Monday, 6 May 2024

ผิดมากไหม!? อยู่ก่อนแต่ง 6 ปี ครอบครัวฝ่ายหญิงรู้บุกลากตัวกลับบ้าน

ข่าวต่างประเทศล่าสุด เว็บไซต์ข่าว 163 ได้ออกมารายงานเรื่องราวความรักที่ถูกกีดกัน สาเหตุเป็นเพราะ อยู่ก่อนแต่ง 6 ปี คู่รักหนุ่มสาวพากันหนีออกจากบ้าน เพื่อออกมาหาเงินเก็บจนได้ซื้อบ้าน ครอบครัวไม่เข้าใจ

สล็อต xo Slotxo

ครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ปลื้ม!! เพิ่งรู้ อยู่ก่อนแต่ง  6 ปี บุกลากตัวลูกสาวแยกคนรัก ขณะอยู่ในบ้านที่หนุ่มสาวช่วยกันหาเงินซื้อ ก่อนเรียกค่าสินสอด 2.5 ล้าน

ข่าวต่างประเทศ ครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ปลื้ม!! เพิ่งรู้ อยู่ก่อนแต่ง  6 ปี บุกลากตัวลูกสาวแยกคนรัก

ความรักที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่คนสองคน เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวเน็ตออกวิจารณ์ครอบครัวฝ่ายหญิง อยู่ก่อนแต่ง 6 ปี กับแฟนหนุ่มผู้เป็นคนรัก ทั้งสองช่วยกันทำงานหาเงินจนเก็บได้พอจะซื้อบ้านได้หลังหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทว่าเรื่องดังกล่าวกลับทำให้ครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่พอใจบุกมากระชากหญิงสาวออกจากบ้านขณะอยู่กับแฟนหนุ่ม ครอบครัวเธอลากเธอไปกับพื้นถนนอย่างทารุณ และเรียกร้องค่าสินสอดที่แพงกระฉูด

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองอิ๋นชวน ซึ่งเป็นพื้นที่บของมณฑลที่ปกครองตัวเอง “หนิงเซี่ยหุย” ประเทศจีน คลิปหญิงสาวที่ถูกครอบครัวลากตัว เพื่อแยกเธอออกจากแฟนหนุ่มถูกแชร์วอนโซเซียล ทั้งนี้เป็นเรื่องความรักของหญิงสาวแซ่เกา ขณะเดียวกันที่หญิงสาวถูกนำตัวออกจากบ้านพัก แฟนหนุ่มของเธอก็ถูกญาติของเธอทุมตีทำร้ายอย่างแรงเช่นกัน

หลังรู้ข่าวว่าทั้งคู่กำลังวางแผนแต่งงานกัน และมากไปกว่านั้นครอบครัวฝ่ายหญิงยังเรียกร้องค่าสินสอดจากแฟนหนุ่มมากกว่า 5 แสนหยวน หรือ 2,500,000 บาท เงินจำนวนที่สูงขนาดนี้ตั้งขึ้มาเพื่อเป็นการกีดกันหนุ่มสาวไม่ให้ได้จัดงานมงคลระหว่างกัน เพราะครอบครัวฝ่ายหญิงรู้ดีว่าแฟนหนุ่มลูกสาวคงหาเงินมาไม่ได้ทันเวลาที่กำหนด

ครอบครัวของสาวเกา ได้บุกมาที่บ้านพักที่เธอช่วยหาเงินซื้อกับแฟนหนุ่ม เหตุเกิดช่วงบ่ายของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ่อแม่-น้องชาย-ลุง ของสาวเกาได้ขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้านก่อนบุกเข้าไปช่วยกันไปกระชากนำตัวเธอออกมาจากบ้าน เมื่อหญิงสาวขัดขืนญาติๆก็ลากเธอไปกับพื้นอย่างรุนแรงไม่มีความปราณี เพื่อพาเธอไปขึ้นรถนำกลับบ้านที่อยู่อีกเมือง “มณฑลกานซู่”

