พ่อชาวปากีสถาน เผาทั้งเป็นลูกสาว เพราะไม่เชื่อฟังแต่งงานกับคนที่หามาให้

ข่าวต่างประเทศล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวจากรอยเตอร์รายงานเหตุพ่อ เผาทั้งเป็นลูกสาว บ้านพักกลายเป็นกองเพลิง สาเหตุเกิดจากพ่อไม่พอใจที่ถูกขัดใจไม่ยอมแต่งงานกับชายแนะนำให้ลมเผาหลาน

สลด! เผาทั้งเป็นลูกสาว พ่อไม่พอใจลูกไม่ยอมแต่งงานกับชายที่หามาให้ ภายหลังเผยมีหลานอีก 4 คนตายในกองเพลิงไปด้วย

ตำรวจออกให้สัมภาษณ์สำนักข่าวผ่านทางโทรศัพท์ กรณี ชายโหดใจเหี้ยม เผาทั้งเป็นลูกสาว โดยได้ออกมาเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตามหาตัวพ่อของผู้ตายที่ตอนนี้ตกเป็นต้องสงสัยก่อเหตุจุดเพลิงไหม้บ้านพักที่มี 2 ลูกสาวและหลานอีกจำนวน 4 คน สุดท้ายตายในกองไฟอย่างอนาจ

ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุที่เป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุคือ ผู้เป็นพ่อโกรธและโมโหลูกสาวที่ไม่ยอมให้จับคลุมถุงชน แต่งงานกับชายหนุ่มที่ตนนั้นหามาให้ จึงบันดาลโทสะจุดไฟเผาบ้านที่ลูกสาวและหลานนอนพักอยู่

ลูกสาวที่ตาย 2 คน ซึ่งทั้งสองเป็นพี่น้องกัน คนแรกคือ เฟาเซีย บีบี คนที่สองคือ  เคอร์ชิด ไม ชาเรด ทั้งสองอยู่ในบ้านพักหลังหนึ่งที่อยู่ในเขตมูซาฟฟาร์กาห์ ซึ่งมีพื้นที่อยู่ในช่วงตอนกลางของประเทศปากีสถาน

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สำรวจโดยละเอียดพบว่าสามีของ เคอร์ชิด ไม ชาเรด ก็ได้เสียชีวิตในกองเพลิงไปด้วย ส่วนทางด้านของ เฟาเซีย บีบี ที่เพิ่งแต่งงานกับ(อาห์มัด)ชายที่รักไป 1 ปี 6 เดือน ซึ่งชายคนรักไม่ได้เป็นคนที่พ่อหมายมั่นไว้ เจ้าหน้าที่คาดว่านี้คือเหตุผลหลักที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นแรงจูงใจลงมือ

เจ้าหน้าที่บอกอีกว่าเมื่อมีการคลุมถุงชนแต่ถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิเสธก็จะทำให้ครอบครั้วของทั้ง 2 ฝ่าย ขัดแย้งละไม่ลงรอยกัน ผู้ก่อเหตุคงแค้นใจที่ลูกสาวทำให้ขายหน้าจึงคิดสังหารลูก

ผุ้ก่อเหตุคือนายฮุสเซน ซึ่งตอนนี้กำลังถูกตำรวจตามจับกุม ตอนนี้เขาได้อาศัยอยู่คนละหมู่บ้าน นอกจากนี้สามีของ บีบี ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ออกมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่าตนได้ออกไปข้างนอกขณะเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ เมื่อตนกลับมาบ้านในวันรุ่งเช้าก็พบว่าบ้านไฟไหม้ทั้งหลังและลูกชายของตนที่เพิงเกิดมาได้เพียง 4 เดือนก็เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

สามีบีบี ได้เผยต่อไปอีกว่า แย่ไปกว่านั้นลูกของ ไม จำนวน 3 คน คนเล็กสุดอายุ 2 ขวบ คนกลาง 6 ขวบ และลูกคนโตอายุ 13 ปี นอนหลับและตายให้กองไฟพร้อมเมียและลูกของตน

จากการเก็บเรียบเรียงข้อมูลที่เคยเกิดขึ้นในประเทศปากีสถานพบว่า ผู้หญิงชาวปากีฯ มักจะถูกข่มขู่จนไปถึงขู่ฆ่าจาครอบครัวและญาติ ซึ่งสาเหตุมาจากการไม่เชื่อฟังแต่งงานตามใจชอบ ปฏิเสธการคลุมถุงชน และนี้ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์แรกกรณีแบบนี้เกิดขึ้นมาเป็นร้อยๆครั้ง แม้นักสิทธิมนุษยชนพยายามเข้ามาช่วยเหลือก็ตาม