เดือดแต่เช้า: ปะทะรอบใหม่ที่ภูมะเขือ ช่องบก ยืดเยื้อหลายชั่วโมง

เดือดแต่เช้า: ปะทะรอบใหม่ที่ภูมะเขือ สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังร้อนแรงต่อเนื่อง เข้าสู่ วันที่ 2 ของการเผชิญหน้า ล่าสุดเช้าวันนี้ ข่าวทั่วไทย (ตามเวลาท้องถิ่น) มีรายงานว่าเกิด การปะทะด้วยอาวุธเบาและปืนใหญ่ ที่จุดยุทธศาสตร์ “ภูมะเขือ” และ “ช่องบก” ซึ่งเป็นพื้นที่สูงติดแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดเปรียะห์วิแฮร์ของฝั่งกัมพูชา เสียงระเบิดและปืนดังต่อเนื่องตั้งแต่ราว 06.20 น. จนถึงช่วงสาย โดยมีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายส่งกำลังเสริมเข้าสนับสนุน จนเกิดการยิงตอบโต้ยืดเยื้อหลายชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงต้องรีบอพยพออกจากจุดเสี่ยงอย่างเร่งด่วน

ไทม์ไลน์สถานการณ์ วันที่ 2 (ฉบับย่อ)

05.45 น. – หน่วยลาดตระเวนไทยพบความเคลื่อนไหวผิดปกติจากฝั่งกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ
06.20 น. – เสียงปืนเบาและปืนกลดังขึ้นจากฝั่งกัมพูชา เจ้าหน้าที่ไทยเริ่มตอบโต้
07.00 น. – มีการใช้ปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชตอบโต้เข้ามายังแนวช่องบก เจ้าหน้าที่ไทยใช้รถหุ้มเกราะสนับสนุน
08.15 น. – ศูนย์บัญชาการชายแดนภาคอีสานสั่งล็อกพื้นที่ ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า
09.30 น. – เสียงปะทะเริ่มเบาลง แต่ยังไม่ยุติเต็มรูปแบบ
11.00 น. – ศรีสะเกษสั่งเปิดศูนย์อพยพชั่วคราวที่โรงเรียนใกล้ชายแดน พร้อมประกาศเตือนภัยระดับสีส้ม

จุดยุทธศาสตร์ “ภูมะเขือ–ช่องบก” คืออะไร? ทำไมถึงร้อนตั้งแต่วันแรก

ภูมะเขือเป็นจุดสูงทางยุทธศาสตร์ที่สามารถ มองเห็นแนวชายแดนได้ไกลหลายกิโลเมตร และเคยเป็นจุดปะทะมาแล้วในช่วงความขัดแย้งเมื่อปี 2554 ด้านช่องบกเป็นเส้นทางลำเลียงที่ทั้งสองฝ่ายใช้สลับกันมาตลอด ทั้งเชิงพาณิชย์และการทหาร

การเปิดฉากยิงในสองจุดนี้ ทุกทิศทั่วไทย แสดงให้เห็นว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเตือนภัย แต่เข้าสู่ระดับยุทธวิธี ที่ต้องการควบคุมพื้นที่จริง โดยเฉพาะในภาวะฝนตกและภูมิประเทศซับซ้อน

ปะทะรอบใหม่ที่ภูมะเขือ ผู้บาดเจ็บ-อพยพเริ่มมีรายงานแล้ว ขาดเวชภัณฑ์–โลหิตบางกลุ่ม

ล่าสุดมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วทั้งทหารและพลเรือนอย่างน้อย 15 ราย (ฝั่งไทย) โดยมีอาการตั้งแต่บาดแผลเล็กน้อยจากสะเก็ด ไปจนถึงเจ็บหนักจากแรงระเบิด ขณะเดียวกันโรงพยาบาลในเขตกันทรลักษ์–ขุนหาญเริ่มประสบ ปัญหาโลหิตขาดแคลน โดยเฉพาะกรุ๊ป O และ AB สภากาชาดไทยจึงประกาศขอรับบริจาคด่วน และเริ่มลำเลียงถุงเลือดจากกรุงเทพฯ ส่งไปยังแนวหน้าในภาคอีสาน

ทหารยัน “ตั้งรับเต็มรูปแบบ” ไม่ใช่การรุกราน – ด้านกัมพูชายังเงียบ

ฝั่งโฆษกกองทัพบกไทยให้สัมภาษณ์ว่า การปะทะวันนี้เป็นผลจากการ บุกรุกชายแดนของกำลังทหารกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยยังยึดแนวทางตั้งรับตามหลักอธิปไตยเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนกำลังเข้าไปในดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะที่ฝั่งกัมพูชายังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์เช้านี้ แต่สื่อท้องถิ่นของเขาเริ่มรายงานว่า “ถูกโจมตีก่อน” ซึ่งอาจเป็นชนวนของสงครามข้อมูลในรอบต่อไป

สถานการณ์ยังไม่นิ่ง – ประชาชนในพื้นที่โปรดติดตามข่าวใกล้ชิด

ทันเหตุการณ์ข่าวทั่วไทย กองอำนวยการร่วมชายแดนได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในอำเภอใกล้ชายแดน หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าเขตแนวปะทะ และติดตามประกาศจากหน่วยราชการเท่านั้น พร้อมเปิดศูนย์ช่วยเหลือและสายด่วนความปลอดภัย

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่