เพลิงไหม้กลางดึก ตึกเก็บออกซิเจน 5 คูหา ย่านเจริญกรุง

ข่าวทั่วไทย เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานระทึก เหตุเพลิงไหม้ ตึกเก็บออกซิเจน จำนวน 5 คูหา บริเวณเจริญกรุงเกิดไฟไหม้กลางดึกที่ผ่านมา อาคารดังกล่าวเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไหม้ เริ่มไหม้ชั้น1

ระทึก! เปลวเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว 5 คูหา ย่านเจริญกรุง ตึกเก็บออกซิเจน ครึ่งปูนครึ่งไม้ เพื่อไว้ใช้สำหรับผู้ป่วย เจ้าเผยพบแสงไฟจากชั้น 1 ก่อนลามชั้น 2-3

เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.45 น. (21 ม.ค. 65) เกิดเหตุระทึกไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตึกเก็บออกซิเจน และอุปกรณ์ออกซิเจนทั้งหมดที่เก็บเพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วย เหตุเกิดภายใน ซ.เจริญกรุง-22 แขวง-ตลาดน้อย เขต-สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

พลตำรวจโท ทรงศักดิ์ เดษฤทธิ์ สารวัตรสอบสวน สน.พลับพลาไชย-2 ได้รับแจ้ง ตึกพาณิชย์ย่านเจริญกรุง-22 กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและลุกลามอย่างรวดเร็ว ตำรวจได้เร่งประสานงานไปยังพนักงานดับเพลิงและหน่วยงานกู้ภัย เพื่อรุดลงพื้นที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ตึกดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ อาคารมี 3 ชั้น และยังมีสภาพครึ่งล่างเป็นปูนครึ่งบนเป็นไม้ บริเวณนั้นมีอาคารพาณิชย์ปลูกติดกันเป็นจำนวนหลายหลังเป็นแนวยาว ก่อนเกิดเหตุมีรายว่าพบแสงไฟเกิดขึ้นที่ชั้น 1 ของตัวอาคารดังกล่าว โดยตึกนี้จะใช้เป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับท่อ-ข้อต่อถังออกซิเจน หลังจากที่มีแสงไฟเกิดที่ชั้น 1 อาคารได้ไม่นานเปลวเพลิงก็ลามลุกไหม้ไปที่ชั้น 2-3 ของตัวอาคารอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันฉีดน้ำดับไฟบริเวณดังกล่าวนานกว่าครึ่งชั่วโมง จนเพลิงไหม้สงบลงได้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เพลิงไหม้ทำร้ายข้าวของเสียหายเป็นจำนวน 5 คูหา โชคดีที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ในตัวอาคารดังกล่าวจึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ทางด้านเจ้าของตึก นายสมเกียรติ ซึ้งกมลพิสุทธิ์ วัย 66 ปี ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะที่เกิดเพลิงไหม้ภายในตึกเก็บของ ตนได้นอนพักอยู่อีกอาคารหนึ่ง ขณะหลับอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงชาวบ้านที่อาศัยบริเวณนั้นตะโกนเสียงดังว่า “ไฟไหม้” ตะโกนบอกอยู่หลายครั้งด้วยกัน ตนรีบลุงขึ้นมาดูเหตุการณ์พบว่าเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่อาคารเก็บของๆตนเอง จนวิ่งว่าจะเข้าไประงับเพลิง แต่ไม่ทันจะทำอะไรไฟลุกลามไหม้ไปที่ชั้นอื่นของตึกไปแล้ว

หลังจากที่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงได้แล้ว นายสมเกียรติ ตัดสินใจตะโกนเพื่อบอกให้เพื่อนบ้านที่อยู่ในบริเวณรอบๆ ให้เร่งออกจากตัวอาคารเพื่อป้องกันความปลอดภัย เพราเกรงว่าไฟจะลามไปไหม้อาคารหลังอื่นๆ ตึกที่ถูกไฟไหม้ตนใช้เป็นที่เก็บท่อออกซิเจนที่ใช้ในผู้ป่วย อาคารนั้นไม่มีคนไปนอนเฝ้าไม่มีคนอยู่

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ตำรวจได้เร่งตรวจสอบและเรียกสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้โดยละเอียด พร้อมกับได้ประสานงานไปที่ พฐ. ให้นำเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในพื้นที่อาคารที่ถูเพลิงไหม้ดังกล่าว