Friday, 10 May 2024

อัปเดต! หญิงที่สูงที่สุดในโลก ปัจจุบันตกไปอยู่ที่ “สาวตุรกี” วัย 25 ปี

ข่าวต่างประเทศล่าสุด รายงานอัปเดต! หญิงที่สูงที่สุดในโลก ในปัจุบันได้ตกไปอยู่ที่หญิงสาววัย 25 ปี ชาวตุรกี ทุกครั้งที่เธอต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน เธอต้องกวดเรียบใช้ที่นั่งผู้โดยสารไปทั้งหมด 6 ที่นั่ง บันทึกความสูงนี้ถูกบันทึกเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2564(2021)

สล็อต xo Slotxo

อัปเดต! หญิงที่สูงที่สุดในโลก “สาวตุรกี” วัย 25 ปี ขึ้นเครื่องบินที ต้องนอนโดยสารของ 6 ที่นั่งของผู้โดยสารปกติ

อัปเดต! หญิงที่สูงที่สุดในโลก “สาวตุรกี” วัย 25 ปี ขึ้นเครื่องบินที ต้องนอนโดยสารของ 6 ที่นั่งของผู้โดยสารปกติ

Rumeysa Gelgi หญิงสาววัย 25 ปี ชาวตุรกี เธอผู้เกิดมาด้วยอาการผิดปกติของพันธุกรรม ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นสิ่งที่ยากจะเกิดขึ้น เพราะอาการดังกล่าวนั้นมันทำให้หญิงสาวมีความสูงมากกว่า 215 เซนติเมตร ลำตังของหญิงสาวยาวผิดปกติและมันส่งผลให้ร่างกายส่วนอื่นไม่สมบูรณ์

Gelgi   ตั้งแต่เธอเด็กจนโตต้องใช้เครื่องเพื่อพยุงลำตัวเสมอ ส่วนลดเขตที่เธอต้องนั่งมันก็ต้องถูกสั่งทำขึ้นมาอย่างเป็นพิเศษ ทั้งหมดก็เพื่อดูแลรักษาสุขภาพกระดูกสันหลังของเธอไม่ให้มันเกิดความเสียหายแต่มากกว่านี้

ในเวลาต่อมาชื่อของหญิงสาวรายนี้ก็ถูกนำมาบันทึกในกินเนสบุ๊กในระหว่างเดือนตุลาคมของปี 2564 ซึ่งเรื่องราวที่ถูกบันทึกได้ยกให้เธอเป็นผู้หญิงที่สูงที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตามความสูงของเธอมันเป็นอุปสรรคและปัญหาทำให้เธอไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้เลย จนในล่าสุดรายงานเปิดเผยเธอได้เดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา

การเดินทางของเธอครั้งนี้ ต้นทาง คือ “อิสตันบูล ทูร์เคีย” ปลายทาง คือ “ซานฟรานซิสโก” สหรัฐฯ และครั้งนี้เธอได้ร่วมไปมีประสบการณ์กับสายการบินตุรกีแอร์ไลน์ แน่นอนว่าทางสายการบินต้องจัดที่นั่งให้เธอในพื้นที่พิเศษ โดยได้มีการถอดเอาเบาะที่นั่งจำนวน 6 บ่อปรับให้เป็นแนวราบหรือเตียงนอน เพื่อหญิงสาวจะได้นอนตลอดการเดินทางทั้งหมด 13 ชั่วโมง

Rumeysa Gelgi หญิงสาววัย 25 ปี ชาวตุรกี เธอผู้เกิดมาด้วยอาการผิดปกติของพันธุกรรม ความสูง 215 เซ็นติเมตร

อย่างไรก็ตามหญิงสาวได้ออกมากล่าวว่านี่คือการเดินทางครั้งแรกโดยเครื่องบินของเธอ และก็เป็นครั้งแรกที่เธอเดินทางไปต่างประเทศ และสำหรับการเดินทางของเธอมันเป็นวิธีการสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบ ICU

ด้วยร่างกายของเธอไม่สามารถที่จะนั่งเหมือนผู้โดยสารปกติทั่วไปเป็นเวลานานๆได้ ทำให้เธอต้องนอนบนเครื่องบินและเดินทางไปยังจุดหมาย การเดินทางของเธอตั้งแต่ต้นจนจบมันไม่มีที่ติเลย และเธอก็ต้องขอขอบคุณหลายคนทั้งเจ้าหน้าที่และพนักงานของสายการบินทุกคน รวมไปถึงทีมแพทย์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่สิ่งที่ทำให้เธอเสียใจก็คือเธอไม่สามารถจำชื่อใครได้เลย

เธอรู้ดีว่านี่จะไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งสุดท้าย แต่มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางรอบโลกของเธอ ถ้าอยากจะขอบคุณอีกครั้งจากใจ