Saturday, 20 April 2024

3 เรื่องที่คนฟินแลนด์เลือกที่จะไม่ทำกัน จนเขากลายเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก โดยครองแชมป์ไปแล้ว 5 ปีซ้อน

เรื่องน่ารู้ 3 เรื่องที่คนฟินแลนด์ “ไม่ทำ” จนเขาฟินแลนด์กลายเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกที่อาอันดับที่ 1 ไปครอบครอง โดยครองแชมป์ไปแล้ว 5 ปี “`บอกเลยงานนี้ใครนที่อยากมีความสุขเหมือนคนฟินแลนด์นั้นต้องห้ามพลาด แวะเข้ามาอ่านบทความนี้กันก่อน

สล็อต xo Slotxo

3 เรื่องที่คนฟินแลนด์ “ไม่ทำ” จนกลายเป็นประเทศมีความสุขติดอันดับ 1 ของโลก

3 เรื่องที่คนฟินแลนด์ “ไม่ทำ” จนกลายเป็นประเทศมีความสุขติดอันดับ 1 ของโลก

นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศ Finland ได้เดินทางตามหาค้นหา ต้นกำเนิดที่ไปที่มาของ ความแฮปปี้ของคนภายในประเทศ ก่อนจะพบว่าต้นกำเนิดของความแฮปปี้นั้นมาจากการใช้ชีวิต และสามารถรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีมากๆ ได้ ก็เพราะว่า พวกเขาไม่ทำ 3 เรื่องนี้

“เขาไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น”

คนที่มีความสุขนั้นจะไม่เปรียบเทียบหรือพูดจาข่มคนอื่นเรื่องความสุขกับผู้ใด เพราะสิ่งที่พวกเขาทำคื ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้นและมองหาความสำเร็จน้อยลง นี่คือขั้นแรกของการทำให้มีความสุขที่แท้จริง ก็คือตั้งมาตรฐานของตัวเอง โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร

ภาพประกอบข่าว ความสุขของประชาชนชาวฟินแลนด์

“ไม่มองข้ามคุณค่าที่ได้รับจากธรรมชาติ”

ผลสำรวจเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา พบว่า 87 เปอร์เซ็นต์ ของชาว Finland รู้สึกว่าธรรมชาติสำคัญต่อพวกเขา เพราะมันทำให้รู้สึดปลอดโปร่งโล่งไม่ต้องคิดอะไร และผ่อนคลาย ชาว Finland จะมีวันหยุดช่วงฤดูร้อนราว 4 สัปดาห์ ช่วงเวลาดังกล่าว พวกเขาจะหาทางออกไปสัมผัสธรรมชาติด้วยตัวเอง หาสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ชีวิตลดล

ไม่ทำลายสังคมแห่งความไว้วางใจ

ผลการทดลองพบว่ายิ่งระดับความไว้วางใจสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ประชาชนคนที่อาศัยอยู่ในประเทศมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น  ยกตัวอย่าง เมื่อปี 2022 มีการทดลองทำกระเป๋าสตางค์หาย เพื่อทดสอบความซื่อสัตย์ของพลเมืองในประเทศ ด้วยการทำกระเป๋าสตางค์หล่นหาย 192 ใบใน 16 เมือง รอบโลก ผลที่ออกมาคือกระเป๋าสตางค์หาย 12 ใบ ได้คืนจำนวน 11 ราย

นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศ Finland

ชาว Finland มีโอกาสที่จะเชื่อถือหรือไว้วางใจความซื่อสัตย์ให้กับผู้อื่น ถ้ามีการลืมโน๊ตบุ๊คในห้องสมุด หรือทำโทรศัพท์หายในรถไฟ ก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับมันกลับคืนในไม่ช้า เด็กๆ ในฟินแลนด์ก็สามารถใช้รถบัสสาธารณะจากโรงเรียนกลับบ้าน และสามารถออกไปวิ่งเล่นข้างนอกได้โดยไม่ต้องมีผู้ปกครองคอยดูแล