แท็กซี่ใจดี พูดปลอบใจผู้โดยสารติดโควิดตลอดทาง แม้จะรู้ว่าตนมีความเสี่ยงมากเช่นกัน

มีเรื่องราวข่าล่าสุดอันหน้าประทับใจจากโลกทวิตเตอร์ โดย @kumakephed แชร์เรื่องราว แท็กซี่ใจดี ไปส่งตนที่ป่วยเป็นโควิดแม้จะรู้ว่าเสี่ยงติดเชื้อไปด้วย ทั้งย้งได้กล่าวปลอบใจด้วยความอบอุ่น บอกเป็นได้ก็หายได้

ผู้โดยสารซึ้งใจ แท็กซี่ใจดี นำส่งโรงพยาบาลด้วยความเต็มใจไม่มีทีท่ารังเกียจ แม้จะเป็นคนแปลกหน้าแต่ปลอบใจได้ดีที่สุด ประกาศผ่าน จส. 100 เพื่อขอบคุณ 

ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนดังกล่าวซาบซึ้งใจเป็นการใหญ่แชร์เรื่องราว แท็กซี่ใจดี ผ่านทวิตขอบคุณพร้อมแท็กหา @JS100radio เพื่อขอบคุณลุงคนขับแท็กซี่ที่มาส่งตนที่โรงพยาบาลแม้จะรู้ว่าตนติดเชื้อโควิด โดยได้ระบุข้อความในรูปภาพที่ถ่ายรูปลุงคนขับแท็กซี่จากป้ายหน้านั่งข้างคนขับ

“ไม่รู้น้าจะได้เห็นมั้ย แต่น้า made my day หนูสุดๆ ผลหนูออกมาแล้วนะ ไม่พบเชื้อ น้าสบายใจได้เลยนะ เดี้ยวอีก 5 วัน หนูไปตรวจซ้ำ ขอให้น้าเจอแต่ลูกค้าดีๆ เงินทองไหลมาเทมาปราศจากโรคภัยนะคะ ไม่รู้จะต้องแท็กอันไหน ขออนุญาตแท็กผ่าน จส.100แล้วกันนะคะ @JS100radio”

“ขอบคุณน้าคนขับแท็กซี่คนนี้มากๆเลย ในวันท่ชี่แบบสติแตก แตกแบบมากๆ รนมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก น้าเป็นแท็ซี่คันเดียวที่กล้ารับหนูขึ้นรถ เพราะด้วยความที่หนูเสี่ยงติดโควิด แต่น้าก็ยังรับไปส่งโรงพยาบาล เรานั่งหน้าเครียดมากๆๆ น้ำตาซึมๆๆ น้าแกบอกว่าแกเป็นมาทั้งครอบครัวเลย เป็นได้ก็หายได้นะหนู น้ายังหายมาแล้วเลย หนูเครียดรึป่าวเนี้ย ไม่ต้องเครียดนะ สุดท้ายมันก็โรคๆนึงที่ต้องกืนยารักษาแล้วก็หายได้ แบบโคตรมีกำลังใจ โคตรใจฟูอะ แบบทั้งใจดี ทั้งอบอุ่น น้าคงไม่ได้เห็นข้อความนี้หรอกแต่วินาทีนั้นที่นั่งร้องไห้บนแท็กซี่น้าคือกำลังที่ดที่สุดของหนูเลย ไม่รู้จะบังเอิญเจอกันอีกมั้ย ขอให้น้าปลอดภัยและมีผู้โดยสารทำมาหากินได้กลับมาร้อยเท่าพันเท่า จากน้ำใจที่น้ามีให้คนรอบตัวนะคะ”

