ตำรวจพร้อมอาสา บุกค้นด่วน ทาวน์เฮาส์หลอน ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ

ข่าวทั่วไทย เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ชาวบ้านหมู่บ้านจิตนิพิธ ย่านบางประกอก ผวาเจอ ทาวน์เฮาส์หลอน มีกลิ่นเหม็นโชยออกจากบ้าน เกรงว่าจะมีผู้เสียชีวิตในบ้านพักเพราะไม่เคยเห็นใครออกมา

ทาวน์เฮาส์หลอน เจ้าของบ้านหายตัวปริศนา  ปล่อยบ้านเน่าส่งกลิ่นเหม็นไปทั้งซอย  อาสาและตำรวจ เข้าตรวจพบแต่ขยะไม่คนอยู่

ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ และทีมงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ประสานลงพื้นที่บ้านต้องสงสัย ทาวน์เฮาส์หลอน หลังได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าบ้านหลังหนึ่งภายใน ซ.สุขสวัสดิ์ 26 บางประกอก ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ บ้านหลังดังกล่าวนี้ได้ส่งกลิ่นเหม็นทั่วทั้งซอยชาวบ้านโดยระแหวกต่างคิดไปว่าจะมีเหตุผู้เสียชีวิตขึ้นภายในบ้านต้องสงสัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานอาสาเดินทางลงไปถึงบ้านต้องสงสัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ยืนที่บริเวณหน้าบ้านก็ได้กลิ่มเน่าลอยออกจากบ้านซึ่งกลิ่นที่ได้รับเป็นกลิ่นเหม็นรุนแรง และเวลานั้นชาวบ้านรอบๆก็ต่างมามุงดูสถานการณ์ และเป็นกลุ่มชาวบ้านที่แจ้งเรื่องไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้ามาดูบ้านหลังนี้ เพราะได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์มาได้สักพักจนต่างก็คิดว่าจะมีศพคนตายอยู่ในบ้านและได้ให้เหตุผลว่าคงไม่มีกลิ่นอะไรเน่าเหม็นได้เท่ากลิ่นศพแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินเข้าไปสำรวจภายในบ้าน

บ้านดังกล่าวเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้น โดยบ้านแต่ละหลังจะสร้างติดๆกับเรียงรายกัน และบ้านที่ต้องสงสัยนี้ขณะที่สิ่งกลิ่นเหม็นสภาพก็รกร้างเหมือนไม่มีคนดูแลมาเป็นราวเป็นปี ทั้งหญ้าและพันธ์ไม้ขึ้นเต็มทั่วบริเวณบ้านจากเหตุนี้ยิ่งเป็นเหตุเสริมความสงสัยที่อาจจะมีคนตายอยู่ภายในบ้าน

เจ้าหน้าที่เริ่มตรวจดูตั้งแต่หน้าบ้านที่เป็นประตูเหล็กพบว่ามีการล็อกด้วยสายเคเบิ้ลรถจักรยาน เจ้าหน้าได้มีการตัดสายล็อกออกก่อนเดินเข้าไปในบริเวณบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าก็ไม่พบสิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นนี้ ภายในบ้านไม่มีการทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องเดินเข้าไปสำรวจภายในบ้านหลังนี้อย่างละเอียดเพื่อทำให้ชาวบ้านได้สบายใจ ภายในบ้านเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งผิดปกติใด เจ้าหน้าเดินไปตรวจชั้นล่างโดยทั่วและชั้นสองของบ้านทุกมุมแต่กชต้องแปลกใจเพราะไม่พบกับเจ้าของบ้านทั้งที่สิ่งของต่างๆก็ตั้งเรียงเป็นปกติมาก

