ลูกที่เกิดจากการข่มขืน หวนคืนสู่อ้อมอกแม่ผู้ให้กำเนิดพร้อมแจ้งความเพื่อเอาผิดชายที่ขืนแม่ของเขา

ลูกที่เกิดจากการข่มขืน หวนคืนสู่อ้อมอกแม่ผู้ให้กำเนิดพร้อมแจ้งความช่วยทวงคืน เพื่อเอาผิดชายที่ขืนแม่ของเขา พร้อมทวงคืน“ความยุติธรรม” ให้แม่!! หลังอ่านข่าวว่าเขานั้นไม่ได้เกิดมาเพราะ “ความรัก” เขาเลยตัดสินใจช่วยแม่ของเขานั้นดำเนินคดีต่อสองพี่น้องเพื่อนบ้านของแม่ที่เข้ามาข่มขืนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา

ลูกที่เกิดจากการข่มขืน ช่วยทวงคืน “ความยุติธรรม” ให้แม่ได้สำเร็จ เรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นจริง หลายคนยังไม่รู้!! 

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตับกุมตัวผู้ต้องหาเป็นชายสองคนที่ข่มขืนหญิงสาวเมื่อปี 1994 และยังไม่ได้รับการเยียวยาได้สำเร็จ เพราะลูกชายที่กำเนิดมาในครั้งนั้นให้ความช่วยเหลือและให้ความสนับสนุนในการดำเนินเรื่อง ผู้เสียหายจากกรณีนี้ไม่สามารถบอกชื่อเสียงที่แท้จริงได้ แต่สวามารถเล่าเหตุการณ์ให้ฟังได้ว่าเมื่อปี 1994 เธอนั้นได้ถูกเพื่อนบ้านชายสองคนนั้นแอบปีนบ้านเข้ามาข่มขืนเธอ ในช่วงที่ไม่มีใครอยู่ที่บ้านชื่อผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นคือ “โมฮัมเหม็ด ราซี และนากี ฮาซัน ”

เมื่อคนในครอบครัวรู้ว่าเธอท้องก็ต้องกาเธอไปหาหมอ เพราะเธอมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงและก็ถูกหมอปฏิเสธในการขอ “ทำแท้ง” เนื่องจากอายุเธอน้อยและสุขภาพของเธอนั้นก็ไม่ได้ดี หลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกชายคนดังกล่าวออกมาเธอก็ได้ยกให้กับคนอื่นเป็นคนเลี้ยงดูทันที หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ไปแจ้งความเอาผิดคนร้ายทั้งสองคน เพราะถูกข่มขู่ต่างๆนาๆ ว่าจะจุดไฟเผาบ้านและจะฆ่าทิ้งให้หมดทั้งครอบครัว หากนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งความกับตำรวจและไปบอกชาวบ้าน พร้อมกับตัดพ้อว่าในอดีตนั้นเธอเคยฝันอยากทำอาชีพตำรวจ แต่ความฝันของเธอนั้นก็ไม่สามารถเป็นจริงได้ เพราะเธอไม่สามารถกลับไปเรียนได้อีกแล้วเพราะคนพวกนั้น

หลังจากนั้นไม่นานเธอได้พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานเพื่อหนีเรื่องราวในอดีต และในปี 2000 เธอก็ได้สมรสกับหนุ่มอกีคนพร้อมมีลูกคนที่สองเรื่องราวเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดีถึง 6 ปีแต่กลับไม่ใช่ เพราะหลังว่าที่สามีคนนั้นทราบว่าเธอเคยถูกข่มขืน เขานั้นได้ต่อว่าและไล่เธอพร้อมลูกของเธอออกจากบ้าน จนเธอต้องย้ายไปอยู่บ้านพี่สาว ส่วนลูกชายคนแรกของเธอนั้นก็ไม่ได้สุขสบายเพราะเขานั้นก็ลำบาก เพราะได้ยินว่าเขาคือลูกที่เก็บมาเลี้ยง และเมื่อเขามีอายุ 13 ปีเขาก็ได้กลับมาอยู่กับแม่แท้ๆของเขา และเมื่อกลับมาเขาก็สงสัยว่าพ่อของเขาคือใคร อีกทั้งเขายังไม่มีนาสกุลห้อยท้ายชื่อ จนเพื่อนนั้นล้อเลียนให้เขาอายจนกลายเป็นปมด้อย

ปมด้อยที่เกิดขึ้นกัลป์เด็กชายนั้นส่งผลทำให้เขานั้นถามแม่เป็นประจำ จนสามารถทำให้แม่เล่าความจริงให้ฟังได้ และสุกดท้ายเขานั้นนก็ได้ให้กำลังใจผู้เป็นแม่พร้อมหาทางช่วยและสนับสนุนให้แม่เอาผิดคนที่ข่มขื่นแม่ในตอนนั้น การดำเนินคดีเอาผิดคนร้ายทั้งสองคนที่เกิดขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลักฐานที่มีอยู่นั้นมันไม่เหลือแล้ว เพราะผ่านมาหลายสิบปี แต่เธอนั้นก็ไม่ยอมและได้ไปว่าจ้างทนายความมาขึ้นต่อสู้คดี และนำเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาลในเดือน มี.ค. 2021

ด้วยเทคโนโลยีการตรวจ DNA นั้นคือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้เขานั้นชนะคดีความ เพราะหนึ่งในสองคนที่ข่มขืนเธอมี DNA ตรงกับลูกชายคนดังกล่าว ซึ่งเธอนั้นบอกว่าเธออยากให้เรื่องราวของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับหญิงสาวที่ถูกข่มขืน กล้าไปแจ้งความเอาผิดคนร้าย เพราะไม่อยากให้เจอเรื่องร้ายๆอย่างที่เธอเคยเจอ และคนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ส่วนลูกชายนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมากที่คนร้ายถูกดำเนินคดีแล้ว