Monday, 6 May 2024

เมื่อทำแท้ง “ถูกกฎหมาย” แต่ทำไมถึงยังถูกถามว่า “เมื่อไหร่ผู้หญิงพวกนี้จะหัดหุบขา”

ข่าวต่างประเทศ เมื่อทำแท้งถูกกฎหมาย แต่ผู้หญิง “อาร์เจนตินา” ยังคงถูกตีตรา-ทำให้รู้สึกผิดทำให้เจ็บใจ และยังถูกถามว่า “เมื่อไหร่ผู้หญิงพวกนี้จะหัดหุบขา” บ้าง เพราะแม้จะมีกฎหมายรองรับ การทำแท้งถูกกฎหมาย แล้ว แต่คนที่ต้องการทำแท้งก็ยังถูกต่อว่าถูกประณามว่าเป็นคนบาปอยู่ดี

สล็อต xo Slotxo

เมื่อทำแท้งถูกกฎหมาย แต่ผู้หญิง “อาร์เจนตินา” ยังคงถูกถามจนทำให้รู้สึกเจ็บใจ

เมื่อทำแท้งถูกกฎหมาย แต่ผู้หญิง “อาร์เจนตินา” ยังคงถูกถามจนทำให้รู้สึกเจ็บใจ

ถึงแม้ว่าหลายๆประเทศนั้นจะผ่านกฎหมายให้ผู้หญิงสามารถ ทำแท้ง ได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าว่าคนที่ต้องการทำแท้งก็ยังถูกประณามว่าเป็นคนที่ไม่ดีเป็นคนชั่วอยู่ดี สถานการณ์ดังกล่าวนี้มันเกิดขึ้นกับหลายพื้นที่วโลก อย่างเช่นเรื่องของประเทศอาร์เจนตินาที่แม้ว่าการทำแท้งไม่ผิดกฎหมายมานานตั้งแต่ปี 2020 แต่ก็ยังมีความเชื่อว่าการทำแท้งคือการฆาตกรรม

เมื่อทำแท้งถูกกฎหมาย แต่สาวอาร์เจนตินายังถูกตราหน้าอยู่

และจะเป็นอย่างไรเมื่อคนที่คิดและพ่นคำพูดเหล่านั้นออกมาคือบุคลากรทางแพทย์?

โดยเรื่องราวที่เราจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวชาวอาร์เจนตินาคนหนึ่ง ที่เธอนั้นเดินทางไปขอ ทำแท้ง ตามสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าว่าเธอนั้นกลับถูกประณามว่าคือ ฆาตกร เธอคนนี้อาศัยอยู่ที่

หญิงคนนี้อาศัยอยู่ใน Province of Salta, northeastern Argentina ที่คนที่อาศัยอยู่ที่นั้นนั้นกลับมีความคิดอนุรักษนิยม และบุคลากรทางการแพทย์จำนวนไม่น้อยเลย ที่ยังต่อต้านการยุติการตั้งครรภ์ เธอตัดสินใจจะไปทำแท้งที่ศูนย์สุขภาพที่เธอไปรักษา แต่แพทย์กลับพูดกับเพื่อนร่วมงานของเขาว่า “เมื่อไหร่ผู้หญิงพวกนี้จะหัดหุบขาเสียที”

เมื่อทำแท้ง “ถูกกฎหมาย” แต่ทำไมถึงยังถูกถามว่า “เมื่อไหร่ผู้หญิงพวกนี้จะหัดหุบขา”

โดยเธอได้เล่าสถานการณ์ในห้องตอนที่เธอนั้นทำแท้งให้ฟังว่า พยาบาลที่เข้ามาทำแท้งให้เธอนั้นมีทีท่าที่ไม่อยากทำและไม่อยากดูแลเธอเลยแม้แต่น้อยแถมพวกเขานั้นยังทำให้เธอรู้สึกละอาย โดยการเอาซากเด็กที่เอาออกมาจากท้องใส่โหล ให้เธอสามารถมองเห็นหน้าได้อย่างชัดเจนแล้วยังบอกว่า “นี่อาจเป็นลูกของคุณก็ได้”

เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่หมอแต่พยาบาลที่ไม่ยอมรับและยังต่อต้านการกระทำอย่างนี้ เพราะแม้แต่ Pope Francis ประมุข catholic church ซึ่งเป็นชาวอาร์เจนตินาเอง เรียกการทำแท้งว่าเป็น ‘การฆาตกรรม’ อีกทั้งยังประกาศอีกว่าผู้ที่คิดหรือกระทำการทำแท้งนั้นเป็นผู้ที่สังหารชีวิตหนึ่งไปแล้ว

อย่างไรก็ดีกฎหมายของอาร์เจนตินาก็ให้ทางเลือกแก่เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ว่าจะไม่ทำแท้งก็ได้ และเมื่อทันทีที่กฎหมายนี้อนุมัติ Carlos Franco กุมารแพทย์ในจังหวัด Salta เขาก็ประกาศตัวว่าเป็นคนที่ต่อต้านเรื่องนี้เพราะเขานั้นมีความคิดที่ดี อีกทั้งเขายังประเมิณว่า 90% ของหมอและพยาบาลในจังหวัดก็คิดเหมือนกันกับเขาทุกประการ

เมื่อไหร่ผู้หญิงพวกนี้จะหัดหุบขา

ไม่ใช่เพียงแค่หญิงสาวคนนี้เท่านั้นนที่เพบเจอเหตุการณ์อันเลวร้ายเมื่อเข้ารับการทำแท้ง แต่ Monica Rodriguez นักเคลื่อนไหวในท้องถิ่น ยังเล่าให้ฟังต่ออีกว่าเธอได้รับสายประมาณ 100 สายต่อเดือนจากผู้หญิงใน Salta ที่เจอปัญหาคล้ายๆกัน นอกจากนี้ Monica Rodriguez นักเคลื่อนไหวยังกล่าวอีกว่า

ที่อาร์เจนตินาตอนนี้มีคุณหมอและพยาบาลที่มีคุณสมบัติที่สามารถทำงานได้เป็นอย่างมาก เพราะในตอนนี่พวกเขานั้นกำลังเจอวิกฤตครั้งยิ่งใหญ่ในการรักษาที่ปลอดภัย และทำให้หญิงสาวเจ็บปวดน้อยกว่าด้วย เช่น การดูดมดลูกด้วย vacuum tool แบบมือถือ (manual vacuum aspiration – MVA) มีไม่เพียงพอสำหรับผู้หญิงที่ประสงค์จะยุติการตั้งครรภ์

 ทำแท้งไม่ผิดกฎหมายแล้วบางประเทศ

กลับมาที่ประเทศไทยที่เพิ่งจะประกาศกฎหมายให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็ยังคงมีปัญหายืดเยื้อยาวเหยียดไม่ได้แตกต่างกับชาติอื่นสักเท่าไหร่ จากการสะสมข้อมูลของกลุ่มทำทาง Non-profit organization working for women’s rights ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2564

หนึ่งในเจ้าหน้าที่บอกว่าถึงแม้จะมีการแก้กฎหมายให้ขยายกว้างมากขึ้น แต่เมื่อตัดสินใจ ทำแท้ง และต้องการเข้าถึงสถานบริการที่ถูกกฎหมาย หญิงสาวเหล่านั้นก็ยังคงพบเจอกับขั้นตอนต่างๆ ในการรับบริการที่ทำให้ละอาดใจและรู้สึกผิด ทั้งการข่มขู่และการหมิ่นประมาทซึ่งหน้าจากเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ

บริการทำแท้งให้ถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีผู้มีประสบการณ์ขอไป ทำแท้ง ได้เล่าประสบการณ์ครั้งนั้นที่ทำที่ประเทศไทยให้ฟังว่า พวกเขานั้นถูกประณามอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเขานั้นทำปาบ พวกเขาอยากได้คนที่ทำให้พวกเขานั้นผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้น เหมือนหลับได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา

สูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งบอกว่าเราอยากให้ การทำแท้ง นั้นเป็นหนึ่งในบริการของโรงพยาบาล เพราะทางการแพทย์ ความเชื่อหรือศาสนาควรจะอยู่นอกเหนือการบริการให้การรักษา ถ้าเรามองว่า การบริการทำแท้ง เป็นการรักษาอย่างนึง เราก็จะให้บริการกับเขาได้”