Friday, 22 November 2024

เพื่อนบ้านหนุ่มคนสนิท ขโมยบัตร ATM ลุงพิการ แอบกดเงินใช้ 2 แสน

ข่าวทั่วไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี หนุ่มเพื่อบ้านคนสนิทของ ลุงพิการ ชาวอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ขโมย ATM แล้วหนี พ่อแม่สุดช้ำเพราะต้องมารับผิดชอบแทนลูกชาย

สล็อต xo Slotxo

พ่อแม่หนุ่มหัวขโมย ลั่นขายบ้านใช้หนี้ ลุงพิการ เตรียมตัวไปนอนริมถนนเป็นคนไร้บ้าน

พ่อแม่หนุ่มหัวขโมย ลั่นขายบ้านใช้หนี้ ลุงพิการ เตรียมตัวไปนอนริมถนนเป็นคนไร้บ้าน

ลุงพิการ วัย 63 หรือ นายเกษม บุญศรี ซึ่งได้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตทางร่างกายซีกขวาทั้งหมด และได้ถูกหนุ่มเพื่อนบ้านคนสนิทชื่อ นายฟาง ดวงแก้ว วัย 30 ปี ผู้ก่อเหตุได้ใช้ความไว้ใจของลุงแอบขโมยเอาบัตรเอทีเอ็มก่อนนำไปกดเงินออกจากบัตรมา 2 แสนบาทและหลบหนีไป เมื่อลุงเกษมรู้ตัวแล้วว่าถูกขโมย นายฟางเลยโอนคืนเข้าบัญชีมา 5 หมื่นบาท

เมื่อลุงเกษมพยายามหาทางติดต่อโทรหาก็ปรากฏว่า นายฟางได้ปิดเครื่องหนีไปได้ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุได้มีการซื้อทองจำนวน 1 บาท พร้อมกับได้มีการซื้อรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่อีกด้วย ขณะนี้คาดว่าคงขับรถเดินทางเพื่อไปพบแฟนสาวที่อยู่ในจังหวัดเชียงราย

จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนี้ เหตุเกิดจากความไว้ใจและซ้ำร้ายไปกว่านั้นเงินในบัตรเอทีเอ็มที่นายฟางแอบขโมยจากลุงเกษมไปนั้นเป็นเงินที่ลุงเกษมขายที่ดินมรดกที่นาเป็นจำนวนกว่า 10 ไร่ ได้เงินมา 1,600,000 บาท เงินจำนวนนี้ลุงเกษมหวังว่าจะใช้เป็นเงินรักษาเลี้ยงดูตัวเองในบั้นปลายชีวิต แต่ในเบื้องต้นเงินขายที่นาเพิ่งได้รับโอนมาเพียง 7 แสนบาท ทว่ายังไม่ทันจะได้ใช้มากนัก นายฟางก็แอบขโมยไปกดเงินใช้หน้าตาเฉย

ในส่วนของลุงเกษมพิการ หลังได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนายฟางจึงได้ขี่รถจักรยานสำหรับคนพิการไปที่บ้านพ่อแม่ของนายฟางเพื่อถามหานายฟางให้กลับมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย แต่ทางพ่อแม่นายฟางก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าลูกชายของตนนั้นหนีไปอยู่ที่ไหน

พ่อแม่ชายหนุ่ม ขายบ้านใช้หนี้แทนลูกชาย ลุงพิการ บุรีรัมย์ ทั่วไทย

พ่อผู้ก่อเหตุ นายบุญทรง วัย 61 ปี ได้ออกมาเผยว่า โดยปกติแล้วลูกชายของตนนั้นเขาเป็นคนดีนะ และจากที่สังเกตมาเขาเริ่มเปลี่ยนไปเสียคนตั้งแต่มารู้จักเล่นโทรศัพท์นี้แหละ แต่ก่อนเคยไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าก็เคยไปก่อเหตุขโมยมือถือมาจนต้องติดคุกไปแล้ว ตนไม่คิดมาก่อนเลยว่าลูกจะทำเรื่องคล้ายแบบเดิมอีก ตนรู้สึกไม่ดีที่ต้องถูกทวงถามในเวลาบ่อยครั้งจากนายเกษม ถามหาลูกชายของตนบ่อยเข้าๆ ตนเลยคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างรับผิดชอบแทนลูกโดยการขายบ้านใช้หนี้ แล้วตนกับภรรยาจะไปอยู่ตามถนนหรือที่หลวง

นางมาลี วัย 59 ปี แม่นายฟางได้ออกมาเล่าเช่นกันว่า ตนนั้นไม่เคยสั่งสอนให้ลูกชายเป็นคนแบบนี้เลย นายเกษมเป็นคนที่ลูกชายเคยไปอาศัยอยู่ด้วย ตอนนี้ตนไม่รู้จะพูดอะไรก็อยากให้ลูกชายกลับเอาเงินมาคืนและมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย ตนกับสามีรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ผิดหวังเสียใจกับพฤติกรรมลูกชาย