ข่าวทั่วไทย เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงาน การเปิดใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.ธนาคารออมสิน ที่ได้ออกมาเล่านาทีสู้กับโจรร้ายปล้นธนาคาร ก่อนจะได้รับบาดเจ็บและโจรก็เสียชีวิต
จนท.ไม่ฟ้อง รปภ.ธนาคารออมสิน สาขาทียูโดม รังสิต วิ่งสู้โจรไม่คิดชีวิต สุดท้ายโจรแพ้ภัยตายอนาจ
สืบเนื่องมาจากโจรร้ายปล้นธนาคารเสียชีวิตภายหลัง รปภ.ธนาคารออมสิน ได้เข้าไปต่อสู้เพื่อเอาทรัพย์ของทางธนาคารคืน จนกลายเป็นข่าวดังเมือวันที่ 2 ธ.ค.64 เหตุเกิดที่ ถ.เชียงรากบางขัน คลอง 1 ปทุมธานี
ล่าสุด รอง ผกก.สภ.คลองหลวง พลตำรวจโท สุชัย แสงส่อง ได้ออกมาเผยเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ โดยได้ออกมากล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ได้รับแจ้งความกรณีที่เกิดขึ้นในทางคดีอาญา อย่างไนก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บหลักฐานและพยานพร้อมยังรอฟังการชี้แจ้งจากเจ้าหน้าที่สืบสวนคดี
ทางได้ รปภ.ธนาคารออมสิน นายขุนทอง ศรีไชยะ วัย 51 ปี ซึ่งได้มีการต่อสู้กับผู้ร้ายจนได้รับบาดเจ็บตอนนี้ก็มีอาการดีขึ้นมากแล้ว และ พลตำรวจตรี ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จังหวัดปทุมได้เดินทางเข้าเยี่ยมคนไข้ด้วยตัวเอง ณ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจได้สรุปคดีเป็นโจรปล้นทรัพย์ แต่ในคดีนี้คนร้ายได้เสียชีวิตขณะทำการปล้น ทางสำนวนคดีความแล้วจะไม่มีการสั่งฟ้อง เงินที่คนร้ายปล้นจากธนาคารมาเป็นจำนวน 143,000 บาท และตำรวจได้คืนให้กับธนาคารไปยังไม่ครบ เพราะยังขาดอีก 1 พันบาท ที่เป็นเงินที่คนร้ายได้พกติดกระป๋าไป จึงต้องรอหลังจากตรวจศพก่อนถึงนำเงินจำนวนนั้นส่งคืนธนาคารได้
พลตำรวจตรี ชุมพล ชาญชนะโยธิน ได้เดินทางร่วมกับตำรวจ สภ.คลองหลวง เพื่อเข้าเยี่ยม นายขุนทอง ที่เป็นคนสกัดคนร้ายไว้ได้และได้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนจะได้ออกมาเปิดเผยอีกว่า รปภ.ธนาคาร คนดังกล่าวนี้เป็นคนที่ตั้งใจทำงานและทำหน้าที่จนสุดความสามารถ จึงได้เดินมาเพื่อให้กำลังใจแก่นายขุนทอง และได้มีการมอบข้าวของเครื่องใช้และเงินสดในจำนวนหนึ่งแก่นายขุนทอง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ทางด้านของคดีความที่นายขุนทอง ใช้มีดปกกันตัวจากคนร้ายจนเสียชีวิตเพื่อรักษาทรัพย์ให้แก่ธนาคารออมสิน ตำรวจไม่ได้มีการแจ้งข้อหา แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงต้องทำคดีความไปจนกว่า รปภ.จะหายดีจากอาการบาดเจ็บ และถึงจะมาให้ข้อมูลเพิ่มในสำนวน จึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้ในลำดับต่อไป
ในส่วนของนายขุนทอง ได้ออกมาเปิดใจว่า เวลานั้นตนก็ได้รู้สึกเจ็บที่แผล ในทีแรกเข้าใจว่าเขาเป็นไรเดอร์มาส่งอาหาร เนื่องจากเข้าสวมหมวกกันน็อค ตนเข้าไปสกัดคนร้ายทำให้คนร้ายมาล็อคคอจนรู้สึกสะบัดตัวหนีคนร้าย และวิ่งบอกคนมาให้บริการอย่าออกมา ก่อนที่จะวิ่งกลับไปหาคนร้ายหยิบเก้าอี้ที่อยู่บริเวณใกล้รอจังหวะที่คนร้ายวิ่งจะออกไปฟาดเก้าอี้เต็มแรงไปที่คนร้ายคนนี้ ตอนนั้นในใจลึกๆคิดว่าจะยังไงก็ตามต้องหาทางหยุดโจรคนนี้ให้ได้
ภรรยา รปภ.ที่เดินทางมาเฝ้าไข้ น.ส.อำพร สีโคกกรวด วัย 49 ปี ได้ออกมากล่าวว่า ตนนี้พอโล่งอกขึ้นมาบ้าง เพราะสามีของตนมีอาการดีขึ้นและปลอดภัยแล้ว บอกตามตรงว่าตนรู้สึกภูมิใจในตัวสามีมากแต่ก็ห่วงมากเช่นกัน เพราะยังไม่หายดีและยังออกจากโรงพยาบาลยังไม่ได้ แฟนตนบอกกับตนอีกว่าจะยังทำงานนี้ต่อไม่ลาออก ตนดีใจที่ได้แฟนเป็นคนดีคนมีน้ำใจคิดช่วยเหลือคนอื่น
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์