คนไทยควรมี “ยา” ต้านพิษรังสี Prussian blue มาเป็นยาที่จำเป็นของทุกๆบ้านแล้วหรือยัง

ไทยควรมียาต้านพิษรังสี “ปรัสเซียนบลู” เป็นยาสามัญประจำบ้านแล้วหรือไม่หลังซีเซียม 137 หายไป จนทำให้ประชาชนคนไทยนั้นหวาดกลัวว่าจะมีอันตราย ข่าวทั่วไทย พร้อมกับตั้งคำถามมากมายขึ้นมาถามกับทางการว่ามีมาตรการอะไรมารับมือหากเกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นมาอีกครั้ง

ไทยควรมียาต้านพิษรังสี ให้เป็นยาสามัญประจำบ้านแล้วหรือไม่ หลังซีเซียม 137 หายไป

สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์วัตถุ Radioactive cesium-137 สูญหายจากโรงไฟฟ้าไอน้ำใน จังหวัดปราจีนบุรี และมีโอกาสสูงมากที่จะถูกหลอมและส่งผลให้มี “ฝุ่นเหล็กปนเปื้อน Radioactive” ลอยออกมาทำให้ผู้คนนั้นได้รับผลกระทบ แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ผู้คนนั้นตั้งคำถามมากว่าทางการจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไรถ้ามันนเกิดขึ้นอีกครั้ง และยาป้องกันพิษรังสี “ปรัสเซียนบลู” Prussian blue ก็ถูกนำมาพูดถึงเหมือนกัน เพราะว่ายังไม่มีขายอยู่ในประเทศไทย

และเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital, Mahidol University นั้นได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวให้ผู้คนนั้นเข้าใจว่า สถานการณ์ในตอนนี้บ้านเรานั้นยังไม่จำเป็นจะต้องมี Prussian blue มาใช้งานเนื่องจากว่า cesium-137 มีปริมาณรังสีที่น้อยมากเมื่อเทียบกับ Chernobyl และน้อยกว่าเหตุการณ์ที่เกิดที่ Fukushima-ken ที่ญี่ปุ่น 11 ล้านเท่า

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤศณัฏฐ์ อธิบายการหลอมเหล็ก Radioactive cesium-137 ใน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี นั้นไม่ได้ทำด้วยระบบเปิด ไม่ได้แตกต่างกันกับการเก็บรักษาฝุ่นเหล็กประมาณยี่สิบสี่ตัน ที่อาจปนเปื้อน Radioactive ค่อนข้างปิดแบบสนิททำให้ “โอกาสที่ฝุ่น (ลอยละล่อง) จะหลุดรอด รั่วไหลออกมาสู่สิ่งแวดล้อม ค่อนข้างน้อย”

รองศาสตราจารย์ พญ. สาทริยา ตระกูลศรี อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า Prussian blue เป็นยาทานที่มีเอาไว้ให้ผู้คนที่ได้รับ Radioactive cesium-137 เข้าไปในร่างกายโดยตรงเท่านั้น อีกทั้งการใช้ยาตัวดังกล่าวนั้นยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารใหม่สดทุกวันที่ได้ที่นี่