ไต้ฝุ่นเนสาท โจมตีฟิลิปปินส์ กระทบตอนเหนือประเทศ ก่อนมุ่งเข้าสู่เวียดนาม

ข่าวต่างประเทศ รายงานล่าสุดเปิดเผยสถานการณ์ไต้ฝุ่นเนสารท ภายหลังจากที่ไปโจมตีตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ฝนตกหนักพร้อมลมกระโชกแรง มวลน้ำมากไหลท่วมหมู่บ้านกำลังเคลื่อนย้ายตัวไปถล่มต่อประเทศเวียดนาม เนื่องจากมันทวีกำลังอย่างรวดเร็ว

ไต้ฝุ่นเนสาท โจมตีฟิลิปปินส์ ทวีกำลังอย่างรวดเร็ว ความเร็วลม 120 กม./ชม. ก่อนพุ่งถล่มเวียดนามเร็ววันนี้

ไต้ฝุ่น “เนสาท” จากรายงานล่าสุดกำลังมุ่งหน้าไปถล่มประเทศเวียดนาม หลังจากที่เข้าพัดถล่มตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ด้ออกมาเปิดเผยว่าพายุเนสาทนี้จะเพิ่มทวีกำลังไปอย่างรวดเร็ว และมันจะกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นโดยมีความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อย่างไรก็ตาพายุลูกนี้ได้พัดขึ้นมาที่ฝั่งทางตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 ตุลาคม 2565 จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีฝนตกและลมพัดกระโชกแรง และทำให้ปริมาณน้ำพัดทะลักเข้ามาท่วมหมู่บ้าน ถนน และพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านร่วม 900 ครัวเรือน โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตของจังหัดคากายัน ทั้งนี้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ทางด้านของ ปธ.เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ออกมาแถลงการณ์ว่าทางรัฐบาลกำลังทำการจัดส่งความช่วยเหลือต่างๆไปให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุทั้งหมด

ล่าสุดรายงาน “พายุเวสาท” ได้เคลื่อนย้ายออกจาประเทศฟิลิปปินส์แล้ว และเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะอยู่ห่างออกไปจากหมู่เกาะ “พาราเซล” ไปทางฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 600 กิโลเมตร โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุ่งหน้าไปเข้าชายฝั่งในพื้นที่ภาคกลางตอนบนของประเทศเวียดนาม

ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น-ฮ่องกง ออกมาคาดการณ์ว่าพายุไปในทิศทางเดียวกัน นับตั้งแต่หลังวันอังคารนี้ไป ไต้ฝุ่นเนสาทจะเริ่มทำความเร็วลมสูงสุดได้มากกว่า 145-155 กิโลเมตร แต่ก็อาจอ่อนกำลังลงได้ เมื่อมุ่งหน้าเข้าไปสู่ชายฝั่งจังหวัดกว๋างบิ่ญ และต่อไปจนถึงพื้นที่เถื่อเทียน-เว้  “ไต้ฝุ่นเนสารท” คือ พายุลูกที่ 6 ของปี2565 ที่ได้พัดผ่านเข้ามาในน่านน้ำเวียดนาม และยังเป็นพายุลูกที่ 3 ได้ทำการถล่มเวียดนาม ในระหว่างเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามพายุลูกล่าสุดได้เพิ่งเข้าไปถล่มเวียดนามเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านมานี้นั้นก็คือ “พายุเซินกา” ซึ่งตอนนี้ได้อ่อนกำลังลงละกลายเป้นพายุดีเปรสชันแล้วในคืนวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2565 และเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดฝนตกอย่างหนัก และส่งผลให้ปริมาณน้ำมากและท่วมหนักมากที่สุดในรอบ 30 ปีมานี้ในพื้นที่ของ “เมืองดานัง” จากการรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย และมีประชาชนร่วม 200,000 ครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้งาน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านสภาพอากาศได้ออกมาบอกว่า “ประเทศเวียดนาม” ต้องเผชิญกับพายุอีกราว 2-3 ลูก กว่าจะถึงช่วงปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง