ผู้ปกครองตกใจ เด็ก 8 คน ส่งหมายเรียกถึงบ้าน สาวแจ้งจับ พอบุกกินกล้วยในครัว ร้องค่าเสียหายหลายหมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานเปิดเผยผู้ปกครองตกใจ ชอล์กกับสิ่งที่เจอได้รับหมายเรียกถึงบ้านหลังจากสาวแจ้งความจับลูก สาเหตุที่แจ้งจับเพราะไปบุกกินกล้วย ผู้ต้องหาเป็นเด็กจำนวน 8 คน เด็กบางส่วนไม่ยอมรับเพราะไม่ได้กินอย่างที่กล่าวหา โดนแจ้งความจับโดยไม่ยุติธรรม

ผู้ปกครองตกใจ เด็ก 8 คน ถูกแจ้งจับเพราะบุกกินกล้วย  เด็กผวาจิตตก เหม่อลอย โดนร้องค่าเสียหายหลายหมื่น

8 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านโคกสำโรง หมู่ 7 ตำบลบ้านไทร อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ จากกรณีที่มีเด็กนักเรียนอายุ 5-12 ปี ซึ่งเด็กๆเหล่านี้ถูกแจ้งจับในคดีอาญา โดยมีหมายเรียกจากทาง สภ.ประโคนชัย โดยมีการตั้งข้อหาว่าเด็กชายวัย 7 ขวบ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ชั้นประถมปีที่ 1 ร่วมบุกรุกกับเพื่อนเข้าไปทำลายทรัพย์สินอื่นๆ กล้วยน้ำว้าจำนวน 1 หวี ได้รับความเสียหาย

ต่อมาคุณแม่วัย 53 ปีของเด็กชายวัย 7 ขวบได้ออกมาพูดให้สัมภาษณ์ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 เวลา 20:00 น. นางสาวกุ้ง (นามสมมุติ) หญิงสาววัย 33 ปีเพื่อนร่วมหมู่บ้าน เธอได้เรียกให้เด็กชายจำนวน 8 คนเข้าไปที่บ้าน จากนั้นก็ได้อัดคลิปวีดีโอระหว่างที่สอบสวน ภายหลังจากที่เธอตรวจสอบภายในครัวพบว่ากล้วยน้ำว้าหายไป 1 หวี และยังมีทรัพย์สินอื่นๆที่ได้รับความเสียหาย

คุณแม่เด็กชายวัย 7 ขวบ ได้กล่าวต่อไปอีกว่าเธอรู้มาว่าลูกชายและเพื่อนรวมทั้งสิ้น 8 คนได้เข้าไปภายในครัวของเพื่อนร่วมหมู่บ้านและได้หยิบกล้วยน้ำว้ากิน แต่เด็กๆยันว่าไม่ได้ไปทำร้ายทรัพย์สินส่วนอื่นๆภายในบ้าน ครัวของผู้เสียหายเปิดโล่งไม่มีฝาปิดกั้น เด็กๆก็ไปเล่นที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ เจ้าของบ้านเองก็เลี่ยงให้เด็กๆไปซื้อไก่ป๊อบด้วยหลายครั้ง รวมไปถึงลูกชายของเจ้าของบ้านผู้เสียหายยังเรียนร่วมโรงเรียนกับเด็กทั้ง 8 คน

จนกระทั่งเวลาผ่านมาถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เด็กทั้ง 8 ก็ได้รับหมายเรียกจากสารวัตรสอบสวน สภ.ประโคนชัย โดยกำหนดให้เด็กๆทั้งหมดเข้าไปสอบสวนที่โรงพักในวันที่ 4 ธันวาคม 2565 ภายหลังจากที่รับหมายเรียกผู้ปกครองทุกคนก็ต่างตกใจเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กวัยเท่านี้ถึงขั้นต้องโดนหมายเรียก เหมือนทำความผิดร้ายแรงอย่างมาก

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมมาถึงผู้ปกครองทั้งหมดพาลูกไปพบพนักงานสอบสวนในฐานะผู้ต้องหา จนได้รู้ว่าผู้เสียหายได้เรียกร้องเงินค่าสินไหมเป็นจำนวน 3,000 บาท แต่ได้มีการต่อรองจนเหลือ 2,000 บาท/คน 4 ใน 8 ของผู้ปกครอง ยินยอมจ่ายค่าสินไหมเพื่อไม่ให้เรื่องมันยืดเยื้อต่อไป แต่ที่เหลืออีก 4 คน ยังไม่จ่ายค่าสินไหมตามคำเรียกร้องของผู้เสียหาย เนื่องจากลูกๆของพวกเขาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ไปที่บ้านหลังนั้นในวันเกิดเหตุ ไม่ได้กินกล้วยน้ำว้าดังที่ถูกกล่าวหา

คุณแม่ของเด็กวัย 7 ขวบได้เปิดเผยข้อมูลว่า เธอเองยอมจ่ายเงิน 2,000 บาท ตามคำเรียกร้องของผู้เสียหาย แต่สิ่งที่เธอแปลกใจมากที่สุดคือหนึ่งใน 8 คน มีเด็กอายุเพียง 5 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้นอนุบาลทั้งยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คู่กรณียังไม่ลดราวาศอก ประกาศที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดถ้าหาผู้ปกครองของเด็กไม่ยอมจ่ายเงินค่าสินไหม

ต่อมาพ่อของเด็กชายวัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบอกว่าเขาเองก็เป็นคนที่ไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมจำนวน 2,000 บาท อย่างเด็ดขาด!! เนื่องจากลูกชายไม่ได้ไปที่บ้านของนางสาวกุ้ง มากไปกว่านั้นในวันที่นางสาวกุ้งเรียกเด็กๆไปสอบสวนที่บ้านและอัดคลิปวีดีโอเขาก็ได้ไปด้วย จึงได้เห็นเหตุการณ์และสิ่งที่นางสาวกุ้งกระทำกับเด็กๆ ราวกับว่าเด็กเป็นฆาตกร ทำให้วันนั้นเขาเองก็ทะเลาะมีปากเสียงกับนางสาวกุ้งผู้ที่ไปแจ้งความเอาผิดเด็กทั้ง 8

พ่อของเด็กชาย 9 ขวบ ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่าเขารู้สึกติดใจที่มีหมายเรียกออกมาจากตำรวจเพื่อแจ้งจับเด็กจนถึงบ้าน ภายในหมายเรียกก็ระบุชื่อเด็กๆอย่างชัดเจน โดยลูกของเขาก็อยู่ในวัยที่อ่านหนังสือออกแล้ว เขาเห็นและได้รู้เนื้อหาก็หวาดผวา ต่อมาก็มีอาการเหม่อลอย ซึมเศร้าและไม่ร่าเริงเหมือนเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นมันกระทบต่อจิตใจของลูกเขาอย่างมาก

ต่อมาทางฝั่งของนางสาวกุ้งผู้เสียหาย และเป็นผู้ที่ไปแจ้งความจับเด็กทั้ง 8 เธอได้ออกมากล่าวว่า ตัวเธอเองก็เพิ่งจะเดินทางกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านในอำเภอประโคนชัย ได้เพียง 6 เดือน และประกอบอาชีพขายไก่ป๊อป เธอจะเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ จะเดินทางกลับมาบ้านอีกทีก็ประมาณ 1-2 ทุ่ม ตลอดระยะเวลาที่เธอมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็ถูกแกล้งจำนวนหลายครั้ง เธอเคยถูกคนเอาไก่เน่ามาเขวี้ยงใส่ที่บ้าน และเอกสารสำคัญยังถูกรื้อค้นพังเสียหาย

ยังมีน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม มีคนเข้ามาในบ้านและเอาสิ่งของเหล่านั้นไปเททิ้ง แต่เธอก็ยังจับคนทำไม่ได้สักที จนมาถึงกรณีล่าสุดคือกล้วยน้ำว้าที่เธอซื้อมา และเก็บเอาไว้ภายในห้องครัว มันได้หายไปจำนวนหลายหวี จนเธอก็ได้จับเด็กมาสอบสวนทำให้ได้รู้ความจริง ทำให้เธอแจ้งความและเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ปกครองเด็กจำนวน 3,000 บาท/คน แต่เธอก็คิดเห็นใจจึงลดค่าสินไหมให้เหลือเพียง 2,000 บาท/คน ยังเหลือเด็กอีก 4 คน ที่ไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมเธอยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด