สลด!! ลูกหลุดไม่รู้ว่าท้อง สาววัย 25 ปี ก่อนพบลูกร่วงตัวช้ำเขียวไปแล้ว

ข่าวทั่วไทย หวิดเกิดเรื่องเศร้าแม่สาววัย 25 ปี ลูกหลุดไม่รู้ว่าท้อง ขณะที่ไปเข้าห้องน้ำ ข้อมูลเผยเคยมีลูกมาแล้วท้องนี้เป็นคนที่ 3 ท้องไม่โตและประจำเดือนยังมาตามปกติ ทารกตัวเขียวและหยุดหายใจ เลือดไหลไม่หยุดกู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วย สาววัย 25 ปี สภาพอิดโรยเสียเลือด! ลูกหลุดไม่รู้ว่าท้อง สุดท้ายทารกหยุดหายใจ ทีมงานเร่งช่วยจนกลับมาได้ ก่อนรีบส่งไปโรงพยาบาล

รายงานข่าวสุดระทึกเจ้ากน้าที่กูภัยเร่งเดินทางเข้าช่วยเหลือคุณแม่วัยสาว เหตุลูกหลุดไม่รู้ว่าท้อง ก่อนเผยสลดยอมรับว่าไม่รู้ตัวเองกำลังตั้งครรภ์จริงๆ ไม่มีอาการที่แสดงผิดปกติอะไร ตอนนั้นที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าหญิงสาวอยู่ภายในห้องน้ำพร้อมกองเลือดที่ยังไหล และทารกตัวเขียวช้ำ

เหตุการณ์ดังลกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเช้า วันที่ 29 มิถุนายน 2565 ทีมงานกู้ภัยของไตรคุณธรรมชลบุรี ได้รับแจ้งเรื่องว่ามีหญิงกำลังตกเลือดภายในห้องน้ำ และเด็กทารกที่หลุดออกมานั้นไม่มีการหายใจแล้ว ภายในบ้านหักหมายเลขที่ 36/19 ม. 2 ตำบลสำนักบก อำเภอเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยจากโรงพยาบาลชลบุรี เร่งรุดลงพื้นที่ตรวจสอบทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ได้พบเข้ากับหญิงสาว หรือ นางสาวพรปวีณ์ วัย 25 ปี ตอนนั้นเธอมีสภาพอิดโรยแสดงออกมาอย่างเห็นชัด เนื่องจากเสียเลือดไปเยอะและดูเหมือนเลือดยังคงไหลไม่หยุด ทารกน้อยที่หลุดออกนั้นเป็นเพศชาย โดยมีตัวเชียวช้ำไปแล้วและไม่หายใจตามที่รับแจ้งก่อนหน้า เจ้าหน้าที่กู้ชีพไม่รอช้ารีบเข้าไปปั๊บหัวใจเด็กทารกรายดังกล่าวจนสามารถทำให้เด็กกลับมาหายใจได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่เร่งนำตัวสองแม่ลูกไปส่งรักษาตัวในโรงพยาบาลชลบุรี หลังจากที่ทารฟื้นคืนชีวิต

นางสาวพรปวีณ์ ผู้ประสบเหตุเล่าว่า เธอไม่รู้ว่าตัวว่าตัวเองท้องจริงๆ เนื่องจาประจำเดือนก็ยังมาปกติอยู่เลย ทว่าในวันนี้เธอรู้สึกปวดท้องมากกว่าปกติ ก่อนจะมาเข้าห้องน้ำเพราะคิดว่าปวดท้องเสียหรือไม่ แต่สิ่งที่ออกมาเป็นเด็กทารกหลุดออกมา ความจริงแล้วเธอมีบุตรมา 2 คนแล้ว และคนนี้เป็นบุตรคนที่ 3 ก็แปลกใจว่าทำไมท้องไม่โตเช่นคนตั้งครรภ์

ทางด้านของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสาววัย 42 ปี นางสาวกุลลดา ทวีธรากุล ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ภายหลังจากรับเรื่องว่ามีหญิงสาวตกเลือด จนเป็นสาเหตุทำให้เด็กทารกหลุดออกมา ทำให้รีบเดินทางเข้ามาดูและเห็นว่าทารกตัวเชียวจึงปั๊มหัวใจกระทั่งเริ่มกลับมาหายใจได้เช่นเดิมพร้อมขยับตัวได้ จากนั้นก็ช่วยทารกและแม่ไปส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลทันที