Friday, 22 November 2024

สาวแทงดับพี่ชาย เมาแล้วทำร้ายร่างกาย พ่อแม่ เผยปมแค้น 20 ปี

ข่าวทั่วไทย เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน เรื่องราวสุดระทึก ปัญหาในครอบครัว สาวแทงดับพี่ชาย ขณะเมาแล้วโวยวายเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง แม่ก็พยายามเดินหนีทุลักทุเล

สล็อต xo Slotxo

สาวแทงดับพี่ชาย ยืนรอตำรวจจับ เพราะต้องป้องกันตัว เผยปม 20 ปี พี่ชายชอบทำร้ายทุบตี พ่อแม่จนครอบครัวไม่มีความสุข

ข่าวทั่วไทย สาวแทงดับพี่ชาย บุรีรัมย์ ปมแค้น 20 ปี ประกันตัว

นางสาวศิญาณี วัย 46 ปี สาวแทงดับพี่ชาย ผู้ก่อเหตุใช้มีดแทง นายสิงห์ทอง วัย 54 ปี พี่ชายแท้ๆตายสลดท่วมเลือดบริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่งภายในตำบลไพศาล อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์  เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาพบค่ำของวันที่ 29 ธ.ค. 64

ล่าสุดวันนี้ที่ 30 ธันวาคม นางสาวศิญาณี ผู้ก่อเหตุ ได้ออกมาเล่าว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุแทงพี่ชาย ขณะนั้นตนกำลังอาหารอยู่ภายในครัวของบ้านหลังเกิดเหตุ โดยเวลาเดียวกันนี้พี่ชายที่ดื่มสุราจนเมามายก็เข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับมือที่ถือมีดอีโต้ ซึ่งเขาเดินมุ่งหน้ามาทำร้ายผู้เป็นพ่อที่นอนป่วยติดเตียง แม่ของตนที่เห็นดังนั้นก็พยายามเดินหนีพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดังเพื่อขอความช่วยเหลือและเดินหนีตายอย่างยากลำบาง

ผู้ก่อเหตุยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะที่ได้ยินเสียงที่แม่ตะโกนให้ช่วยตนก็คว้ามีดติดมือจากในครัวมาด้วย ตนได้วิ่งเข้าบ้านเพื่อไปขวางและห้ามผู้เป็นพี่ชาย แต่น้องชายที่เมามาด้วยกันก็จะเข้ามาทำร้ายตน จากนั้นก็เกิดชุลมุนกัน หลังจากนั้นไม่นานพี่ชายก็ล้มลง ภายหลังก็รู้ว่าขณะชุลมุนตนได้แทงเข้าไปที่บริเวณชายโครงจนไปทะลุถึงขั้วหัวใจพี่ชายดับ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนสามารถยืนยันจากใจเลยว่า ไม่ได้มีการตั้งใจที่จะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมานี้ตนรู้สึกคับแค้นภายในใจต่อพี่ชายคนนี้ เนื่องจากเขามักจะดื่มเหล้าจนเมาไม่ได้สติแล้วเข้ามาทำร้ายร่างกายพ่อและแม่อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ (เมาเหล้า)

ทางด้านของ นางมาลา วัย 73 ปี ผู้เป็นแม่ของสาวผู้ก่อเหตุและเป็นแม่ของชายผู้ตาย ได้ออกมาพูดว่า ลูกชายของตนมีนิสัยไม่ดี เขาเคยแต่งงานมีครอบครัวแต่ก็ต้องอ่าร้างเพราะพฤติกรรมแบบนี้ คือ เวลาที่ได้ดื่มเหล้าเมาก็มักจะทะเลาะวิวาทกับคนในครอบครัวแล้วก่อเหตุทำร้ายร่างกายอยู่เสมอตลอดเวลา 20 ปีมานี้ ครอบครัวของเราไม่เคยได้อยู่อย่างเป็นสุขสักครั้ง

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการอนุญาตให้ญาติผู้ก่อเหตุมาประกันตัวออกไปได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้แสดงพฤติกรรมที่จะมีเจตนาในการทำร้ายร่างกายผู้ตายและไม่มีทีท่าที่จะคิดหลบหนี และจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุและพยานที่เกิดเหตุในกรณีเป็นการก่อเหตุเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกทำร้ายมากกว่าจะจงใจฆ่า