ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเติม “วิตามิน” ทั้งที่ยังไม่มีข้อมูลบอกว่า “มีประโยชน์” หรือให้ “โทษ”

ข่าวต่างประเทศ ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เติม “วิตามิน” ทั้งที่ยังไม่มีข้อมูลบอกว่า “มีประโยชน์” หรือให้ “โทษ” Trends ใหม่ยอดนิยมเพื่อ “สุขภาพ” ของวัยรุ่นใน America แม้ว่าเจ้าสิ่งที่เรารู้จักว่า “บุหรี่ไฟฟ้า” นั้นจะเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกนั้นกำลังถกเถียงกันอยู่ว่ามันดีหรือไม่ดีแต่มันกลับได้รับความนิยมเอย่างรวดเร็ว

ใช้บุหรี่ไฟฟ้า สูบ “วิตามิน” เทรนด์ใหม่มาแรงเพื่อ “สุขภาพ” ในอเมริกา

“บุหรี่ไฟฟ้า” คือหนึ่งในประเด็นระดับโลกที่ยังถกเถียงกันอยู่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งบางประเทศนั้นก็สามารถซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมาย และในบางประเทศที่ยังไม่มีกฎหมายห้ามชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ออกกฎหมายที่ให้ใช้อย่างถูกต้องออกมา ซึ่งมันคืออุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วมากๆ ชนิดที่เรียกได้ว่ามันฮอตมากๆสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และในตอนนี้เวลานี้สิ่งที่ผู้คนนำมา “สูบ” ผ่านบุหรี่ไฟฟ้า ก็ไม่ใช่สาร (Nicotine) อีกต่อไป แต่มันคือ “สารพัดสาร” รวมถึง “สารอาหาร” ต่างๆที่มีประโยชน์เข้ามาร่วมด้วย ไอเดียเริ่มต้นของ “บุหรี่ไฟฟ้า” คือการเอาสารต่างๆ ใส่น้ำมัน

แล้วใช้บุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนให้น้ำมันกลายเป็น “ไอน้ำ” แล้วคนก็สูบสารที่อยู่ในนั้นเข้าไปพร้อมกับไอน้ำ ส่วนความต่างของบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวนยาสูบแบบที่เราคุ้นชิ้นนั้นก็คือ มันต่างกันไปทั้งหมดทั้งกระบวนการที่ไม่ได้มีการเผาไหม้เหมือนเดิม ดังนั้นเวลาที่ดูดไอน้ำเข้าไปแล้ว มันเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายแล้วเราจะไม่ได้รับ “Tar” เข้าไปด้วย เช่น การสูบบุหรี่อย่างเดิม และมันส่งผลทำให้ความเสี่ยงเรื่องสุขภาพทั้งหลายที่มาจากบุหรี่ นับเริ่มตั้งแต่ถุงลมโป่งพองไปถึงมะเร็งปอดหายไปด้วย เพราะตัวการร้านที่แท้ขริงของบุหรี่ไม่ใช่ (Nicotine) แต่เป็นพวก Tar “น้ำมันดิน” และสารสารพัดที่ถูกเผาไหม้อยู่ในควัน

ในตอนนี้บุหรี่ไฟฟ้าเริ่มกลายเป็นสิ่งของยอดนิยม ที่หลายๆคนนั้นเสพเพื่อให้ความบันเทิง เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับส่วนประกอบในบุหรี่แบเก่าเลยแม้แต่น้อย นี่เลยส่งผลให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆที่ผลิตออกมาไม่จำเป็นต้องมี (Nicotine) เป็นส่วนผสมอีกต่อไป เมื่อไม่มี (Nicotine) เป็นส่วนผสมก็อาจส่งผลให้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าดูไม่มีสารอะไรในนั้นเลย ดังนั้นผู้ผลิตทุกคนก็เลยเริ่มผสม “สารอาหาร” ที่จำเป็นต่อร่างกายเข้าไปในน้ำมันแทน เช่น พวกวิตามิน C วิตามิน B12 หรือกระทั่ง Melatonin ทุกวันนี้คนเลยหันมาสูบวิตามิน C เยอะมาก

มันเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง…ซึ่งคำถามแรกที่ตามมาก็คือ มันปลอดภัยหรือไม่?

