สลด! เหลือทิ้งไว้เพียงพยานรักวัย 7 ขวบ พ่อชาวมาเลเซีย-แม่ชาวไทย เสียชีวิตคาบ้านอย่างปริศนา

เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. วันที่ 18 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี พ่อชาวมาเลเซีย-แม่ชาวไทย เสียชีวิตคาบ้านอย่างปริศนา เหลือทิ้งวัยเพียงพยานรักของทั้งสองเป็นเด็กชายวัย 7 ขวบ ที่ยังมีชีวิตอยู่

เหลือทิ้งไว้เพียงพยานรักวัย  7 ขวบ พ่อชาวมาเลเซีย-แม่ชาวไทย เสียชีวิตคาบ้านอย่างปริศนา จนร่างกายเหม็นเน่าทั้งบ้าน

พ่อชาวมาเลเซีย-แม่ชาวไทย เกิดเหตุเสียชีวิตในบ้านพักแบบไม่สร้างสาเหตุ ในบ้านพักอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ก่อนจะมีการแจ้งเรื่องไปที่ สภ.เบตง ทั้งนี้ ร.ต.ท.หญิง ณัฎฐณิชา พัณณ์ราษฏร์สกุล พนักงานสอบสวน  และเจ้าหน้าที่ระดับสูง และทีมแพทย์เวรโรงพยาบาลเบตง พร้อมกับหน่วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเบตงและเจ้าหน้าที่กู้ชีพมุสลิมเบตง ได้รีบลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็น บ้านปูนชั้นเดียวและมีสีชมพู ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวจะปลูกติดๆกัน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปยังตัวบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นเน่า ภายในห้องห้องเจ้าหน้าที่พบศพ นายชิน ดง ห่อง วัย 44 ปี ได้นอนขึ้นอืดอยู่บนเตียงนอน ร่ากายขึ้นอืดและส่งกลิ่นเหม็นทั้งยังมีแมลงวันบินไปทั่วห้อง ศพถูกห่มด้วยผ้าห่มสีเทา เจ้าหน้าที่ได้จัดการนำธูปมาจุดเพื่อไล่กลิ่นควันเหม็นจากศพทั้งยังเป็นการไล่แมลงวันด้วย พร้อมกันนั้นยังได้นำยามาฉีดพ่นก่อนจะย้ายศพผู้ตาย

สำหรับนายชิน ดง ห่อง เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบห้องครัวที่อยู่บริเวณหลังบ้านได้พบศพภรรยาชาวไทยของนายชินวัย 43 ปี แขวนคอดับด้วยผ้าขาวม้า ขณะใส่เสื้อยืดแขนสั้นมีสีน้ำตาล และสวมกางเกงขาสั้นมีสีแดง ข้อมือด้านซ้ายที่มีแผลจากรอยมีดคมถูกผ้าสีแดงพันไว้ เจ้าหน้าที่เลยนำศพของทั้งสองไปชันสูตรต่อที่โรงยาบาลเบตง ก่อนจะมีการติดต่อญาติของผู้ตายมารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เล่าว่า บ้านหลังเกิดเหตุได้อยู่อาศัยกันจำนวน 3 คน คือ พ่อชาวมาเลเซีย แม่ชาวไทย และลูกชายวัย 7 ขวบ ซึ่งขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ช่วงสายๆ (18 ก.ย. 64) เด็กชายได้วิ่งออกมาบอกให้ช่วยเข้าไปดูแม่ของตน ก่อนที่ตนจะเข้าไปตรวจสอบดูที่บ้าน เมื่อไปถึงก็ได้กลิ่นเหม็นโชยติดจมูก พอเข้าไปในตัวบ้านจึงได้พบศพสองผัวเมียเจ้าของบ้าน ตนจึงรีบโทรแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ

เพื่อนบ้านอีก 1 ราย ที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา(16-17 ก.ย. 64) ในช่วงเช้าตนได้ยินมีเสียงกรี๊ดของหญิงเจ้าของบ้านดังมา 1 ครั้ง พอเปิดประตูมาฟังก็ไม่ได้ยินเสียงอีกเลย ตอนนั้นตนคิดว่าต้องมีการทะเลาะกันเกิดขึ้น

ผู้เสียชีวิตชายเจ้าหน้าที่คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 48 ชั่วโมง ส่วนผู้เสียชีวิตหญิงคาดว่าได้ใช้มีดกรีดที่ข้อมือก่อนจะผูกคอตัวเองเสียชีวิตและได้เสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่สาเหตุการตายยังไม่ทราบแน่ชัด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญเพื่อนสนิทของทั้งสองผู้ตายรวมไปถึงญาติมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงโดยละเอียด

ในส่วนลูกชายพยานรักของผู้เสียชีวิตทั้งสองวัย 7 ขวบ พูดภาษาไทยไม่ค่อยจะได้นัก ทั้งยังอยู่ในอาการเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยู่ในความดูแลของเพื่อนบ้านและครูประจำชั้น และยังมีเจ้าหน้าที่จากกองสวัสดิการสังคมเทศบาลเมืองเบตงช่วยดูแลร่วมด้วย