“ดราม่าไฮโซเก๊: ไฮโซหมูกรอบ โบ้ยโรคเลือด บังหน้าลูกเมีย!

“ดราม่าไฮโซเก๊: ไฮโซหมูกรอบ ฮอต! ไฮโซเก๊ หรือไฮโซหมูกรอบเรียกได้เลยว่าหลายเป็นกระแสทันเหตุการณ์ข่าวทั่วไทยที่น่าสนใจไม่น้อย ซุกเมียลูกหนึ่ง แต่ปฏิเสธความจริงด้วยข้ออ้าง “ผมมีลูกไม่ได้ เพราะเป็นลูคีเมียและธาลัสซีเมีย”เมียทวงความจริง ไฮโซปากหวาน ซุกลูกไว้หลังโรค!

รักลับๆ ไฮโซหมูกรอบ เมียมี ลูกมา แต่ใจไม่มี

ในโลกยุคโซเชียลที่ใคร ๆ ก็สร้างภาพได้ ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่มีฉายาว่า “ฮอต ไฮโซหมูกรอบ” ได้กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้หญิงออกมาเปิดโปงว่า เธอคือ “เมียที่ถูกซุกไว้เงียบ ๆ” พร้อมกับลูกน้อยหนึ่งคนที่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากพ่อของเขา — ผู้ชายที่เธอบอกว่า “ทำตัวเหมือนอยู่บนหอคอยงาช้าง แต่จริง ๆ กินข้าวแกงข้างถนน”

เปิดหน้ากากไฮโซหมูกรอบ ซุกเมียลูกหนึ่ง อ้างป่วยจนมีลูกไม่ได้

เรื่องราวข่าวทั่วไทยพลิกผันเมื่อฝ่ายหญิงเริ่มเหนื่อยล้าในการถูกปฏิเสธ เธอออกมาเปิดหน้าโพสต์ภาพครอบครัวที่ถ่ายร่วมกันเมื่อ 3 ปีก่อน พร้อมแชทลับที่มีการพูดถึงการตั้งครรภ์และชีวิตคู่ในอดีต ซึ่งในนั้น “ฮอต” เคยพูดจาหวานซึ้ง ราวกับพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่อเด็กน้อยลืมตาดูโลก

“ผมมีลูกไม่ได้ เพราะผมเป็นลูคีเมียและธาลัสซีเมีย”

นี่คือคำพูดจากชายผู้พยายามสลัดทุกความรับผิดชอบ และนี่คือเหตุผลที่เขาใช้กับทุกคนรอบข้างเมื่อมีใครถามถึงข่าวลือเรื่องลูก คำพูดนี้ฟังดูเหมือนจริง มีน้ำหนัก แต่เมื่อชาวเน็ตเริ่มสืบลึกลงไป กลับพบว่าพฤติกรรมของเขาไม่ได้สอดคล้องกับคนป่วยระยะเรื้อรังอย่างที่อ้าง ทั้งยังมีภาพไปเที่ยวต่างประเทศ เล่นเจ็ตสกี ดินเนอร์สุดหรู และปาร์ตี้ไม่หยุดหย่อน

ซ่อนตัวภายใต้แบรนด์หรู และภาพลักษณ์ไฮโซ

“ฮอต” ไม่ใช่บุคคลที่มีนามสกุลดัง หรือเกี่ยวพันกับตระกูลผู้ดีจริง ๆ แต่เขาสร้างตัวตนผ่านการแต่งตัว การใช้ชีวิตหรูหราแบบที่เห็นได้ในไอจี ใส่นาฬิกาเรือนละล้าน ขับรถยุโรป เปลี่ยนสาวข้างกายทุกเดือน และแฮชแท็กคำว่า #luxurylife ในทุกโพสต์ แต่เมื่อมีใครซักไซ้ว่าเขาทำธุรกิจอะไร กลับไม่มีคำตอบที่แน่ชัด

ความเจ็บปวดของผู้หญิงที่ถูกทำให้เป็นแค่ “ความลับ”

เธอเล่าว่า ทั้งชีวิตเธอเคยเชื่อว่าเขาคือคนที่รักจริง เคยบอกว่าจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่หลังคลอดลูก เธอกลับถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวโดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ทุกครั้งที่เธอขอความช่วยเหลือ เขามักหายไป หรืออ้างว่าต้องนอนโรงพยาบาล แม้ในใจจะรู้อยู่แก่ใจว่า “เขาหนี” แต่เธอยังคงอดทน จนสุดท้ายความอดทนก็หมดลงเมื่อเห็นว่าลูกชายเริ่มโต และถามว่า “พ่ออยู่ไหน”

จากความรักกลายเป็นความกลัว และในที่สุดกลายเป็นการเปิดโปง การออกมาเปิดเผยครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อสร้างกระแสหรือเรียกร้องความสงสาร แต่เป็นการประกาศความจริงให้โลกได้รู้ว่า ลูกของเธอมีพ่อจริง ๆ และเขาควรยอมรับความเป็นพ่อ ไม่ใช่หลบอยู่หลังข้ออ้างทางการแพทย์ที่ไม่มีใบรับรอง

สังคมตั้งคำถาม — จะเชื่อคนพูด หรือคนที่มีหลักฐาน? ตอนนี้เรื่องนี้กำลังกลายเป็นไวรัลทุกทิศทั่วไทยในโลกออนไลน์ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม บ้างก็ตั้งคำถามกับ “ฮอต” ว่า ถ้าจริงใจและซื่อสัตย์จริง ทำไมถึงไม่กล้าออกมาเคลียร์ หรืออย่างน้อยก็ตรวจดีเอ็นเอเพื่อตัดปัญหา?

เรื่องนี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่มันสะท้อนให้เห็นว่า โลกออนไลน์ที่ดูสวยหรู อาจเป็นเพียงม่านควัน ที่ซ่อนความจริงอันเจ็บปวดไว้ข้างใน

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่