สรุปแล้วภายในบ้านที่ชาวบ้านสงสัยว่ามีศพตายเพราะกลิ่นเหม็นที่ลอยโชยออกจากบ้าน ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างยิ่งสงสัยไปกันใหญ่ว่าแล้วอะไรกันที่ทำให้เกิดกลิ่นเน่าได้นาดนี้ได้ ในส่วนของเจ้าของบ้าน ชาวบ้านก็ไม่ได้เจอมานานแล้ว และญาติพี่น้องลูกๆหลานๆของเจ้าของบ้านชาวบ้านก็ไม่มีเบอร์ติดต่อใครได้เลย จากเหตุดังกล่าวก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเจ้าของบ้านตายแล้วหรือยัง

ทั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่จะไม่พบร่องรอยหรือสิ่งผิดปกติและสำคัญก็ค้นไม่เจอศพหรือผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังดังกล่าว แม้ชาวบ้านจะได้รายงานจากเจ้าหน้าที่เช่นนี้ก็ยังปักใจเชื่อว่าเจ้าของบ้านอาจจะตายแล้วแต่วิญญาณไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้จะแสดงตัวด้วยการส่งกลิ่นเหม็นที่ทำให้ชาวบ้านสงสัยกันอยู่แบบนี้

สำหรับชาวบ้านที่เป็นตัวตั้งตัวตีโทรไปแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน คือ นางศิริรัตน์ วัย 62 ปี โดยเธออาศัยอยู่ที่บ้านหลังตรงข้ามบ้านต้องสงสัย ได้ออกมาเล่าว่า ครั้งล่าสุดที่ตนเห็นเจ้าของบ้านก็ตอนที่ลูกสาวเขามารับไปแล้วก็กลับมาส่งก่อนที่เจ้าของบ้านเดินเข้าบ้านไป หลังจากนั้นมาก็ไม่เจอเจ้าของบ้านหลังนี้อีกหลาย จนกระทั่งได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนวันนี้ ชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ได้กลิ่นเน่าของศพลอยออกจากบ้านเช่นเดียวกัน ตนเป็นห่วงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจะเดินไปที่บริเวณหน้าบ้านแล้วตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมาเลย

เมื่อก่อนตนเคยเห็นเจ้าของบ้านรายนี้เดินออกมารดน้ำต้นไม้และเดินออกมาทิ้งขยะ และตนก็ได้รู้มาอีกว่าแกได้ป่วยเป็นแผล และชายเจ้าของบ้านก็อาศัยอยู่บ้านนี้คนเดียวนานกว่าที่ตนย้ายมาอยู่บ้านหลังตรงข้าม แต่ก่อนแกได้อยู่บ้านนี้กับลูกเมีย ไม่นานแกไล่เมียและลูกให้ออกจากบ้าน จากนั้นก็เห็นแกร็บมาส่งอาหารให้แก และบางครั้งจะมีรถของทางโรงพยาบาลมารับถึงที่บ้านเพื่อไปหาหมอ

ครั้งล่าสุดที่เห็นลูกสาวมาส่ง เหมือนว่าลูกสาวจะไปบอกเพื่อนที่อยู่บ้านข้างกันกับแกให้คอยช่วยดูพ่อให้ด้วย เพราะเขาเดินเหินไม่สะดวกหรือถ้าได้กลิ่นเหม็นอะไรวานคอยดูให้หน่อย เพราะมีความเป็นห่วงเจ้าของบ้านเพราะอาจจะเป็นอะไรไป เนื่องเป็นคนมีอายุมากแล้วและได้หายตัวไม่เห็น 3-4 วัน และมีกลิ่นเหม็นออกจากบ้านแบบนี้ทำให้คิดดีไม่ได้เลย อยากให้ญาติหรือเจ้าของบ้านเมือกลับมาแล้วก็ให้มาติดต่อแจ้งเรื่องราวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบด้วยว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น และกลิ่นที่ออกมาจากบ้านได้กลายเป็นเรื่องที่เพื่อนบ้านไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และบางรายก็รู้สึกผวาเดินผ่านมาตอนไหนก็ได้กลิ่นเหม็นไม่โชยติดจมูกตลอดเวลา