ล่าสุด@JS100radio ได้พูดคุยกับเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์คือ คุณแพรได้เล่าให้ฟังว่า ตนมีความเครียดเป็นอย่างมาก เพราะเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานติดเชื้อโควิด ตนจึงเลยตรวจหาเชื้อโดย ATK ผลที่ออกมานั้นเป็น 2 ขีดสีแดง ซึ่งแปลว่าตนมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด ตนจึงเก็บของเพื่อเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ตนจึงได้เรียกแท็กซี่ที่มาจากแถวจอมทอง เพื่อใช้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเพชรเวช ตนได้มีความกังวลกลัวคนอื่นจะติดเชื้อด้วยจึงได้ใส่หน้ากากอยู่หลายชั้น และตนก็ได้ฉีดแอลกอฮอล์ทุกบริเวณที่ตนได้สัมผัส และแท็กซี่ที่ผ่านไปมาตนก็บอกเขาตรงๆว่าตนติดโควิดรถแท็กซี่หลายคันจึงไม่รับไปส่งที่โรงพยาบาล รถแท็กซี่คันที่ 4 ผ่านมาจึงได้รับตนขึ้นรถไปส่งแต่ก็ขอเปิดหน้าต่างรถไปตลอดทั้งทาง แม้ว่าตนจะบอกว่าอาจติดเชื้อโควิด แต่ตนกับได้รับคำปลอบใจที่ดี และภายหลังได้มีการเข้าตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ในโรงพยาบาลเพชรเวช สุดท้ายได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่ได้รับการติดเชื้อ ทั้งนี้มีการสันนิษฐานว่าสำหรับเหตุการก่อนหน้านี้เป็นเพราะตนเพิ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า มาเมื่อวันศุกร์ที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามหลังจาก 14 วันนี้ไปก็ต้องไปตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ตอนนี้ตนแค่อยากขอบคุณน้าคนขับแท็กซี่คนดังกล่าว และบอกเขาว่าตนไม่ได้ติดเชื้อโควิดเพื่อให้น้าคนขับได้สบายใจ

คนขับแท็กซี่คนดังกล่าวคือ นายวงดาว หอมรื่น ขับรถคนสีเขียวเหลือง เลขทะเบียน 1มก-1947 กทม. เจ้าหน้าที่ จส.100 ได้มีการประสานงานตามข้อมูลไปยังนายวงดาวและได้พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกันเรียบร้อยแล้ว

ทางด้านนายวงดาว ที่ได้ทราบเรื่องก็ได้เล่าว่า ขณะนั้นที่ตนกำลังไปส่งผู้โดยสารที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอาจจะติดเชื้อโควิด ตนสังเกตเห็นแววตาที่แสดงถึงความกังวลและความเครียดเป็นอย่างมาก ตนจึงได้ชวนผู้โดยสารพูดคุยทั้งยังแชร์ประสบการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับคริบครัวของตนว่า ในครอบครัวของตนที่ทั้งหมด 5 คน และทุกคนก็ติดเชื้อโควิด แต่เมื่อเป็นแล้วก็เข้าไปรับการรักษาและสุดท้ายก็ได้หายดีจากโรคโควิด ตนจึงได้บอกว่าถ้าครอบครัวตนหายได้ ถ้าผู้โดยสารเป็นหรือติดเชื้อขึ้นมาจริงๆก็สามารถหายจากโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน ตนได้บอกว่าจริงๆแท้อาการที่เป็นของการติดเช้อมันคืออาการของไข้หวัด ไม่มีสิ่งไหนที่ต้องเป็นที่น่ารังเกียจเลย ก่อนที่ผู้โดยสารจะลงจากรถหน้าโรงพยาบาลตนก็ได้อวยพรไปว่าขอให้ผลที่ออกมาเป็นลบ

คุณแพรผู้โดยสารในวันนั้นจึงได้เล่าอีกว่า ตนรู้สึกคิดไม่ตก คิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา ทั้งยังรู้สึกถึงความเคว้งคว้าง เพราะถ้าตนติดเชื้อขึ้นมาจริงๆแล้วตนจะทำยังไง แต่เวลาที่แย่ที่สุดตนมีน้าคนขับแท็กซี่พูดปลอบใจได้เป็นอย่างดีทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเป็นคนแปลกหน้า เมื่อตนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ยต้องน้ำตาซึมทุกครั้งไป และต้องขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำใจดีๆจากคุณวงดาว