เจ้าหน้าที่: อช.กุยบุรีรับแจ้ง ช้างป่าขาบวม เร่งตามหากลางป่าลึกเพื่อรักษา

เจ้าหน้าที่: อช.กุยบุรีรับแจ้ง วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 – เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความห่วงใยในโลกออนไลน์ข่าวทั่วไทย เมื่อเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งว่าพบ ช้างป่าบาดเจ็บ ตัวหนึ่ง มีอาการ ขาบวมอย่างเห็นได้ชัด และเดินผิดปกติ คาดว่าอาจเกิดจากการกระแทกหรือบาดแผลที่ลึกจนส่งผลให้ขาอักเสบ

ชีวิตต้องรอด! อช.กุยบุรีรับแจ้ง กลางอุทยานกุยบุรีเพื่อรักษาโดยด่วน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์ป่ากุยบุรีได้ เร่งประสานกำลังสัตวแพทย์ ทีมลาดตระเวน และอาสาสมัครรักษาสัตว์ป่า เพื่อเข้าตรวจสอบและติดตามหาตัวช้างป่าดังกล่าวโดยด่วน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ป่าลึกและยากต่อการเข้าถึง

ทีมสัตวแพทย์ระดมเครื่องมือเข้าป่า – หวั่นช้างบาดเจ็บไม่สามารถเดินหาอาหารได้

รายงานจากหน่วยงานทุกทิศทั่วไทยในพื้นที่เผยว่า ช้างป่าตัวนี้เป็นเพศผู้ อายุราว 20-25 ปี ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่มีอาการเดินช้ากว่าปกติและพยายามหลบมุมเข้าพงหนาทุกครั้งที่มีคนหรือเสียงใกล้เคียง สิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณว่าช้างอยู่ในภาวะ เครียดและเจ็บปวด

ทีมสัตวแพทย์อุทยานกุยบุรี จึงเตรียม ยารักษา บริการตรวจวินิจฉัยภาคสนาม และอาหารเสริมสำหรับฟื้นฟูร่างกาย พร้อมระบุว่า หากช้างอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถเดินได้ หรือขาบวมรุนแรง อาจจำเป็นต้องวางแผน “การยิงยาสลบชั่วคราว” เพื่อทำการรักษาแบบใกล้ชิด

โซเชียลแห่ให้กำลังใจ #ช่วยช้างกุยบุรี ขึ้นเทรนด์ในคืนเดียว

หลังข่าว ช้างขาบวมที่อุทยานกุยบุรี เผยแพร่ออกไป แฮชแท็กอย่าง #ช้างป่าบาดเจ็บ, #ช่วยช้างกุยบุรี, #อุทยานกุยบุรี ก็เริ่มได้รับความสนใจจากผู้ใช้งาน Twitter และ Facebook อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าและคนรักธรรมชาติที่ร่วมแชร์โพสต์ ขอให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตามหาช้างป่าเพื่อรักษาได้ทันก่อนอาการทรุด

หลายคนกล่าวว่า “ช้างเป็นสัตว์แห่งชาติของไทย ไม่ควรถูกทอดทิ้งเมื่อบาดเจ็บ” พร้อมทั้งเสนอแนวทางสนับสนุน เช่น จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือจัดทีมติดตามถาวรในพื้นที่ที่พบช้างป่าเดินผ่านบ่อยครั้ง

วิเคราะห์สถานการณ์: ปัญหาสัตว์ป่าบาดเจ็บในพื้นที่อนุรักษ์ยังเกิดซ้ำ

การพบ ช้างป่ากุยบุรีบาดเจ็บ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สัตว์ใหญ่ในเขตอนุรักษ์ได้รับบาดเจ็บจากเหตุไม่คาดคิด ไม่ว่าจะจากการหากินในพื้นที่ลาดชัน การเดินชนสิ่งกีดขวางในป่าหรือแม้แต่บาดแผลจากการต่อสู้กันเองระหว่างโขลง

เจ้าหน้าที่อุทยานทันเหตุการณ์ข่าวทั่วไทยเผยว่า ช่วงหน้าแล้งหรือฤดูเปลี่ยนผ่าน ช้างป่ามักเคลื่อนที่ออกนอกเส้นทางเดิมมากขึ้น และบางครั้งอาจได้รับอุบัติเหตุโดยไม่มีใครพบเห็นทันที จึงต้องอาศัยเครือข่ายการเฝ้าระวังจากทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมกัน

อุทยานย้ำ – ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสหากพบช้างบาดเจ็บ

อุทยานแห่งชาติกุยบุรีประกาศขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบ ช้างป่าแสดงอาการบาดเจ็บ ขาเดินผิดปกติ หรือพฤติกรรมแปลกไปจากปกติ ขอให้รีบแจ้งเบาะแสที่สายด่วนกรมอุทยานฯ หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภาคสนาม เพื่อให้สามารถติดตามตัวและดำเนินการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ย้ำว่า “ทุกวินาทีสำคัญต่อชีวิตของช้าง” เพราะหากปล่อยให้อาการบวมลุกลามจนติดเชื้อ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของสัตว์ป่าตัวนี้ได้

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่