ทำบุญครบรอบ 1 ปี รถบัสทัวร์กฐินชนรถไฟ คลองแขวงกลั่น เสียชีวิต 19 ศพ ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์ยังอยู่ เพราะจุดธูปไม่ติด ต้องรอจนถึงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ

ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 รายงาน ทำบุญครบรอบ 1 ปี รถบัสทัวร์กฐินชนรถไฟ คลองแขวงกลั่น เสียชีวิต 19 ศพ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่หมู่ 7 ตำบลบางเตย อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้นำชุมชนจากหลายหมู่ของตำบลบางเตยต่างมารวมตัวกันเพื่อจัดงานบุญท่ามกลางสายฝน

ทำบุญครบรอบ 1 ปี รถบัสทัวร์กฐินชนรถไฟ คลองแขวงกลั่น ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์ยังอยู่ เพราะจุดธูปไม่ติดจนถึงเวลาเกิดอุบัติเหตุ 08.37 น. จึงสามารถจุดธูปบอกกล่าวได้

สืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปี 63 รถบัสทัวร์กฐินชนรถไฟ วันนี้เวลาล่วงเลยมาครบ 1 ปีแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลบางเตย ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ผู้นำชุมชนได้มารวมกัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 หมู่ 9 หมู่ 11 ของตำบลบางเตยได้เดินทางมาร่วมกันจัดพิธีทำบุญครบรอบ 1 ปี หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้น

เมื่อย้อนกลับไป 1 ปีที่แล้ว ณ วันเกิดเหตุรถบัสของคณะทัวร์กฐินจากโรงงานที่ได้เดินทางมาจาก จังหวัดสมุทรปราการ ได้มาชนกับรถไฟขบวนส่งสินค้า ขบวนเลขที่ 852 หัวจักรที่ 5102 จนเกิดเหตุเศร้าสลดมีผู้เสียชีวิตหลายราย

เมื่อ 11 ต.ค. 64 เวลา 08.30 น. สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น จุดเกิดเหตุได้มีคนเสียชีวิตคาที่ 18 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ในโรงพยาบาล จึงรวมคนตายในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็น 19 ราย ทั้งนี้จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 40 ราย

เนื่องจากเวลาเวียนมาครบรอบ 1 ปี ชาวบ้านตำบลบางเตยจำนวนกว่า 100 คน ได้มาร่วมกันจัดพิธีทำบุญเพื่ออุทิศแก่ทัวร์กฐินที่มาเกิดเหตุเสียชีวิต โดยชาวบ้านได้มีการตั้งบูธและนำเอาอาหาร อาทิเช่น ข้าวหม้อแกง ขนมหวาน ก๋วยเตี๋ยว เพื่อมาวางทำบุญพร้อมทั้งได้มีการแจกจ่ายต่อคนที่มาร่วมงานได้ทาน

ในส่วนของพิธีทางสงฆ์ ชาวบ้านได้มีการทำบุญตักบาตร พร้อมกับการร่วมถวายผ้าป่าแก่พระสงฆ์ โดยได้มีการจัดตั้งกองผ้าป่า โดยแบ่งเป็นประธานจำนวน 1 กอง และกองผ้าป่ากำพร้าแล้วในไปวางไว้ที่จุดเกิดเหตุ และยังมีกองผ้าป่าสำหรับผู้เสียชีวิตอีก 1 กอง พร้อมกันนั้นยังมีการจัดกองผ้าป่าเสริมขึ้นมาอีก 1 กอง เพื่อที่ชาวบ้านจะได้นำมาถวายแก่พระสงฆ์ร่วมกัน ในส่วนของผ้าป่ากำพร้าชาวบ้านจัดขึ้นจากการเรี่ยไรเงินจากคนที่ได้เดินทางมาทำบุญภายในงาน และได้รวมเงินได้เป็นจำนวน 3.3 พันบาท  และกองผ้าป่าสามัคคีรวมเงินได้เป็นจำนวน 12.9 หมื่นบาท ยอดเงินผ้าป่าจึงรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15.9 หมื่นบาท

ชาวบ้านและผู้นำหมู่บ้านได้นำเงินที่รวมมาได้ไปถวายแด่พระสมุห์สมนึก ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบางปลานัก ซึ่งวัดดังกล่าวนี้เป็นวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางของคณะทัวร์ที่เกิดเหตุเสียชีวิต และก่อนมีการเริ่มพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่อถวายภัตตาหารให้กับพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ทั้งนี้ได้มีการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย บริเวณด้านหน้าแท่นโต๊ะหมู่บูชา ทั้งนี้ประธานในพิธีได้พยายามจุดธูปเทียนแต่ไม่สามารถจุดติดได้ ทั้งนี้ยังได้พยายามจุดอยู่นานหลายครั้งแต่จุดอย่างไรก้ไม่ติด

หลังจากที่ประธานในพิธีจุดธูปเทียนไม่ติดแม้จะพยายาม ซึ่งเวลาก่อนจุดธูปเทียนบรรยากาศนิ่งสงบ แต่พอจะจุดก็มีลมพัด และเมื่อหาอะไรเพื่อมากันกระแสลมแต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากไม่สามารถจุดธูปเทียนได้เลย พยายามอยู่นานจนถึงเวลา 08.37 น. ประธานในพิธีก็สามารถจุดธูปเทียนได้ ชาวบ้านคาดว่าเวลาดังกล่าวน่าจะเป็นเวลาจริงที่คณะทัวร์ได้เสียชีวิตลงจากการเกิดอุบัติเหตุรถบัสพุ่งชนรถไฟ

เวลา 08.38 น. เมื่อพิธีทำบุญเลี้ยงพระเริ่มขึ้นขณะนั้นก็มีฝนตกโปรยลงมาอย่างหนักและตกตลอดจนพิธีทั้งหมดเสร็จสิ้นลงในเวลา 10.00 น. ก้อนเมฆฝนก็ได้ลอยจางหายไปจากพื้นที่ที่มีการจัดพิธีทำบุญ

สำหรับการจัดงานที่เกิดขึ้นได้  โดยนางสาวอรุณลักขณ์ โพธิ์พุทธ นักพัฒนาการอำเภอ และ หัวหน้าพัฒนาชุมชน ประจำอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่สำนักงานรวมกว่า 5 คน ได้เดินทางเพื่อมาร่วมพิธีทำบุญในครั้งนี้ด้วยร่วมกับชาวบ้าน

นางสาวอรุณลักขณ์ ได้ออกมาเผยว่า ตนเดินทางมาร่วมพิธีทำบุญครบรอบในวันนี้ เพราะได้รับข่าวสารมาจากชาวบ้านว่าจะมีการจัดพิธีทำบุยครบรอบให้แก่คณะทัวร์ที่เดินทางมาทอดกฐินแต่เกิดอุบัติเหตุในจุดนี้เสียก่อน นอกจากจะมาร่วมทำบุญตนยังเดินทางเพื่อมาให้กำลังใจแก่ชาวบ้านและญาติผุ้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ตนก็ได้รู้สึกเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเมื่อได้มีโอกาสจึงเดินทางเพื่อมาร่วมพิธีทำบุยครบรอบ