ผู้กำกับการ สภ.แม่สอด ชี้ขบวนการสร้างข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ หยุดทำร้ายชาวแม่สอด

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ผู้กำกับการ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน ชุดปราบปรามอาชญากรรม และ ชุดสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ

ผู้กำกับการแม่สอด ชี้ขบวนการสร้างข่าวปลอม หยุดทำร้ายชาวบ้านแม่สอด

ร่วมกันออกมาแถลงข่าว กรณีการสืบสวนติดตาม หาข่าวและข้อเท็จจริง ขบวนการสร้างข่าวปลอม หรือเฟคนิวส์ Fake News หลังจากที่มีกลุ่มขบวนการสร้างเพจบล็อก โพสต์ ข่าวปลอม มีเป้าหมายในการสร้างข้อความเพื่อมุ่งในการทำลายชื่อเสียงของเจ้าหน้าที่ สร้างความรู้สึกสับสนให้กับสังคมแม่สอด

โดยได้มีการโพสต์ผ่านทางโลกออนไลน์ ทั้งในเขตพื้นที่และทั่วประเทศ จนทำให้หน่วยงานเกิดความเสียหายไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวปลอมออกมาว่าเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือมีการเรียกเก็บเงิน เรื่องเกี่ยวกับการลักลอบขนแรงงาน ฯลฯ

รวมทั้งสร้างเพจปลอมเพื่อกล่าวหาให้ร้ายหน่วยงานภาครัฐ แล้วนำไปลงบนโลกโซเชียล จนทำให้เกิดความสับสนให้กับประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงขอชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง และเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ อย่าส่งต่อแชร์ข้อมูลที่บิดเบือน เนื่องจากเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พ.อ.ภูเบส แสงอร่าม ผกก.แม่สอด เผยอีกว่า ตนสุดจะทนกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ชายแดนเพราะการจับกุมของเจ้าหน้าที่สร้างความเสียหาย
จนได้เกิดการว่าจ้างสร้างบล็อกเฟกนิวส์เพื่อโจมตี เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ปกครอง ทหาร บุคลากรทางการแพทย์ ทำให้เกิดความเสียหาย สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนทั่วทั้งประเทศ

ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้สึกยอมไม่ได้ จึงต้องจัดการให้เด็จขาด เนื่องจากกลุ่มคนพวกนี้กำลังทำร้ายชาวบ้านแม่สอดและชาวบ้านจังหวัดตากอย่างไม่รู้สึกละอายใจ โดยหากปล่อยไว้มีแต่จะทำลายสังคม

ผกก. สภ.แม่สอด บอกย้ำอีกว่า จากตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนบนโลกออนไลน์ตามเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ร่วมกันประจำจุดตรวจพื้นที่ บ้านห้วยหินฝน หมู่ 6 ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ร่วมกันตรวจสอบคนไทยที่ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งระหว่างเดือน มกราคม – 31 กรกฎาคม 2564 ซึ่งมีการตรวจพบจำนวนถึง 498 ราย เป็นชาย 161 ราย เป็นหญิง 337 ราย โดยตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิด19 จำนวนกว่า 30 คน ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย ส่วน คนต่างด้าว ที่ได้ทำการลักลอบเข้ามาหลบเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นๆ ในการหลบหนีเข้ามาในเมือง เนื่องจาก ไม่สามารถที่จะเดินทางผ่านไปยังจุดตรวจบ้านห้วยหินฝน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็จะถูกจับกุมมาดำเนินคดี

จากการสอบปากคำผู้ที่ถูกจับกุม ได้มีการจ่ายเงินให้เป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้นำพาลักลอบให้เดินทางเข้ามายังราชอาณาจักร รายละ 6,000 – 12,000 บาท

ซึ่งคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบจากโทรศัพท์ของผู้ที่ถูกจับกุม โดยมีข้อมูลการสนทนาผ่านทางไลน์และพบสลิปการโอนเงินให้กลุ่มผู้นำ

จำนวนของผู้ลักลอบที่ได้ถูกจับกุมไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมีเงินที่กลุ่มขบวนการนี้ได้ไปจำนวนหลายล้านบาท โดยเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ และทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้มีการสั่งให้ ผู้กำกับการ สภ.แม่สอด ได้มีการสืบสวนเพื่อขยายผลถึงกลุ่มขบวนการผู้กระทำผิดดังกล่าว

หลังจากที่ สภ.แม่สอด ได้ทำการสืบสวนขยายผลกลุ่มขบวนการลักลอบนำคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และทำการจับกุมผู้ที่ได้กระทำผิดอย่างเข้มงวด โดยที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงพื้นที่ ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติด อาวุธสงคราม และเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ อย่างต่อเนื่อง

ต่อมาช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ได้มีการตรวจสอบพบการจัดทำสื่อภาพ สร้างข่าวปลอม โดยได้นำภาพเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นยังพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งได้โพสต์ข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริง มีการเผยแพร่ผ่านบนโลกออนไลน์เพื่อทำการลดความน่าเชื่อถือ ของหน่วยงานต่างๆ

เดือนกรกฎาคม 2564 ได้มีการเผยแพร่สื่อภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง จังหวัดตาก พร้อมด้วยข้าราชการเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาประกอบในการสร้างข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริง ออกมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นครั้งที่ 2

ตอนนี้ทราบตัวและได้ทำการแจ้งดำเนินคดีผู้ที่ได้เผยแพร่ส่งต่อข้อความดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีส่วนร่วมกับกลุ่มขบวนการลักลอบนำคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือไม่