จนท.ตำรวจยืนยัน หนุ่มวัย 34 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด นอนดิ้นดับคาห้องขัง ไม่มีใครทำร้าย

รายงานข่าวจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น หนุ่มวัย 34 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด นอนดิ้นดับคาห้องขังโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การยืนยันว่าไม่มีใครทำร้ายผู้ต้องหาที่เสียชีวติคนดังกล่าวพร้อมโชว์ภาพจากกล้องวงจรปิด

หนุ่มวัย 34 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด นอนดิ้นดับคาห้องขัง สภ.พระนครศรีอยุธยา หลังถูกจับกุมโทษฐานมียาบ้า 20 เม็ดไว้ในครอบครอง

กรณี หนุ่มวัย 34 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด นอนดิ้นดับคาห้องขัง พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก. สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้เล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าเมื่อช่วงเช้ามืดนายนพพรผู้ตาย ขี่จยย.ไปรถล้มใกล้กับบริเวณวัดทรงกุศล ต.เกราะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา  ได้รับการบาดเจ้บเล็กน้อยเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงจะนำส่งไปยังโรงพยาบาลนายนพพรไม่ยอมไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบค้นตัวนายนพพร พบว่า 20 เม็ดอยู่กับตัวนายนพพร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งว่าต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ถามนายนพพรว่า จะไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนไหม โดยนายนพพรก็ได้กล่าวปฏิเสธไปเพราะคิดว่าตนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพานายนพพรมาถึง สภ.พระนครศรีอยุธยา ก็นำตัวไปคุมขังตามปกติทั่วไปในคดีผู้ต้องหายาเสพติด ซึ่งจนท.ตำรวจได้คุมตัวนายนพพรอยู่ในห้องขังเดียวไม่มีใครเข้าขังร่วม ทั้งนี้ก่อนตายจากการตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดพบว่า นายนพพรได้ไปเข้าห้องน้ำมาครั้งหนึ่งก่อนกลับมานั่งที่เดิมในบริเวณห้องขัง แล้วไม่นานก็ได้นอนดิ้นอยู่บริเวณที่อยู่ใกล้กับลูกกรง สุดท้ายแน่นิ่งไป (เสียชีวิต)

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างไร้วิญญาณนายนพพรไปชันสูตรหาความจริงต่อพร้อมกันยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีใครเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหาคนนี้ได้ เพราะอยู่ในห้องขังแต่เพียงคนเดียว

ในส่วนของคุณแม่ของนายนพพรวัย 75 ปี ได้เล่าว่า ตั้งแต่ยังเด็กลูกชายเป็นเด็กดีและไม่มีทีท่าจะเดินทางมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อโตขึ้นมาก็เปลี่ยนไปคือติดเที่ยวและติดเพื่อนจนได้พากันมั่วสุมกับยาเสพติด ตนได้ตักเตือนลูกชายอยู่หลายรอบแต่ตัวนายนพพรไม่ฟัง แม่กล่าวว่าทุกวันที่นอนยังกังวลและคิดอยู่เสมอว่าลูกต้องถูกจับกุมเข้าสักวัน จนล่าสุดมีคนโทรมาแจ้งว่าลูกประสบอุบัติเหตุได้รับการบาดเจ็บ แต่ตนก็คิดว่าลูกคงไม่เป็นอะไรมาก คิดว่าถ้าทำธุระเสร็จจะออกไปเยี่ยมลูกในช่วงสายๆ ทีแรกคิดว่าลูกอยู่ที่โรงพยาบาล สุดท้ายได้รับแจ้งว่าลูกเสียชีวิตแล้ว ขณะอยู่ในห้องคุมขังผู้ต้องหา จนท.ตำรวจได้พาตนไปดูกล้องวงจรปิดแล้วเพื่อเป้นการยืนยันว่านายนพพรไม่ได้มีใครเข้าไปทำร้าย โดยให้ตนดูภาพตั้งแต่ลงจากรถหน่วยกู้ภัยที่เดินทางมาสภ.พระนครศรีอยุธยา จนได้เดินเข้าไปยังห้องขัง สุดท้ายเห็นลูกนอนดิ้นในห้องขัง จึงทำให้ครอบครัวไม่ติดใจถึงสาเหตุการตายที่เกิดขึ้น

โดยทางด้านจนท.ตำรวจ สภพระนครศรีอยุธยาก็ยังรอผลจากการชันสูตรเพื่อความจริงที่แน่ชัดต่อไป