ตำนานรับจ้าง แล่หัวไชโป้ว ยายชาวเจ็ดเสมียน วัย 84 ปี ทำอาชีพนี้ติดต่อกันยาวนาน 70 ปี

ข่าวทั่วไทย เรื่องราวอันน่าชื่นชมยายซื่อสัตย์ต่ออาชีพ แล่หัวไชโป้ว รับจ้างเป็นระยะเวลานานกว่าเกินครึ่งชีวิต สำหรับคุณยายชาวตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี นับว่าเป็นคนเดียวที่ยังประกอบอาชีพนี้อยู่

เพื่อนเลิกกันไปหมดแล้ว แต่ยายเดินหน้าต่อรับจ้าง แล่หัวไชโป้ว เหลือเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน

นางสมพร แท่นอ่อน วัย 84 ปี ผู้ซึ่งเป็นคนเดียวที่ยังคงรับจ้างทำ แล่หัวไชโป้ว แม้ว่าลูกหลานจะมาขอร้องเพื่อให้คุณยายเลิกทำอาชีพนี้ก็ไม่ยอม ต่างจากเพื่อนบ้านที่อยู่ในวัยเดียวกันที่ตอนนี้ได้เลิกทำอาชีพนี้ไปนานแล้วแลอยู่พักผ่อนเล่านกับลูกหลานตามประสาคนแก่ผู้สูงอายุ

คุณยายสมพร ได้เล่าว่า ตนนั้นยังร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ตนนั้นได้ประกอบอาชีพรับจ้างหั่นแล่หัวไชโป้วมาตั้งแต่อายุได้ 14 ปี จนตอนนี้อายุ 84 ปีแล้ว คุณยายยังได้เล่าต่อไปว่าสมัยยังสาวๆตนสามารถหั่นได้วันละเป็นร้อยๆโล แต่เมื่อแก่ตัวลงแบบนี้ก็สามารถหั่นได้น้อยลงมากได้เพียงประมาณวันละ 50-70 กิโลกรัม ส่วนค่าจ้างนั้นจะขึ้นอยู่กับที่หั่นได้ไม่แน่นอนแต่ที่แน่นอนนั้นได้เงินกิโลกรัมละ 3 บาท หรือเป็นเงินต่อวัน 150-200 บาท/วัน สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 ได้ทำอยู่ที่บ้านมีรายได้เสริมไปอีกแบบ อยู่ที่บ้านก้ปลอดภัยอีกด้วย

ทั้งนี้ คุณยายเป็นเพียงคนเดียวและคนสุดท้ายในหมู่บ้านที่ยังทำอาชีพหั่นหัวไชโป้ว และเพราะเหตุนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งนายก อบต.และเจ้าหน้าที่ในชุมชนต่างให้ความสนใจในตัวของคุณยายเป็นอย่างมาก ถึงต้องเดินทางมาเยี่ยมหาถึงที่บ้านที่คุณยายอาศัยอยู่

ขณะที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อไปหาคุณยาย เมื่อเดินทางไปถึงที่บ้านก็ได้พบเข้ากับคุณยายที่ซึ่งตอนนี้กำลังทำงานหั่นแล่หัวไชโป้วอย่างแข็งขัน จากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบมาว่า จะมีคนนำหัวไชโป้วที่หมักดองแล้วแต่ยังเป็นหัวๆอยู่นำเอามาให้คุณยายถึงที่บ้าน เพื่อให้คุณยายหั่นและในหลายรูปแบบ และถึงจะมารับเอาไปจัดใส่ถุงเพื่อบรรจุติดโลโก้ของแบรนด์บริษัทวางจำหน่ายอีกครั้งหนึ่งและจะขายเป็นโปร 3 ห่อ 100 บาท

