สองโจรเพื่อนซี้ ออกปล้นทรัพย์ เผยโควิดทำให้ตกงาน เป็นหนี้นอกระบบ

ข่าวทั่วไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ แถลงจับกุม สองโจรเพื่อนซี้ หลังจากก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณฟุตปาธใกล้กับปากซอยนนทบุรี 37 บนถนน นนทบุรี

สองโจรเพื่อนซี้ เผยเคยเป็นบุรุษพยาบาล ตั้งแต่ตกงานต้อไปยืมเงินนอกระบบมาใช้ ก่อนตัดสินใจลักทรัพย์

สืบเนื่องมาจากหมายศาลของจังหวัดนนทบุรี ที่ 626/2564 วันที่ 11 ธันวาคม 2564 ออกหมายจับ สองโจรเพื่อนซี้ คือ 1.นายอธิวัชร์ วัย 26 ปี (ผู้ขับรถ) 2.นายธนดล วัย 22 ปี (ผู้ซ้อนท้าย) ทั้งสองวิ่งราวทรัพย์สินของคนที่เดินตามฟุตปาธแล้วขับรถหนี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมตัวไว้ได้แล้วพร้อมของกลางอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ เสื้อผ้าที่ใส่ในวัดก่อเหตุ 3 ชุด หมวกกันน็อค รถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟิลาโน่ คันสีดำแดง เลขทะเบียน 1 กธ 8716 พระนครศรีฯ และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง

ในวันที่ 3 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าพนักงาน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุจาก นายวฬาดล วัย 42 ปี ซึ่งได้บอกว่าได้ถูกคนร้ายวิ่งราวกระซากกระเป๋าเป้ ที่ทางเดินบนฟุตปาธ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กับ ซ.นนทบุรี 37 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

นอกจากนี้นายวฬาดล ได้กล่าวอีกว่าตนมีทรัพย์เป็นเงินสดภายในกระเป๋าจำนวนกว่า 3,500 บาท และมีเอกสารสำคัญต่างๆอีกด้วยแต่ถูกวางอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ คนร้ายเป็นผู้ชายสูงราวๆ 160 ซม. ใส่หมวกกันน็อคสีดำครึ่งใบพร้อมกับใส่เสื้อกาวน์สีขาวแขนสั้น ใส่กางเกงสแล็คสีดำ คนร้ายได้วิ่งมาดึงกระเป๋าเป้ของตนแล้วหลบหนีหายไปขึ้นรถ จยย.แกรนด์ ฟิลาโน่ คันสีดำ ซึ่งขณะนั้นได้จอดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ คนขับเป็นคนร่างอวบอ้วนใส่หมวกกันน็อคสีแดงครึ่งใบ ใส่เสื้อฮูดแขนยาว ใส่กางเกงสแล็คสีดำ หลังจากที่คนร้ายได้กระเป๋าไปตนก็วิ่งตามจนล้มลง และคนร้ายทั้งสองก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป

ในเบื้องต้นตำรวจได้ลงพื้นที่เพื่อไปตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด จากภาพเล่าว่า คนร้ายวิ่งราวกระเป๋าได้ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้าซอยนนทบุรี 37 คนร้ายยืนอยู่บริเวณนั้นได้สักพักใหญ่ก่อนที่จะทำเนียนเดินไปหยิบกระเป่าผู้เสียหายที่วางอยู่บริเวณใต้ต้นโพธิ์ เมื่อหยิบมาได้คนร้ายก็วิ่งย้อนศรเลยหน้าปากซอยนนทบุรีไป โดยด้านหลังคนร้ายมีนายวฬาดลวิ่งไล่ตาม

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งสองได้ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้มีการสอบปากคำในเบื้องต้นจนได้รู้ข้อมูลมาว่า คนร้ายทั้งสองเคยประกอบอาชีพเป็นบุรุษพยาบาลซึ่งทำหน้าที่ประจำอยู่ในรถกู้ชีพฉุกเฉินแต่ด้วยสถานการณ์โควิดก็ทำให้ทั้งสองต้องตกงาน เมื่อไม่มีงานก็ไม่มีเงินจึงทำให้ต้องไปยืมเงินนอกระบบมาใช้แก้ขัดไปก่อน

บริเวณที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ตนคุ้นเคยเป็นอย่างดีเนื่องจากผู้เป็นแม่ได้มีการมาขายของบริเวณนี้เป็นประจำ และการที่ตนยืนสังเกตการณ์นานเพราะยังช่างใจอยู่ว่าจะขโมยหรือไม่ดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งไปหยิบขโมยกระเป๋าเพราะตนอยากหาเงินมาใช้หนี เนื่องจากติดหนีนอกระบบอยู่ ในกระเป๋ามีเงินเป็นจำนวน 4,500 บาท ตนก็แบ่งกับเพื่อนคนละครึ่งก่อนแยกย้ายกันไป

อย่างไรดชก็ตามตนก็รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษเจ้าของกระเป๋า ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้นจริงๆมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่คิดหาทางออกไม่ได้ และกระเป๋าเป้ที่ตนขโมยมาตนหลังได้เงินแล้วตนก็ได้ส่งกระเป๋าและเอกสารสำคัญส่งไปคืนเจ้าของผ่านไปรษณีย์แล้ว