พ่อแม่พาเที่ยวรอบโลก หลังค้นพบลูก 3 ใน 4 คน อนาคตมองไม่เห็น เพราะจอประสาทตาเสื่อม

ข่าวต่างประเทศ จากรายงานล่าสุด เรื่องราวของครอบครัวชาวแคนาดา พ่อแม่พาเที่ยวรอบโลก เพราะตรวจสอบพบว่าลูกๆของพวกเขา ภายในอนาคตจะไม่สามารถมองเห็นตลอดไป เกิดจากพันธุกรรมที่เราเรียกมันว่า Retinitis pigmentosa

เพื่อลูกแล้วทำได้ทุกกอย่าง อยากให้เห็นเก็บวิวสวย พ่อแม่พาเที่ยวรอบโลก หลังรู้ว่าในอนาคตจะมองไม่เห็น

Edith Lemay และ Sebastien Pelletier พ่อแม่ชาวแคนาดาทั้งสองได้ค้นพบว่าลูกของพวกเขามากกว่า 3 คน จากทั้งหมด 4 คน เด็กๆได้อยู่ในสภาวะจอประสาทตาเสื่อม นั่นหมายความว่าพวกลูกของเขาและเธอกำลังจะมองไม่เห็นไปตลอดชีวิตในไม่ช้าไม่นานต่อจากนี้ไป โดยโรคที่เป็นสาเหตุนั้นมันเกิดจากพันธุกรรม ซึ่งเราจะเรียกชื่อของโรคนี้ว่า Retinitis pigmentosa

“การสูญเสียการมองเห็น” โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าสิ่งอันเลวร้ายนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้เป็นพ่อแม่ เนื่องจากคนที่กำลังมองไม่เห็นนั่นเป็นลูกๆของพวกเขา แพทย์ได้แนะนำให้ครอบครัวเร่งสร้างความทรงภาพที่เป็นภาพแห่งความสุขและสวยงามให้แก่ลูก เพราะเมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเขาจะได้มีความทรงจำอันดี

สำหรับครอบครัวชาวเคนาดานี้ ได้เริ่มวางแผนในการท่องเที่ยวรอบโลกมาตั้งแต่ช่วง กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2020 แต่ทว่าตอนนั้นก็มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงเป็นสาเหตุไม่สามารถเดินทางรอบโลกได้อย่างที่ต้องการ และครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 6 คน โควิดทำให้เลื่อนแผนการเพิ่งเริ่มออกเที่ยวในไม่นานนี้

โดยในช่วงเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมาไม่นานนี้ พวกเขาทั้งครอบครัวได้เริ่มออกเดินทาง เรื่องราวของครอบครัวนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจจากผู้คนไม่น้อย หลายคนก็ได้ต่างจับตามองพวกเขา ผ่านทางโลกออนไลน์ สถานที่เริ่มต้นแห่งการผจญภัยครั้งสำคัญได้เริ่มขึ้นที่ “นามิเบีย” พ่อแม่และเด็กๆ ได้พากันไปดูสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้าง ม้าลาย ยีราฟ  นอกจากนี้พวกเขายังมุ่งเดินทางไปเที่ยวต่อที่แซมเบียและแทนซาเนีย ก่อนที่จะบินต่อไปที่ประเทศตุรกี มองโกเลีย อินโดนีเซีย

Sebastien Pelletier ได้ออกมากล่าวเอาไว้ว่า พวกเราสนใจในการท่องเที่ยว และสิ่งที่เราห้ความสำคัญที่จะไปชื่นชมก็คือสัตว์และพืชเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีสัตว์จำนวนมากที่น่าสนใจและมันทำให้รู้สึกทึ้งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นแอฟริกาหรือตุรกี และสถานที่อื่นที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ พวกเขายังบอกต่อว่า..พวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้ทั้งนั้นเพื่อลูกของพวกเขา และให้ลูกได้เห็นสิ่งต่างๆ ให้ประสบการณ์อันล้ำค่าให้พวกเขา และสิ่งนี้ไม่มีอยู่ที่บ้าน แต่ลึกๆแล้วพวกเขาหวังว่าจะมีวิธีการที่สามารถรักษาลูกของพวกเขาได้ นั้นเป็นสิ่งที่ผู้เป็นพ่อแม่คาดหวังในที่สุด แต่ก็รู้ดีว่าคงมีสักวันที่เรื่องที่พวกเขาไม่ปรารถนาเกิดกับลูกของพวกเขาต้องตาบอด และจำเป็นต้องทำให้พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญกับเรื่องท้าทาย

ในปัจจุบันครอบครัวนี้ยังคงมีแผนการเดินทางท่อเที่ยว และลงรูปกันรัวๆในสถานที่ต่างๆที่พวกเขาได้ไป ทั้งในเฟซบุ๊กและไอจี การเดินทางยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และคาดพวกเขาได้มีกำหนดการในการเดินทางกลับบ้านเกิดในเดือนมีนาคม ปีหน้า ค.ศ.2023