คุณยายบอกว่าตนยึดอาชีพนี้ทำมานานแม้ในสถานวิกฤตอยู่แบบนี้ตนก็ภูมิใจที่ยังหารายได้เพื่อเลี้ยงชีพของตนเองได้ ไม่เดือดร้อนใคร อยู่แบบพอเพียงเท่าที่มี แถมยังปลอดภัยห่างไกลจากเชื้อโรคอีกด้วย ตอนที่ตนนั้นอายุได้เพียง 14 ปี ตนก็ทำอาชีพนี้ตอนนั้นได้รับค่าแรงคิดเป็นกิโลกรัมละ 50 สต. แต่ปัจจุบันนี้ค่าแรงเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 3 บาท ตอนนี้แก่สามารถหั่นได้ 50 กก./วัน จริงๆแล้วก็มีคนทำอาชีพนี้อยู่เพียงแต่ว่าตนนั้นเป็นคนที่มีอายุเยอะและอาวุโสที่สุดในวงการนี้เท่านั้น

ทางด้านรองนายก อบต.เจ็ดเสมียน นางจิดาภา กาญจน์อร่ามกุล ได้เล่าว่าสมัยก่อนชาวบ้านก็ประกอบอาชีพนี้อยู่เป็นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานตั้งแต่สมัยมีเจ้าแม่ขายหัวไชโป้วเพียง 8 คน แต่ตอนนี้ร้านใหญ่มีตั้ง 12 แม่แล้วในปัจจุบัน สมัยก่อนอาจจะนิยมให้จ้างคนหั่นต่างรูปแบบต่างๆที่ต้องการแต่ต่างจากปัจจุบันนี้ เนื่องจากจะไม่นิยมใช้คนเหมือนก่อนเพราะมีเครื่องจักรเข้ามาสามารถทำงานแทนได้ ได้ทั้งงานและความสะดวกรวดเร็ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องจักก็สู้การหั่นด้วยมือไม่ได้ เนื่องจากการหั่นด้วยมือนั้นจะมีความสวยงามกว่า ไชโป้วจะมีหลายแบบเช่น ไชโป้วเค็ม ไชโป้วหวาน ส่วนในทางการหั่นก็จะมีหลายรูปแบบคือ หั่นไชโป้วให้เป็นฝอย แผ่นเต๋า หั่นเป็นแว่นๆ หรืออาจจะหั่นเป็นชิ้นตามความต้องการของเจ้าของที่มาจ้าง

ในส่วนของท่านนายกของ อบต.เจ็ดเสมียน นายเทวัญ ห่วงตระกูล ได้ออกมาเล่างบ้างว่า หัวไชโป้วดองนั้นนับว่าของดีคู่ตำบลเจ็ดเสมียนและรสชาติอร่อยไม่มีใครเทียบ เนื่องจากที่นี้จะมีการใช้วิธีการหมักดองที่ไม่เหมือนใคร และอาหารนี้ได้ผ่านการดองอย่างคุณภาพสามารถที่จะเก็บไว้กินในระยะที่ยาวนานได้ และทางเทศบาลตำบลเจ็ดเสมียนเราก็ให้การสนับสนุนในการประกอบอาชีพนี้ด้วย ไม่ว่าจะมีการช่วยหาลูกค้าแห่งจำหน่ายหรือแม้แต่สนับสนุนให้มีการผลิตจัดงานเทศกาลประจำปี ลูกค้าต่างประเทศต้องมีการสั่งจองสินค้าล่งหน่ช้าเป็นระยะเวลา 1 ปี

การหักดองให้เข้าเนื้อกลมกล่อมจะต้องใช้เวลา เพราะเหตุนี้ลูกค้าจึงต้องมีการสั่งจองสินค้าล่วงหน้าเป็นเวลานาน และมากไปกว่านั้นหัวไชโป้วดองสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู นับตั้งแต่อาหารเบสิค ไข่เจียวหัวไชโป้วดอง เมนูต้มต่างๆ หรือเมนูผัดก็ได้ และทางมใครเดินทางมาท่องเที่ยวก็สามารถซื้อนำกลับบ้านไปเป้นของฝากเพื่อนๆหรือญาติผู้ใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน