เปิดเส้นทาง: “บิ๊กกุ้ง” นายทหารเลือดใหม่ ของกองทัพบก กับภารกิจร้อนแนวชายแดน

เปิดเส้นทาง: “บิ๊กกุ้ง” นายทหารเลือดใหม่ นายทหารเลือดอีสาน สายบู๊ ยึดมั่นในศักดิ์ศรีทหารชาติ ข่าวทั่วไทย “บิ๊กกุ้ง” คือสมญานามที่วงการทหารรู้จักกันดีของ พลโท ไพโรจน์ ทองมา แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้มีสายเลือดอีสานแท้เต็มตัว เติบโตจากครอบครัวทหารเก่าในภาคอีสาน และเคยผ่านการรับราชการในหลายพื้นที่ชายแดนที่เปราะบางทั้งด้านความมั่นคงและความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา

“บิ๊กกุ้ง” นายทหารเลือดใหม่ แม่ทัพมือปราบแห่งชายแดนอีสาน กับบทบาทผู้นำกองทัพยุคใหม่

พลโทไพโรจน์มีบุคลิกเงียบขรึม พูดน้อยทำมาก และได้รับความนับถือจากลูกน้องว่าเป็นผู้นำที่ลงพื้นที่จริง ไม่สั่งการจากโต๊ะทำงาน เป็นภาพลักษณ์ขอ ที่มีทั้งความกล้าและความละเอียดรอบคอบ

เส้นทางทหารจากโรงเรียนนายร้อย สู่สนามรบแนวหน้า

“บิ๊กกุ้ง” สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 30 และเริ่มต้นรับราชการในหน่วยทหารราบที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่รู้จักในวงการว่าเป็น ผู้เชี่ยวชาญยุทธวิธีการรบในพื้นที่ป่าเขาและเขตแดน โดยเฉพาะการวางกำลังแนวป้องกันเขตชายแดนที่มีความซับซ้อน

เขาเคยร่วมภารกิจหลายครั้งกับหน่วยเฉพาะกิจตามแนวชายแดน ทั้งด้าน กัมพูชาและลาว รวมถึงเคยร่วมบัญชาการในเหตุการณ์รุนแรงหลายครั้งที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยยึดแนวทาง “สันติวิธี” คู่ขนานกับการป้องปรามอย่างมีชั้นเชิง

หนึ่งในผู้วางระบบความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ข่าวท้องถิ่น หนึ่งในผลงานเด่นของ “บิ๊กกุ้ง” คือการ สร้างระบบป้องกันพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งในเรื่องการข่าว การฝึกกำลังพล การเจรจากับฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการทำงานร่วมกับฝ่ายพลเรือนและชาวบ้านตามแนวชายแดน

การควบคุมความขัดแย้งไม่ให้ลุกลามจากระดับท้องถิ่นไปสู่ระดับระหว่างประเทศ คือจุดแข็งของเขา และทำให้กองทัพบกมองว่าเขาคือ “คนสำคัญ” ที่เหมาะสมกับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ในช่วงที่สถานการณ์ระหว่างประเทศยังไม่แน่นอน

ภารกิจปัจจุบัน กับบทบาทแม่ทัพที่ถูกจับตามอง

ในช่วงที่ผ่านมา พลโทไพโรจน์ตกเป็นเป้าของกระแสโซเชียลและการเมืองจากกรณีข่าวด้านความมั่นคง แต่กองทัพบกยังคงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ย้ำชัดว่าเขาคือหนึ่งในแม่ทัพที่ยืนหยัด ปกป้องอธิปไตยชาติ

ภารกิจปัจจุบันของเขาไม่เพียงแต่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ ประสานความร่วมมือกับกัมพูชา ในระดับทหาร และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยการใช้ความสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อไม่ให้ปัญหาเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่

บุคลิกที่ลูกน้องยอมรับ และชาวบ้านเชื่อถือ

แม้จะเป็นนายทหารระดับสูง แต่ “บิ๊กกุ้ง” มักลงพื้นที่ด้วยตัวเองในทุกเหตุการณ์สำคัญ ทั้งน้ำท่วม ชายแดน หรือแม้แต่การเยี่ยมเยียนชาวบ้านตามแนวป่าเขา ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็น “แม่ทัพติดดิน” ที่ไม่ถือตัว

ลูกน้องในกองพลทหารราบที่ 6 และหน่วยแนวหน้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่างยอมรับในความสามารถและภาวะผู้นำของเขา พร้อมทั้งกล่าวว่า “ถึงเป็นคำสั่งยากแค่ไหน ถ้าแม่ทัพสั่ง ก็พร้อมปฏิบัติ”

สรุป: ผู้เคยปะทะทุกแรงกดดันในสนามรบชายแดน

พลโทไพโรจน์ “บิ๊กกุ้ง” แม่ทัพภาคที่ 2 คือแบบอย่างของนายทหารยุคใหม่ ผู้ไม่เพียงทำหน้าที่ทางทหาร แต่ยังเข้าใจความละเอียดอ่อนของมวลชน ทุกทิศทั่วไทย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และศักดิ์ศรีของชาติอย่างลึกซึ้ง การยืนหยัดของเขาท่ามกลางกระแสต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงหัวใจของนายทหารตัวจริงที่พร้อม “รักษาอธิปไตย” ยิ่งกว่าสิ่งใด

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่