สลด! เสียชีวิตทั้งครอบครัว แยกทำศพ พ่อและแม่ท้องลูก 8 เดือน เหยื่อรถหรูพุ่งชน

ผู้ข่าววันนี้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 กรณี พ่อและแม่ท้องลูก 8 เดือน เสียชีวิตทั้งครอบครัว เหยื่อรถหรูพุ่งชน รถเก๋งยี่ห้อวอลโว่สีดำ มหาสารคาม หมายเลขทะเบียน 5000 ได้เกิดอุบัติเหตุรถพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ อยู่บนถนนเลี่ยงเมืองตัดใหม่เส้นทาง สายกาฬสินธุ์–มุกดาหาร

สุดแสนเศร้า แยกทำพิธีศพ เหยื่อรถหรูพุ่งชน พ่อและแม่ท้องลูก 8 เดือน เสียชีวิตทั้งครอบครัว

จากการรายงาน เสียชีวิตทั้งครอบครัว ที่บริเวณบ้านเหล่าค้อ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความเศร้าสลดแกครอบครัวทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย และที่เศร้าไปกว่านั้นมีลูกน้อยในครรภ์วัย 8 เดือนก็ตายในอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วย จึงมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เหยื่อรถหรูพุ่งชน

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ บ้านของนายวิจิตร วัย 46 ปี ม.5 บ้านแกแปะ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิจิตรเป็นพ่อของนายพงษ์นเรศ วัย 25 ปี ผู้เสียชีวิต ได้มีบรรดาญาติพี่น้องได้เดินทางไปร่วมงานศพด้วยความเสียใจ ทั้งนี้ รพ.สต.เชียงเครือ และอสม. ได้ลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อให้การดูแลตั้งตรวจจุดตรวจเชื้อคัดกรองโควิด19 ก่อนเวลาต่อมาจะเคลื่อนย้ายศพไปฌาปนกิจที่วัดประจำหมู่บ้าน

ในส่วนของศพภรรยาและลูกในครรภ์ น.ส.ธิดารัตน์ วัย 19 ปี บรรดาเครือญาติได้นำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อที่บ้านเกิดที่อยู่ใน ตำบลนาจำปา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์

ทางด้านนายวิจิตร พ่อผู้เสียชีวิตชาย ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ว่า ลูกชายและลูกสะใภ้ที่ท้อง กำลังขี่รถจักรยานยนต์เข้ามายังหมู่บ้าน ซึ่งขณะนั้นขับขี่อยู่บนถนนเลี่ยงเมือง และบริเวณนั้นจะอยู่ใกล้กับทางแยกที่จะเข้ามายังบ้านแกแปะ ได้มีรถหรูพุ่งเข้าชนลูกๆและหลานที่ยังไม่เกิดเสียชีวิตคาที่เมื่อ 11 ก.ย. 64

หลังการเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต บรรดาญาติทั้งฝั่งนายพงษ์นเรศ และญาติน.ส.ธิดารัตน์ ได้มีการหารือและได้ตรงลงกัน เพื่อจะจัดพิธีงานศพของทั้ง 2โดยแยกกันนำไปตามภูมิลำเนาบ้านเกิดของแต่ละคนไป

นายวิจิตร ยังได้บอกด้วยว่ารถหรูคู่กรณี ได้มีการส่งตัวแทนเพื่อมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวและยังได้มีการมอบเงินเพื่อช่วยใช้ในการจัดงานศพ ส่วนเรื่องอื่นจะมีการพูดคุยกันในภายหลังการจัดงานศพเสร็จสิ้น คาดว่าการเจรจาที่จะเกิดขึ้นจะไม่มีปัญหาเพราะล่าสุดก็มีการพูดคุยกันด้วยดี

นายสมพร ภารสำราญ ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ม. 5 บ้านแกเปะ ได้กล่าวว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่ที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเพราะบนถนนเส้นนั้นเป็นทางเลี่ยงเมือง เป็นเส้นทางที่รถจะใช้วิ่งข้ามจังหวัดโดยตลอดทั้งวัน และรถจะมีการใช้ความเร็วมากกว่าเส้นทางทั่วไป และสำหรับการเกิดเหตุขึ้นในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่มีความรุนแรงที่สุดเท่าที่มีมาก ทั้งยังมีผู้สียชีวิตถึง 3 รายด้วยกัน เป็นที่โศกเศร้าของครอบครัวผู้เสียชีวิต ตนอยากฝากในผู้ใช้รถใช้ถนนทุกๆท่าน ระวังเรื่องการขับขี่รถบนถนนเส้นดังกล่าวไว้ด้วย โดยเฉพาะชาวบ้านในระมัดระวังเป็นอย่างมากในจุดยูเทิร์น และจุดกลับรถอื่นๆ ตนได้มีการปรึกษาคณะสงฆ์ เพื่อไปทำพิธีขอขมาเจ้าที่บนถนนสายเลี่ยงเมืองด้วย ให้ช่วยคุ้มครองผู้เดินทางบนถนนให้มีความปลอดภัย

ทางด้าน ร.ต.อ.ภาคภูมิ ภูสมนึก รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีที่เกิดเหตุ ได้เผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับบุคคลใดเลย เพราะยังอยู่ในกระบวนการรวบรวมหลักฐานและพยาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังรอการสอบปากคำ นายสุธี วัย 66 ปี ผู้เป็นเจ้าของรถเก๋งหรู เนื่องจากว่านายสุธี ก็ได้กำลังเข้ารักาตัวที่โรงพยาบาลเช่นเดียวกัน และเจ้าหน้าที่อาจจะนัดเพื่อให้ปากคำในวันที่ 13 ก.ย. 64 ทั้งบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตก็ยังอยู่ระหว่างในการจัดพิธีงานศพตามประเพณี ในส่วนผลจากการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น มีการตรวจพบร่องรอยของการเฉี่ยวชนที่เลนทางด้านขวา และสภาพของรถของคู่กรณีทั้ง 2 ก็พังยับทั้งคู่ เจ้าหน้าที่จะมีการสอบถามพยานแวดล้อมและดำเนินคดีให้ความเป็นทำในระยะต่อไป