สาวสิงคโปร์กินกัญชาในก๋วยเตี๋ยวเพราะคิดว่าเป็นผัก!! กลายเป็นเรื่องตลกขบขันของชาวสิงคโปร์

ข่าวต่างประเทศ สาวสิงคโปร์กินกัญชา ในก๋วยเตี๋ยวรสชาติแซ่บๆนัวร์ๆ เพราะเข้าใจว่ามันคือ “ผักบุ้ง” ที่ลวกแล้วโยนลงไปในถ้วย กลายเป็นเรื่องตลกขบขันของชาวสิงคโปร์ที่เอาทำเป็นคลิปฮาๆคลิปตลกๆกันอย่างแพร่หลาย เพราะประเทศเขานั้นมันเป็นเรื่องที่แปลกและผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง

สาวสิงคโปร์กินกัญชา เข้าไปหลายวัน เพราะเข้าใจว่ามันคือ “ผักบุ้ง” ที่อยู่ในเมนูก๋วเตี๋ยวรสชาติอร่อย

สำหรับประชาชนคนไทยในปี 2022 มันก็ใช่เรื่องแปลกเรื่องใหม่อะไรสำหรับการใช้ “กัญชา” เนื่องจากว่าประเทศของพวกเรานั้นเปิดให้ใช้งานอย่าง “เสรี” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสำหรับคนที่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับกฎกติการที่ตั้งขึ้นมาที่บอกว่าหากสูบในที่สาธารณะนั้นผิดกฎหมาย อีกทั้งยังสั่งห้ามจำหน่ายให้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งว่าข้อบังคับที่ออกมานั้นก็น่าจะทำให้หลายๆฝ่ายถูกใจพอสมควร  พูดง่ายๆก็คือประชาชนคนไทยในยุดคนี้นั้นสามารถปรับตัวอยู่กับ “กัญชา” ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะว่าเราไม่ใช่ประเทศแรกที่เริ่มใช้มัน และมีประเทศหลายๆประเทศเปิดใช้งานอย่างเสรีมาก่อน ก็ไม่เห็นเป็นไร

แต่ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านฝั่งเอเชียของเรานั้นกำลังอึ้งกำลังตกใจอยู่ เพราะว่าในกลุ่มเอเชียเราคือประเทศแรกและประเทศเดียวที่สามารถใช้กัญชาเพื่อการแพทย์–สันทนาการรวมถึงการจำหน่ายกัญชาเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย และประเทศของเรานั้นก็ดูจะตั้งเป้าเอาไว้ตรงๆว่าต้องการสนับสนุน “การท่องเที่ยว” ที่รุ่งเรืองด้วยกัญชา ประเด็นนี้คือส่วนหนึ่งและแน่นอนประเทศอื่นๆ ที่เขาซีเรียสเรื่อง “ยาเสพติด” ก็ไม่ชอบใจเอามากๆ ที่พลเมืองของพวกเขามาใช้กัญชาที่ไทย

และประเทศที่ค่อนข้างจะไม่ชอบเรื่องแบบนี้เอามากๆที่อยู่ใกล้บ้านเรานั้นก็คือ “สิงคโปร์” ที่มีโทษสูงสุกถึงขั้นประหารชีวิต และด้วยพื้นฐานที่กล่าวมาเมื่อตอนต้น เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2022 สำนักข่าวจากสิงคโปร์อย่าง The Straits Times ได้เผยแพร่เรื่องราวของสาวสิงคโปร์คนหนึ่งที่มาเที่ยวประเทศไทย ก่อนที่เธอจะสั่งก๋วยเตี๋ยวรสชาติแซ่บๆนัวร์ๆรับประทานไปหลายวันเพราะติดใจในรสชาติ และเธอก็เพิ่งจะทราบว่าผักที่เธอกินไม่ใช่ “ผักบุ้ง” แต่มันคือ “กัญชา”

แน่นอนว่าชาวต่างชาตินั้นจะต้องสับสนและมึนงงมากๆกับวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในอาหารให้พวกเขาทาน และก็ไม่มีใครหรอกมั่งที่ตะมานั่งดูนั่งถามทุกอย่างที่ใส่เอาไว้ในถ้วยในจานอาหารที่เราทาน โดยเฉพาะกับเมนูก๋วยเตี๋ยวที่มีผักลวกอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้มันก็กลายเป็นเรื่องตลกเฮอาที่ชาวต่างชาตินั้นเอาไปสนทนาและเอาไปเล่นกันตามช่องทางต่างๆ แต่ประเด็นที่ทางสื่อ The Straits Times ยกขึ้นมาถามนั้นไม่ใช่เรื่องตลกอย่างที่ประชาชนทำ แต่พวกเขานั้นยกขึ้นมาตั้งเป็นคำถามเลยว่าประเทศของพวกเขานั้นจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์

