ยอมเดินทางไกลในวันสำคัญ ระยะทางร่วม 2 พันกิโลเมตร ย่าวัย 83 ปีมางานรับปริญญาหลานสาว

ข่าวต่างประเทศล่าสุด รายงานที่ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึมไปตามๆกัน เรื่องราวของสองย่าหลาน โดยไม่นานนี้! ผู้เป็นย่ายอมเดินทางไกลในวันสำคัญ หลานสาวรับปริญญาการจบการศึกษา แม้ว่าจะต้องแบกสังขานมาร่วมระยะทาง 2,000 กิโลเมตร

น้ำตาแตก! สุดซาบซึ้งและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ยอมเดินทางไกลในวันสำคัญ ระยะทางร่วม 2 พันกิโลเมตร เพื่อมางานรับปริญญาหลานสาวสุดรัก

ไม่หวั่นไกลแค่ไหนก็ไปถึงเพื่อเธอคนเดียว ยอมเดินทางไกลในวันสำคัญ เรื่องราวที่กลายเป็นไวรัลเรียกน้ำตาของย่าหลาน ในงานวันรับปริญญา นับว่าเป็นเรื่องปกติที่นักศึกษาที่ตบการศึกษาล้วนแต่อย่างให้คนที่เรารักมาร่วมแสดคงามยินดีในอีกหนึ่งวันสำคัญที่สุดในชีวิต แต่บางครั้งด้วยเหตุผลหลายอย่างก็ใช่ว่าจะสมหวังเสมอไปทั้งหมด ล่าสุด เรื่องราวของนักศึกษาชาวเวียดนามที่เธอก็เป็นหนึ่งคนที่รอคอยคุณย่ามาร่วมแสดงความยินดี ท้ายที่สุดก็เกิดสิ่งที่สร้างความประทับใจ ความตราตรึงในใจ

ในวันที่ 25 กันยายน 2565 ทางเพจเฟซบุ๊กของ MIT University Vietnam ออกโพสต์แบ่งปันเรื่องสุดประทับใจเรียกน้ำตาแห่งความปิติ โดยทั้งหมดมันเป็นเรื่องราวของนักศึกษาสาวจบใหม่นามว่า “เหงียน ถิ ทัม” นักศึกษาว่าคณะเภสัชศาสตร์ เธอหลั่งน้ำตาแห่งความตื้นตันอย่างไม่อาย เมื่อได้พบหน้าคุณย่าในวัย 83 ปี ซึ่งได้แบกสังขาลเดนทางข้ามจังหวัดมาร่วมระยะทาง 2,000 กิโลเมตร และการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเธอคนเดียว!!

เหงียน ถิ ทัม เผยว่าปู่ของเธอได้เสียไปตั้งแต่ช่วงปี 2559 เพราะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปู่ที่คอยเป็นแรงผลักดันให้เธอพร้อมให้การสนับสนุนเรื่อยมา เพื่อให้เธอได้เรียนศึกษาต่อ มากไปกว่านั้นปู่อยากเห็นเธอสวมใส่ชุดครุย แต่มันกเป็นเรื่องเศร้าที่ปู่ไม่สามารถอยู่ได้ถึงในวันที่เธอจบการศึกษา คุณย่าได้เดินทางมาเพื่อเป็นตัวแทนปู่เพื่อดูความสำเร็จของหลานสาวแสนรัก

ทั้งนี้ การเสียชีวิของปู่มันทำให้เอตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อในทางการแพทย์ เพราะเธอมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือและทำการรักษาคนอื่น ในวันจบการศึกษาหยิงสาวรู้ดีว่าคุณย่ากำลังเดินทางมาหาเพื่อแสดงความยินดี เมื่อย่ามาถึงมันทำให้เอซาบซึ้งใจอย่างมากจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวมันพลั่งพลูออกมา

ย่า คือ “แขกตนพิเศษ” ผู้ที่ยอมเหนื่อยเดินทางในระยะไกลมากกว่า 2,000 กิโลเมตร การมาเยือน การมาแสดงความยินดีทุกความสำเร็จ ตั้งแต่เอเรียนอยู่ชั้นประถม จนมันนี้จบการศึกษาในระดับมหาลัย สิ่งนี้มันเป็นความสุขของเธอ นับว่าเธอมีความโชคดีมากที่มีครอบครัวให้การสนับสนุนทางด้านการศึกษา อยากจะบอกว่าเอรักคุณย่ามาก ตอนนี้ย่าของเธอแก่มากแล้ว แน่นอนว่าสุขภาพร่างกายของท่านไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก แต่ท่านก็ยอมที่จะเดินทางในระยะไกลเพื่อมาเจอเธอ คุณย่าก็ดีใจมากเช่นเดียวกันที่ได้เจอเธอ เพราะทั้งสองไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นเวลานานมากแล้วจริงๆ หยิงสาวบอกว่าเธอจะใช้ช่วงเวลานี้ให้คุ้มโดยการพาย่าไปท่องเที่ยว

ทั้งนี้คุณย่าของเหงียน ถิ ทัม ได้ออกมาบอกเช่นเดียวกันว่า ย่าภูมิใจในตัวของหลานสาวคนนี้มาก ทำให้ยอมที่จะเดินทางไกลมาหามาเจอ แม้ว่าระยะทางนั้นร่วมหลายพันกิโลเมตร การได้เห็นความสำเร็จของคนที่รัก(หลานสาว)มันก็คือความสุขอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามคุณย่าบอกว่าระยะทางมันไม่สำคัญเท่ากับหลานสาวที่ได้จบการศึกษาแล้ว ความสำเร็จของหลานสาวนั้นมันแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง ทั้งความเพียรพยายาม ต้องเสียเหงื่อหลายครั้งต่อหลายครั้ง และหลานสาวยังได้สร้างความหวังให้กับครอบครัวอีกด้วย