พ่อแม่ชาวจีนร่ำไห้ ตัดสินใจบริจาคอวัยวะลูกชายวัย 7 ขวบ

พ่อแม่ชาวจีนร่ำไห้ จากข่าวรอบโลกเมื่อเด็กน้อยวัย 7 ขวบ เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ภายหลังได้พยายามช่วยชีวิตร่วม 30 ชม. กระทั่งหมอบอกว่า เด็กชายสมองตายแล้ว พ่อแม่จึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะตามเป้าหมายของลูกที่อยากเป็นหมอช่วยชีวิตคน

พ่อแม่ชาวจีนร่ำไห้ หลังลูกสมองตาย ตัดสินใจบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยคน

เฉอ ตงเจิ้น (She Dongzhen) เด็กชายวัย 7 ขวบ ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และหลังจากพยายามช่วยชีวิตเขานานกว่า 30 ชั่วโมง หลังจากวันที่ประสบเหตุ 2 วัน โรงพยาบาลได้ออกประกาศสำคัญต่อพ่อแม่ของเขาว่าเด็กน้อยได้สมองตาย ในเขตอำนาจศาลหลายแห่งทั่วโลก ความตายของสมองถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้การตายทางกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าเด็กคนนี้จะไม่รอดอีกต่อไป

หลังจากได้ยินข่าวร้ายดังกล่าว เฉอ โจวเจียง (She Zhoujiang) พ่อ และ เวิง ลู่ลู่ (Weng Lulu) แม่ ของเด็กชาย ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของลูกชาย สำหรับพวกเขาไม่เพียงแต่วิธีช่วยเหลือผู้อื่น แต่ยังเป็นวิธีที่ลูกชายสามารถดำเนินชีวิตผ่านผู้อื่นด้วย ในประเทศส่วนใหญ่ หากเด็กเสียชีวิตก่อนอายุ 18 ปี พ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะบริจาคอวัยวะของตนหรือไม่

เวงเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกชายของเธอชอบช่วยเหลือผู้อื่นและใฝ่ฝันที่จะเป็นหมอในวันหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น ดังนั้นการบริจาคอวัยวะจะทำให้ความฝันของเขาส่วนหนึ่งเป็นจริง เนื่องจากอวัยวะของเขาช่วยชีวิตผู้อื่นได้

“ลูกชายของฉันเป็นผู้ชายที่รัก เขามักจะช่วยเด็กที่อายุน้อยกว่าในโรงเรียนและมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีเมตตา เขากำลังเตรียมที่จะเล่นไวโอลินบนถนนเพื่อรวบรวมเงินให้กับนักเรียนที่ยากจน” เวงกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า วันเกิดลูกชายของเธออายุครบแปดขวบในอีก 1 เดือนข้างหน้า เขาจะได้เข้าเรียนในชั้นเรียนใหม่ในโรงเรียนประถมและได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นที่นั่น แต่ทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เธอคิด

ผู้ประสานงานการบริจาคอวัยวะของสภากาชาดแห่งมณฑลเจ้อเจียงเป็นพยาน ทั้งคู่ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง โดยบริจาคหัวใจ ไต ตับ และกระจกตาของลูกชาย ซึ่งตามที่ผู้ประสานงานระบุว่า จะมอบชีวิตใหม่ให้กับเด็ก 6 คน

“เราสูญเสียลูกไป และเราไม่ต้องการให้คนอื่นเจ็บปวดแบบเดียวกัน” พ่อของเด็กชายบอกกับผู้สื่อข่าว

1 ชีวิตที่สูญเสีย สู่อีก 6 ชีวิตที่เริ่มใหม่ เป็นการดับสลายที่เติบโตไปได้พร้อม ๆ กัน