มือระเบิดฆ่าตัวตาย ท่ามกลางกลุ่มผู้หญิงและเด็กหลายคน หน้าประตูทางสนามบินกรุงคาบูล เสียชีวิตแล้ว 72 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวล่าสุด หน้าประตูทางสนามบินกรุงคาบูล เกิดเหตุการณ์โจมตีครั้งแรก มือระเบิดฆ่าตัวตาย ท่ามกลางกลุ่มผู้หญิงและเด็กอีกจำนวนหลายคน เป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตรวมกว่า 72 ราย

มือระเบิดฆ่าตัวตาย ท่ามกลางกลุ่มผู้หญิงและเด็กหลายคน หน้าประตูทางสนามบินกรุงคาบูล ก่อนจะมีการระเบิดครั้งที่สองที่ โรงแรมบารอน

มือระเบิดฆ่าตัวตาย ท่ามกลางกลุ่มผู้หญิงและเด็กหลายคน หน้าประตูทางสนามบินกรุงคาบูล ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากกว่า 72 ราย ทั้งนี้ไปประกอบด้วย ชาวอเมริกันอย่างน้อยๆ 12 ราย และชาวอัฟกันระมาณ 60 ราย ทางด้านกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา หรือมีชื่อเรียกว่า เพนตากอน ได้ออกมาเปิดเผย สำหรับการเกิดเหตุระเบิดทั้งสองครั้ง ณ บริเวณด้านนอกของสนามบินกรุงคาบูล ซึ่งเป็นสนามบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อเมริกันและชาวอัฟกันได้เสียชีวิตลงหลายรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

ในวันเดียวกันนั้น พลเอกแฟรงค์ แมคเคนซี ตำแหน่งผู้บัญชาการกองบัญชาการภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง จัดโต๊ะแถลงข่าวการระเบิดที่เพนตากอน ทั้งนี้ได้แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ทหารของอเมริกาจำนวน 12 ราย ได้เสียชีวิตจากการระเบิด โดย 11 คนแรกเป็นเจ้าหน้าที่นาวิกโยธิน และอีกหนึ่งคนที่เหลือคือ แพทย์ของกองทัพเรือ หลังเกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ได้มีการยิงตอบโต้งกับผู้ก่อเหตุ จึงเป็นเหตุให้ทหารอเมริกันได้รับการบาดเจ็บอีก 15 ราย ในส่วนของชาวอัฟกันที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นมีจำนวน 60 ราย และยังมีผู้ได้รับการบาดเจ็บอีกกว่า 145 ราย

จอห์น เคอร์บี ผู้ดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาระบุข้อมูลเพิ่มเติมว่า การระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งแรกบริเวณหน้าประตูทางสนามบินกรุงคาบูล ประตูแอบบีย์ มันเป็นการโจมตีที่มีการวางแผนมาก่อนซึ่งสลับซับซ้อน หลังการระเบิดครั้งแรกไปไม่นานนัก ถัดไปบริเวณใกล้เคียง ณ โรงแรมบารอน มีการรายงานการระเบิดขั้นอีกครั้งด้วย

ทั้งนี้ยังมีแหล่งข่าวจากคนในกลุ่มตาลิบันได้ให้การยืนยันกับวีโอเออีกว่าผู้ก่อเหตุนั้น เป็นมือระเบิดที่จะรฆ่าตัวตายตามอุดมการณ์ โดยจะชอบมีการระเบิดฆ่าตัวตายในพื้นที่ที่มีคนเยอะๆ จึงเห้นได้ว่าการระเบิดครั้งแรกจะเกิดตรงจุดที่มีผู้หญิงและเด็กที่กำลังจับกลุ่มกันจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั้งสองครั้ง ยังไม่มีหน่วยงานหรือฝ่ายใดๆ ออกมายอมรับผิดชอบ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเลยรายงานจากข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาที่ได้มีการคาดว่า เหตุครั้งนี้เกิดจาก คนของกลุ่มอิสลามที่อาศัยอยู่ในอัฟกานิสถานที่ดำเนินการก่อเหตุระเบิด โดยก่อนหน้ารัฐบาลของชาติตะวันตก ได้ทำการเตือนให้มีการเฝ้าระวังการโจมตีที่บริเวณสนามบิน อย่างไรก้ตามแม้ว่าจะมีการก่อเหตุจงใจฆ่าตัวตายด้วยการระเบิดและหมายจะทำให้ผู้อื่นเสียหายด้วย ก็ยังมีชาวอัฟกันอีกจำนวนมากที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดต่างพากันไม่หวั่นเฝ้ารอการเดินทางออกนอกประเทศ ในบริเวณสนามบินกรุงคาบูล หนีจากกลุ่มตาลีบันที่ได้เข้ามาทำการยึดเมืองไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 สิหาคม 2564

รายงานจากธรรมเนียบขาว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับมอบรายงานสรุปทั้งหมดจากเหตุระเบิดแล้วและได้ดำเนินการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง เกี่ยวกับสถานการณ์การระเบิดในครั้งนี้ต่อไป เพื่อหาทางออกในด้านต่างๆ

สถานทูตอเมริกันที่ตั้งอยู่ในกรุงคาบูลมี เจ้าหน้าที่ได้ออกมาแจ้งว่าเตือนพลเมืองของตนด้วยว่า “พลเมืองของสหรัฐฯ ควรให้การหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางไปที่สนามบินกรุงคาบูล ในส่วนของพลเมืองใดก็ตามที่ยังอยู่บริเวณประตูแอบบีย์ และประตูต่างๆของสนาบิน เตือนให้เดินออกจากบริเวณนั้นทันที” ใน่ส่วนของผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมากจะถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลฉุกเฉินของกรุงคาบูล

ณ ตอนนี้ทางด้านของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร กำลังร่วมกันเร่งนำพลเมืองของตนพร้อมกับชาวอัฟกันที่เคยทำงานใร่วมกับคนชาติตะวันตกในหว่างช่วง 20 ปีมานี้ อพยพเดินทางออกนอกอัฟกานิสถานโดยได้แบ่งการเดินทางออกเป็น เครื่องบินทหาร เครื่องบินพาณิชย์  เพื่อเร่งการอพยพให้ทันก่อนถอนกำลังทหารในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ และข่าวล่าสุดเป็นที่น่ายินดีที่ได้มีการอพยพไปได้แล้วกว่า 95,700 คน