แม่ลูกอ่อนชาวขอนแก่น หอบลูก 5 เดือนหนีน้ำท่วม 3 เมตร ขึ้นไปอาศัยเมรุวัดรวมกับเพื่อนบ้าน

ข่าววันนี้เมื่อ 30 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี แม่ลูกอ่อนชาวขอนแก่น หอบลูก 5 เดือนหนีน้ำท่วม 3 เมตร ขึ้นไปอาศัยเมรุที่เอาไว้ใช้เผาศพ เนื่องจากบ้านชั้นเดียวที่อยู่อาศัยเกิดน้ำท่วมจมมิด พร้อมทั้งเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง และลำบากไปกว่านั้น เมื่อน้ำไฟโดนตัดใช้งานไม่ได้

ด่วน! แม่ลูกอ่อนชาวขอนแก่น หอบลูก 5 เดือนหนีน้ำท่วม 3 เมตร ขึ้นไปอาศัยเมรุ หลังบ้านชั้นเดียวจมท่วมมิดหายไปกับน้ำ

แม่ลูกอ่อนชาวขอนแก่น หอบลูก 5 เดือนหนีน้ำท่วม 3 เมตร เข้าไปวัดอาศัยเมรุเผาศพเป็นที่พัก สถานการณ์ดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นที่ ตำบลโนนทอง อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมกันนี้เพื่อนบ้านรายอื่นก็ได้มีการอพยพมาอาศัยอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้านในบริเวณเมรุเผาศพด้วยเช่นกัน

นอกจากเกิดเหตุน้ำท่วมสูงแล้วหมู่บ้านดังกล่าวก็ได้ถูกตัดน้ำตัดไฟ เมื่อชาวบ้านที่อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณเมรุเผาศพเพราะความจำเป็น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนี้เป็นพื้นที่ที่อยู่สูงที่สุดของหมู่บ้าน ทั้งนี้ได้มีการช่วยกันขนย้ายรถยนต์และรถไถนา เพื่อนำมาปั่นไฟไว้ใช้สอย และชาวบ้านก็ได้ตั้งหลักรวมตัวกันเพื่อรอรับความช่วยเหลือ

นางหนูรัตน์ หนานทองลาง วัย 47 ปี มารดาของหญิงแม่ลูกอ่อนและหลานชายตัวน้อย วัย 5 เดือน ได้ออกมาเผยต่อเจ้าหน้าที่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วย นางหนูรัตน์ได้กล่าวว่า บ้านชั้นเดียวของตนได้ถูกน้ำท่วมล้อมรอบไปโดยทั่วบริเวณ น้ำได้ไหลเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 กันยายน 2564 ตอนแรกไม่คิดว่าน้ำจะคงไม่ท่วมขนาดนี้ สุดท้ายทั้งหมู่บ้านถูกตัดน้ำตัดไฟ

ที่ต้องการอพยพออกจากบ้านซึ่งถูกน้ำล้อมโดยมีลูกสาวและหลานชายวัยเพียงแค่ 5 เดือนโดยนางหนูรัตน์เผยว่าน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านตั้งแต่เย็นวันที่ ก.ย. ทีแรกก็ไม่คิดว่าจะเอ่อท่วมทั้งหมู่บ้านจนถูกตัดไฟไม่มีน้ำใช้เย็นวันที่ 28 ก.ย. ที่แรกก็ไม่คิดว่าจะเอ่อท่วมทั้งหมู่บ้าน จนถูกตัดไฟไม่มีน้ำใช้ นางหนูรัตน์ได้กล่าวต่อว่า

“ตนจึงต้องการอพยพไปอยู่บ้านปู่ย่าที่บ้านดอนหัน ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จนกว่าจะปลอดภัย ส่วนบ้านจะให้สามีเฝ้าดูแลทรัพย์สินไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เอาเรือไปรับออกมาแล้ว”

ทางด้านของนายทวีศักดิ์ มูลสุวรรณ กำนันประจำตำบลโนนทอง ได้ออกมากล่าวว่า น้ำที่ไหลเข้ามาท่วมหมู่บ้านของตนนั้น เป็นกระแสน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ บวกกับแม่น้ำชีที่มีในลำห้วยอยู่แล้ว จึงทำให้น้ำล้นตลิ่ง ตอนนี้น้ำท่วมไปแล้ว 54 หลังคาเรือน จากเหตุนี้จึงมีการงดจ่ายกระแสไฟมาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 ชาวบ้านในหมู่บ้านต้องใช้เรือเพื่อเป็นยานพาหนะใช้สัญจร ทั้งนี้ ในหมู่บ้านก็ได้มีการจัดเวรยามเพื่อดูแลความปลอดภัย และช่วยอำนวยความสะดวกในแก่ชาวบ้านด้วยกันเอง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทยอยเข้ามาช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นชาวบ้านได้รับแจกอาหารและได้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมสูงแล้ว ทั้งนี้ก็ได้มีการเร่งนำเรือเพื่อมาอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาวบ้าน เพื่อให้ไว้ใช้เพื่อกลับไปบ้านดูสอดส่องทรัพย์ที่บ้านยกไว้ขึ้นที่สูง ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ได้มีกรอพยพออกจากหมู่บ้าน เพื่อไปอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ ที่นั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นเข้ามาดูแล จึงจะมีแค่เวรยามจากฝ่ายปกครองที่ตระเวนในหมู่บ้านเพื่อดูแลทรัพย์ที่ยังเหลือคาอยู่