ต้องทบทวนความจำกันก่อนว่าเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมานั้นเชื่อว่าหลายๆคนนั้นคงเคยได้ทราบข่าวว่ามี คนพบเจอกับภาวะปอดบาดเจ็บเฉียบพลัน เพราะคนๆคนนั้นสูบบุหรี่ไฟฟ้า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา จากการตรวจสอบแล้วก็พบว่า มีสาร Vitamin-E Acetate ผสมอยู่ในน้ำมัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้หลายๆคนนั้นเกิดความ “งง” เพราะสารตัวนี้นิยมนำมาใช้เป็นสารแต่งกลิ่นอาหาร คนก็เลยสงสัยว่ามันเอามาสูบได้เหมือนกับการกินหรอ

และเมื่อผู้ผลิตทราบว่าสารตัวไหนมีปัญหาก็จะยุติการใช้งานทันที และมันก็จะทำให้ผู้คนนั้นไม่ป่วยอีกต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นส่งผลให้หลายๆคนนั้นคำนึกถึงผลดีและแลเสียที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย เพราะว่าสารบางอย่างที่เรานั้นกินเข้าไปแล้วไม่ส่งผลเสียให้เรานั้น มันไม่ได้หมายความว่าถ้าเราเอามันมา “สูบ” มันจะดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา เพราะระบบทางเดินหายใจของพวกเรานั้นไม่ได้ถูกนำมารับและซึมซับสารต่างๆ พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ของบางอย่างที่เรากินได้ใช่ว่าจะนำมาดมหรือมาสูบได้นั้นเองเข้าไปแล้วปลอดภัยจริงหรือ?

สูบวิตามินและเมื่อสูบแล้วทำให้วิตามินเข้าไปในร่างกายได้จริงหรือได้ไม่จริง

คำตอบง่ายๆที่ไม่ต้องอธิบายให้ยากนั้นตอบได้แบบไม่ต้องคิดคือ ยังไม่มีใครยืนยันว่าสิ่งที่หลายๆคนนสงสัยนั้นมันสามารถเกิดขึ้นได้จริง และมันมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ เพราะเรานั้นไม่สามารถทราบได้เลยว่า การผสมวิตาต่างๆเข้าไปพบเจอกับอุณหภูมิที่ร้อนมากๆจนมันกลายเป็นไอน้ำ มันจะเปลี่ยนสภาพให้สารที่ผสมในน้ำมันกลายเป็นสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราได้หรือไม่ได้อย่างไร ส่วนงานวิจัยที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้นั้นก็ดูจะไปในแนวที่บอกว่า ไม่น่าจะทำให้ร่างกายของเรานั้นรับวิตามินจากการเปลี่ยนแปลงไอน้ำ (ไม่ว่าจะเป็นการรับวิตามินผ่านอาหาร หรือวิตามินชนิดเม็ด)

สรุปถ้าอยากได้วิตามินจริงๆ “การกิน” คือแนวทางประติบัตรที่ถูกต้องมากกว่า “การสูบ” อย่างแน่นอน

แต่ในอีกมุมก็ยังไม่มีหลักฐานใดที่สามารถนำมายืนยันได้อย่างชัดเจนว่า การสูบวิตามินนั้นส่งผลอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของคนที่สูบ สุดท้ายเรื่องทั้งหมดมันก็กลับมาที่ความวุ่นวายของ “น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า” ที่ถูกทำมาจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ ทำให้บอกได้ยากว่า “บุหรี่ไฟฟ้า” เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ เนื่องจากว่ามันไม่ได้มีมาตรฐานใดให้สามารถพูดถึงว่าการเสพบุหรี่ไฟฟ้าแบบรวมๆ จึงไม่ได้เหมือนกับบุหรี่ตามแบบทั่วไปถึงแม้ว่าเราจะบอกได้ว่าสารเริ่มต้นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีอันตรายใดๆ แต่ประเด็นหลักอยู่ที่พวกสารแต่งเติมเข้ามาเพื่อเพิ่มรสชาติที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย อย่างเช่นกรณีของ “Vitamin-E Acetate” ที่เกิดขึ้นในปี 2019 ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า สารบางอย่างที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าแล้วมีปัญหามันก็คือสารแต่งกลิ่นเติมรสชาติที่เราตามปกติ แบบไม่มีพิษมีภัยทำให้เข้าโรงยาบาลได้ เพียงแต่เวลาเอาไปมันไปสูบมันกลายเป็นพิษที่ทำให้เราป่วยก็แค่นั้นเอง