ม็อบฝรั่งเศสเดือด เผาศาลากลาง ไม่พอใจนกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณ 64 ปี

ข่าวต่างประเทศ ล่าสุดเกิด ม็อบฝรั่งเศสเดือด ทำตัวไปเผาศาลากลาง หลังจากที่มีการประกาศกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณ 64 ปี จากเดิม 62 ปี กรณีนี้สร้างความไม่พอใจให้กับแรงงานในหลายภาคส่วน หลายคนมองว่ารัฐบาลต้องการให้ประชาชนทำงานจนแก่ตาย ทำงานเสร็จก็เดินเข้าหลุมเลยหรือ…

ม็อบฝรั่งเศสเดือด ต่อต้านไม่เห็นด้วยกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณ 64 ปี

กรณีล่าสุดประชาชนชาวฝรั่งเศสรวมตัวการเผาศาลากลางบอร์โดซ์กันอย่างดุเดือด หลายคนไม่พอใจภายหลังจากที่มีการประกาศกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 ปีไปเป็น 64 ปี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ในช่วงค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 เป็นเวลาท้องถิ่นของเหตุการณ์ประท้วงเพื่อปฏิรูปกฎหมายเกษียณอายุฉบับใหม่ที่พึ่งออกมา

ชาวฝรั่งเศสยังมองอีกมุมนึงว่าถ้าเกษียณอายุเพิ่มขึ้นนั่นหมายความว่าเวลาที่จะได้รับเงินบำนาญก็ช้าลง แล้วเวลาที่เหลือในการใช้เงินก็ลดลงด้วย กลุ่มผู้ประท้วงมีแนวโน้มอย่างสูงที่จะทำลายอาคารทรัพย์สินที่อยู่ในละแวกนั้นไม่ว่าจะเป็นป้ายรถเมล์หรือป้ายโฆษณาต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ทางรัฐต้องออกมาปราบปรามผู้ประท้วงโดยการใช้แก๊สน้ำตา

ขณะเดียวกันนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งจากเมืองรวงซึ่งเป็นเมืองอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปารีส เธอถูกแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่โยนมาสลายผู้ชุมนุมมันระเบิดใส่มือจนทำให้มือข้างหนึ่งของเธอขาด

ในการปรับกฎหมายฉบับใหม่เพิ่มมาอยู่ผู้เกษียณทำให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสไม่พอใจและออกมาเรียกร้องประท้วงพร้อมกันมากถึง 20 จุดทั่วประเทศในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ทั้งนี้สภาแรงงานได้มีการประเมินตรวจสอบจำนวนผู้ที่ออกมาประท้วงมีมากถึง 3.5 ล้านคน เป็นจำนวนเฉลี่ยรวมทั้งประเทศความไม่พอใจของประชาชนชาวฝรั่งเศส แต่ทางรัฐบาลฝรั่งเศสออกมายืนยันในจำนวนที่แตกต่างกันว่าประชาชนออกมาประท้วงเพียง 1 ล้านคน หมายความว่าจำนวน 1 ล้านนี้เป็นกลุ่มแรงงานที่ไม่พอใจกฎหมายฉบับใหม่

สำหรับวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 สาเหตุที่ทำให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ออกมาชุมนุมเรียกร้องและต่อต้านกฎหมายฉบับใหม่ “กฎหมายเกษียณอายุเพิ่มขึ้น” เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางรัฐบาลฝรั่งเศสพยายามที่จะดันกฎหมายให้ไปอยู่ในช่องว่างในรัฐธรรมนูญ และทำให้มันถูกกฎหมายโดยที่ไม่ผ่านการลงมติของรัฐสภา