ทางด้าน หนุ่มแซ่จาง ขณะนั้นเขาก็อยู่ในเหตุการณ์และถูกทำร้ายร่างกายไปพร้อมกับแฟนสาวด้วย เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่ครอบครัวแฟนสาวบุกมาทำเรื่องที่รุนแรงแบบนี้ เพื่อขัดขวางการแต่งงานของทั้งคู่ ชายหนุ่มได้พยายามโทรติดต่อหาแฟนสาวของเขา หลังจากเธอถูกจับตัวไปและไม่ลืมที่ยจะโทรแจ้งความตำรวจไว้ด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกมาเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุดังที่เป็นข่าวจริง และได้ให้ข้อมูลว่า คู่รักหนุ่มชายเจ้าของเรื่องกำลังวางแผนวิวาห์กัน แต่ทางฝังของครอบครัวฝ่ายหญิงไม่เห็นด้วยและให้การคัดค้านทั้งคู่ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์บุกมาทำร้ายและชิงตัวหญิงสาวออกจากบ้าน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าวแล้ว

ข่าวต่างประเทศ เมืองอิ๋นชวน เขตปกครองตัวเอง หนิงเซี่ยหุย  ประเทศจีน คู่รัก หนุ่มสาว อยู่ก่อนแต่ง

เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ หนุ่มจาง ได้นำภาพและคลิปที่ถ่ายได้จากกล้องวงจรปิดออกมาโพสต์แชร์ลงโซเซียล พร้อมกับระบุข้อความว่า เพราะผมไม่มีเงิน 5 แสนหยวน แฟนผมถูครอบครังบังคับและลากเธอออกไปจากผม ผมควรทำอย่างไรดี

หนุ่มจางยังได้เล่าเรื่องราวควารักของเขาและเธอต่อว่า “ผมกับเธอเราอยู่ด้วยกันมาได้ 6 ปีแล้ว เราพยายามทำงานหาเงิน จนล่าสุดเราก็เพิ่งซื้อบ้านได้หนึ่งหลังเมื่อปีที่ผ่านมา และเราก็กำลังจะสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่เราทั้งคู่มาถูกกีดกันแบบนี้ ผมไม่มีเงินมากตามที่ครอบครัวเธอเรียกร้อง หากจะมีก็คงต้องขายบ้านหลังนี้ เพื่อเอาเงิน 500,000 หยวน (ค่าสินสอด)”

เรื่องราวของสาวเกาและหนุ่มจาง กลายเป็นประเด็นร้อนที่ชาวเน็ตถกเถียง และวิจารณ์กันอย่างหนาหูถึงครอบครัวฝ่ายหญิง ที่มักแต่ได้เห็นแก่ตัวเห็นแก่เงิน จนสามารถกีดกันคนที่เขารักกันได้มากถึงเพียงนี้

ครอบครัวสาวเกาทนกระแสดราม่าไม่ไหวออกมาอัดคลิปอธิบาย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเปิดเผยว่า ในความเป็นจริงแล้ว ทางครอบครัวก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เป็นเรื่องตามที่เป็นข่าว แต่เพียงว่าครอบครัวรู้สึกโกรธสาวเกามาก ในเรื่องที่เธอโกหกและเพิ่งรู้ว่าเธอแอบอยู่กินกับแฟนหนุ่มมา 6 ปีแล้ว เธอเพิ่งมาบอกเราเมื่อไม่นานมานี้ และครอบครัวเป็นห่วงอยากให้เธอได้ทำงานที่ดีและมีความมั่นคงมากกว่านี้ และอีกอย่างตอนที่เธอออกจากบ้านมาก็ไม่บอกใคร ออกมาดื้อๆ เราไม่พอใจในเรื่องนี้จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นครอบครัวเรามองว่ามันไม่เหมาะสมมาก ส่วนเงินค่าสินสอด 500,000 หยวน เราไม่ได้อยากได้มันหรอกแค่เป็นคำพูดขณะทะเลาะกันด้วยอารมณ์

อย่างไรก็ตามครอบครัวจะให้มีการแก้ไขหาทางออกเรื่องนี้โดยให้หญิงสาวอาศัยอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ แทนการไปอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่ม เพื่อความถูกต้องและเหมาะสม แต่ครอบครัวไม่คิดว่าข่าวนี้จะทำให้ชาวเน็ตถกจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้