ความเป็นธรรมอยู่ไหน! ชายหญิงเล่นชู้ ชายตี 15 หญิงตี 100

17 ม.ค. 65 ข่าวต่างประเทศล่าสุด เว็บไซต์ AFP รายงานการลงโทษที่ไม่เป็นธรรม ชายหญิงเล่นชู้ ทั้งสองเป็นชาวอินโดนีเซีย ล่าสุดถูกศาลศาสนาสั่งลงโทษโหด “เฆี่ยน” ชายหญิงทั้งสองท่ามกลางสาธารณชน

ชายหญิงเล่นชู้ ชาวอินโดนีเซีย ศาลอาเจะห์ สั่งตัดสินหลังฝ่ายชายให้การปฏิเสธ เฆี่ยนฝ่ายหญิง 100 ที และ ฝ่ายชายสั่งเฆี่ยนเพียง 15 ที

เจ้าหน้าแผนกสืบสวนสอบสวนแห่ง สน.อัยการอาเจะห์ภาคตะวันออก (อีวาน นัจจาร์ อาลาวี) ออกระบุ ชายหญิงเล่นชู้ และจะมีการลงโทษอย่างหนักโดยเฉพาะฝ่ายหญิง เนื่องจากเธอเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว ได้ทำผิดนอกกายนอกใจสามี ลักลอบมีเพศสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายที่ไม่ใช่สามี

ทางด้านบทลงโทษฝ่ายชาย (หัวหน้า สน.ประมงอาเจะห์ภาคตะวันออก)ที่ ถูกกล่าวหาร่วมมีสัมพันธ์สวาทกับหญิงรายนี้ ชายคนนี้ก็เป็นชายที่มีการแต่งงานและมีลูกแล้ว จากการสอบสวนของผู้พิพากษา ชายคนดังกล่าวให้การปฏิเสธทุกอย่างพร้อมยืนยันหนักแน่นว่าตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหญิงรายนี้

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกว่าแจ้งว่า ขณะทำการไตร่สวนฝ่ายชาย เขาให้การปฏิเสธทุกเรื่อง นอกจากนี้เขายังออกมายืนยันตลอดว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากคำให้การทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามชาย-หญิงทั้งคู่ก็ได้รับการลงโทษตามกฎหมายชารีอะห์ ตามหลักศาสนาอิสลามเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

ในครั้งนี้แม้เจ้าหน้าที่จะหาหลักฐานมาเอาผิดเขาได้ แต่ผู้พิพากษาได้รู้ข้อมูลด้วยว่าเขามีความผิดที่กระทำการใส่ใจรักใคร่กับหญิงสาวที่ไม่ใช่ภรรยาและไปอยู่กันสองตอสองในสวนปาล์ม(ปี ค.ศ. 2018) และขณะนั้นเองมีผู้เข้าไปพบเห็นเข้า

ในการตัดสินครั้งแรกศาลได้สั่งเฆี่ยนฝ่ายชาย 30 ครั้ง เขาได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ทำให้ศาลลดโทษการเฆี่ยนลงเหลือเพียง 15 ครั้ง ในทางตรงกันข้ามฝ่ายหญิงที่ถูกศาลสั่งลงโทษเฆี่ยน 100 ครั้ง ต้องถูกระงับการลงโทษเธอชั่วคราวเนื่องจากเธอไม่สามารทนความเจ็บไม่ไหว

นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่ามีชายอีกจำนวนหลายรายที่ถูกศาลสั่งลงโทษเฆี่ยน 100 ครั้ง เพราะไปมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิง (พากผู้เยาว์) และโทษที่ชายเหล่านี้จะได้รับคือการจำคุกเป็นเวลา 6 ปี 3 เดือน

ทั้งนี้ จังหวัดอาเจะห์เป็นเพียงจังหวัดเดียวของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งยังมีการบังคับใช้กฎหมายศาสนาอสลามที่เรียกว่า “ชารีอะห์” ส่วนใหญ่จะใช้ลงโทษกับผู้ที่ เล่นการพนัน-เล่นชู้-ดื่มแอลกอฮอล์ รักร่วมเพศ

กฎหมายชารีอะห์ ซึ่งเป็นกฎหมายศาสนาที่ถูกบังคับใช้และมีบทลงโทษอย่างจริงจัง นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวยังเป็นข้อตกลงระหว่างปชาชนกลุ่มที่แบ่งแยกกับทางรัฐบาลอินโดฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 และจากข้อตกลงนี้ยังเป็นการยุติการก่อความไม่สงบภายในประเทศมานานหลายสิบปี

ทางด้านนักสิทธิมนุษยชนกับไม่เห็นด้วยในการลงโทษอย่างทารุณและยังลงโทษประจานในพื้นที่สาธารณ นอกจากนี้ผู้ที่ออกมาสนับสนุนการุติบทบาทการลงโทษตามกฎชารีอะห์ยังเป็นประธานาธิบดีของประเทศ ในส่วนของประชาชนที่อยู่ในจังหวัดอาเจะห์ยังยืนการให้ภายในจังหวัดตนมีการลงโทษแบบเดิม เพื่อเอาผิดต่อผู้ไม่รู้จักดีชั่วตั้งใจทำผิด