แพทย์ว่าอย่างไร? จริงหรือหลอก? หญิงชาวจีนไม่ได้นอนมาร่วม 40 ปี ตั้งแต่อายุได้ 5-6 ขวบ

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวต่างประเทศล่าสุด เมื่อมีความแตกตื่นจากการแชร์ข้อมูลอ้างถึง หญิงชาวจีนไม่ได้นอนมาร่วม 40 ปี ซึ่งเธอได้ออกมาเผยต่อสื่อว่าความทรงจำครั้งสุดท้ายที่ได้นอนคือตอนตนมีอายุอยู่ในช่วง 5-6 ขวบ

ทีมแพทย์ใช้เซ็นเซอร์ระดับสูง กรุงปักกิ่ง ค้นพบข้อมูลปริศนา หญิงชาวจีนไม่ได้นอนมาร่วม 40 ปี

จากการรายงานข่าว หญิงชาวจีนไม่ได้นอนมาร่วม 40 ปี เธอคนนี้ชื่อ นางหลี่ จานอิง วัย 45 ปี เป็นชาวมณฑลเหอหนาน ได้อ้างว่าตนไม่ได้นอนหลับเหมือนคนปกติ แต่เธอก็เคยนอนหลับครั้งล่าสุดก็ตอนที่เธอมีอายุได้ 5-6 ขวบ ทั้งนี้เหตุการณ์นอนไม่หลับของเธอก็ได้รับการยืนยันจากสามีของเธอด้วยว่า ตั้งแต่แต่งงานกับภรรยาก็ไม่เคยเห็นเธอนอนและหลับตาเหมือนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางคืนที่คนเราต้องทำการนอนเพื่อพักผ่อน แม้ตนจะหายานอนหลับมาให้ภรรยากินเพื่อจะได้นอนหลับได้เหมือนคนอื่นๆก็ไม่มีผลที่จะทำให้ภรรยานอนหลับได้ และบางครั้งตนยังสังเกตเห็นภรรยามีดวงตาที่เลื่อนลอย แววตาแสดงความว่างเปล่า

เมื่อเพื่อนบ้านทราบข่าวการนอนไม่หลับของนางหลี่ เธอก็ได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน ทั้งบ้านเธอก็ยังเป็นศูนย์รวมการเล่นไพ่ให้กับเพื่อนในยามวิกาลด้วย แต่เมื่อเล่นไปสักพักเพื่อนบ้านที่มาเล่นด้วยก็จะมีอาการง่วงและหลับไปก่อนทุกครั้ง นางหลี่ได้เผยด้วยว่าเธอได้ไปพบแพทย์จากหลายที่แล้วแต่ไม่มีใครจะสามารถแก้ไขปัญหาการนอนไม่หลับให้เธอได้เลย

ล่าสุด นางหลี่ได้ตัดสินใจเดินทางไปศูนย์การแพทย์ซึ่งอยู่ในกรุงปักกิ่ง เพื่อพบทีมแพทย์ใช้เซ็นเซอร์ระดับสูงให้ทำการวิจัยและช่วยรักษาอาการดังกล่าวในนางหลี่ เมื่อทีมแพทย์ได้ทำการตรวจการทำงานในร่างกายของนางหลี่ในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ก็พบแล้วว่าร่างกายของนางหลี่ก็มีภาวการณ์นอนหลับเช่นกันเพียงต่างกันแค่ว่า ร่างกายภายในนอนหลับแต่อวัยวะภายนอกยังตื่นคือ หลับทั้งที่ตายังเปิดและภาวะการนอนหลับของนางหลี่ไม่ต้องนอนเหมือนคนทั่วไปคือ ไม่จำเป้นต้องนอนราบกับเตียงนอน

ทั้งนี้ ทีมแพทย์ได้สรุปจากการตรวจพบภาวการณ์นอนหลับของนางหลี่แล้วว่าเป็น “การหลับเหมือนตื่น” ซึ่งทีมแพทย์ได้เปรียบเทียบการนอนหลับนี้ของนางหลี่ให้เหมือนกับการ “นอนละเมอเดิน” อธิบายได้ว่าอวัยวะในร่างกายยังทำงานปกติ แม้จะมีภาวะของการหลับไหลนั้นเอง