“บังเอิญ” กินเข้าไปและจะจัดการกับมันอย่างไร เพราะว่าในตอนที่ประเทศของเรานั้นเปิดใช้งานอย่างไม่มีข้อบังคับแรกๆนั้นทางการของสิงคโปร์นั้นก็ได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนของพวกเขาอย่างชัดเจนเลยว่า ถึงแม้ประชาชนของพวกเขาจะเดินทางมาเสพยาเสพติดที่ประเทศอื่นประชาชนของพวกเขาก็ยังต้องรับโทษ แปลง่ายๆก็คือเข้านั้นเตือนประชาชนพร้อมกับห้ามไปในตัวว่าอย่าแอบออกมาสูบกัญชาที่ประเทศเรา เพราะตอนที่กลับไปพวกเขาก็ต้องรับโทษเหมือนเดิม

ซึ่งว่าข้อบังคับที่ออกมานั้นมันค่อนข้างเป็นเรื่องตลก เพราะว่าในการปฏิบัติทางการนั้นสามารถพูดได้หมดและว่าอะไรผิดไรถูก แต่การที่จะบอกว่าสิ่งนั้นผิดโดยที่ไม่มีวิธีการจัดการไม่มีทางรู้นั้นมันดูจะไม่มีน้ำยาในการแก้ไขปัญหาพวกนี้เหลือเกิน อย่างเช่นเคสของสิงคโปร์ที่ดูเหมือนว่าจะฮาที่สุด ที่ออกมาห้ามประชาชนว่าไม่มีสิทธิ์บินมาสูบกัญชาที่ไทย แน่นอนว่าสิงคโปร์ก็คิดไม่ตกจริงๆกับเรื่องนี้ เพราะถ้าทราบว่าการตรวจกัญชาผ่านฉี่ของคนที่ใช้มันมันก็จะเจอ เพราะสารมันจะยังงอยู่ในตัวนานถึง 14 วันอย่างต่ำก็ 5 วัน ประเด็นคือถ้าสิงคโปร์จับประชาชนในประเทศมาตรวจฉี่แล้วเจอจริง แล้วผลเป็นบวก มันจะสมเหตุสมผลเพียงใดในการคาดโทษพวกเขา? โดยเฉพาะถ้าเคสที่อ้างว่าผลเป็นบวกเพราะเพิ่งไปเมืองไทยมาแล้วเผลอไปกินของที่ใส่กัญชามา

และนี่มันคือความวุ่นวายของหญิงสาววคนดังกล่าวที่เผลอกันกัญชาแล้วคิดว่ามันเป็นผักบุ้ง ที่ทางสื่อข่าวนั้นนำไปตั้งประเด็นคำถามว่าถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ พวกคุณยังจะบอกว่าพวกเขานั้นทำผิดข้อบังคับอยู่ไหม ประเด็นนี้ก็มีนักหารเมืองคนหนึ่งออกมาตอยว่า “ไม่ผิด” เพราะไม่ได้ตั้งใจกินและก็ไม่ควรได้รับโทษทางกฎหมายด้วย แต่ถ้าจะมาแนวนี้คำถามก็ตามมาอีกว่า ถ้าเป็นแบบนี้การตรวจฉี่เพื่อเช็กกัญชาจะตรวจไปเพื่ออะไร? เพราะทุกคนก็อ้างได้หมดว่าไปเที่ยวเมืองไทยมาแล้วเผลอกินอาหารใส่กัญชามาดดยที่ไม่ทราบ

สรุปได้อย่างชัดเจนนั้นก็คือ สิงคโปร์มีทางเลือกไม่มากทำได้แค่เพียงคาดโทษคนที่ตรวจเหยี่ยวแล้วพบกัญชาแบบร้ายแรงได้เลยโดยที่ไม่ต้องสนไปสนใจข้ออ้างใดๆ และอีกหนึ่งทางก็คือเมินเฉยไปเลยว่าตัวเองนั้นไม่สามารถบังคับใช้งานกฎหมายข้อนี้กับประชาชนได้ และนี่คือความวุ่นวายที่กินไม่ได้คายไม่ลงที่มีต่อภาวะกัญชาเสรีของเพื่อนบ้านอย่างไทยแลนด์ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอะไรที่ปวดประสาทหนักมากกว่านี้เป็นอย่างแน่นอน หลังจากที่การดินทาทางท่องเที่ยวนั้นดีขึ้นมากกว่าเดิม และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสิงคโปร์นั้นก็น่าจะทำงานอย่างเพลินเพลินกันแน่ในไม่ช้า เพราะจะต้องมีคนแอบเอา “กัญชา” จากประเทศไทยติดตัวไปท้าทายกฎหมายอย่างแน่นอน