในวันนี้

ปัจจุบัน พื้นที่ของโจนส์ทาวน์ในประเทศกายอานาถูกปล่อยรกร้าง เหลือเพียงร่องรอยของบ้านไม้เก่า ๆ และป้ายรำลึกถึงผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 ชีวิต บางคนเรียกที่นี่ว่า “เมืองผีในป่าเขตร้อน” เพราะยังมีคนเล่าว่ามีเสียงกรีดร้องและเสียงสวดมนต์เบา ๆ ลอยมาตามสายลมในยามค่ำคืน

แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย โจนส์ทาวน์ก็ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึง พลังของความเชื่อที่บิดเบือน และเตือนให้มนุษย์ทุกคนรู้ว่า ศรัทธา…ควรมาพร้อม “สติ” เสมอ

📍สรุป

“โจนส์ทาวน์” ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ทางศาสนา แต่เป็นโศกนาฏกรรมของจิตใจมนุษย์ ที่บอกเราว่าความศรัทธา หากไม่มีการตั้งคำถามและขาดเหตุผล อาจกลายเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดในโลกได้