เปิดใจ! อดีต Playboy สู่อาชีพชาวสวนชาวไร่ “ชาคริต-แย้มนาม” ชีวิตเปลี่ยนเพราะลูก

ข่าวบันเทิงล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 “ชาคริต-แย้มนาม” อดีต Playboy ผู้ที่มีชื่อดังแห่งวงการบันเทิง ล่าสุด ชีวิตเปลี่ยนใช้ชีวิตแสนสุขเป็นชาวสวนกับครอบครัว ออกมาเปิดใจชีวิตเมืองกรุงสู่ชาวสวนและชีวิตหลังแต่งงาน

“ชาคริต-แย้มนาม” อดีต Playboy กลับใจ ชีวิตเปลี่ยนเหมือนพลิกฝ่ามือ Work Hard Play Hard ก่อนแต่งงานใช้ชีวิตบ้านสวน วางรากฐานบั้นปลายชีวิตแสนสุข

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 64 “ชาคริต-แย้มนาม” อดีต Playboy ชื่อดังเปิดใจในรายการแฉ ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะลูก คุณพ่อลูกหนึ่งเผยหลังกลายเป็นชาวชวนเกือบเต็มตัวภายในปี 2564 นี้ได้กำไรจากการขายทุเรียนเป็นจำนวนมากตั้งแต่เมษายนถึงกรกฎาคม

ชาคริตกล่าวอยู่กับธรรมชาติสบายมีความสุข จากแต่ก่อนเป็นคนที่จะนอนทีก็ช่วงตี4 ตี5 ชีวิตเปลี่ยนไปมากจนคนในวงการไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะแต่งงานแล้วไปอยู่อาศัยในต่างจังหวัดกับภรรยาได้ ทั้งนี้ อดีต Badboy ยังได้เปิดเผยคติการใช้ชีวิตด้วยว่าได้มาจากคุณพ่อที่เคยบอกว่า “Work Hard Play Hard” คือการที่ออกใช้ชีวิตให้เต็มที่อยากออกไปเที่ยวไหนก็ไป เมื่อตอนทำงานก็ต้องทำงานเต็มที่เสร็จงานก็ต้อง Relax ชีวิตที่เคยผ่านมานั้นตัวคนเดียว อยากทำอะไรก็ทำไปเรื่อยบางครั้งอาจจะอยู่กับเพื่อนสังสรรค์

ชีวิตเปลี่ยนหลังจากมีครอบครัว เพราะไม่ได้ตัวเดียวแล้ว Mind Set ของเราก้จะเปลี่ยนไปหมด และในส่วนตัวมีความโชคดี เพราะตั้งแต่เด็กๆโตขึ้นมาหน่อยก้ได้ไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก ช่วงนั้นก็มีการใช้ชีวิตที่คุ้มค่ามากเป็นการใช้ชีวิตที่เร็ว แต่คนเราเมื่อมาถึงจุดอิ่มตัวพอได้ย้อนกลับไปดูก็ไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย เพราะได้ใช้ชีวิตมาครบทุกอย่างแล้ว

ในเรื่องของการอยากมีครอบครัวเป็นเรื่อที่อยากที่จะมีอยู่แล้ว แต่ไม่คิดมก่อนว่าจะมาอยู่หรือใช้ชีวิตที่เป็นชาวสวนเร็วกว่าเวลาที่วางเอาไว้ เพราะอันที่จริงแล้วตนเองก็มีที่ดินที่ซื้อไว้ในจังหวัดจันทบุรีอยู่แล้วตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ต้องขอบคุณพ่อหนิงที่ได้สอนว่า “จะไปรอทำไมใช้บั้นปลายชีวิตตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า” ตอนนั้นก็คิดไม่ออกว่ามันคืออะไร มันจะใช้ยังไง เพราะตอนนั้นทำงานทุกวัน 7 วันเต็มๆ แทบไม่มีเวลาว่างให้พักผ่อน แต่พอท้ายที่สุดแล้วพอถึงเวลาขึ้นมาจริงๆ เราก้สามารถที่จะแบ่งเวลาหรือแยกร่างได้เอง นั้นก็คือการวางแผนที่จะทำอะไรควบคู่ไปด้วยกันได้

การแบ่งการทำงานทั้งในกรุงเทพและการลงสวนช่วยภรรยา เมื่อว่างจากงานที่กรุงเทพก็จะไปวางระบบในสวนแล้วให้ภรรยาดำเนินการต่อ สลับกับถ่ายละครแต่เมื่อว่างก็จะรีบกลับไปช่วยครอบครัว ช่วงโควิดของ 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่สวนกับธรรมชาติ ช่วงที่มีน้ำท่วมก็ไม่ได้มีผลกระทบกับสวน น้ำผ่านมาแล้วก็ผ่านไปและทำให้เราเข้าใจธรรมชาตมากขึ้นว่าอุปสรรคมันมีกันทุกด้าน

การได้ลงทำสวนมันเป็นการสร้างความมั่นคงในกับการเกษตรทั้งยังได้อยู่กับครอบครัว อยู่กับธรรมชาติ นี่มันก็คือความสุขที่สุดในบั้นปลายชีวิตที่เราจะเริ่มใช้ ล่าสุดนี้เป้นนักเกษตรเต็มตัวรู้ทุกเรื่องสวนเพราะมีลูกไปอยู่ศึกษาพืชพันธ์ไร่สวน 3 ปี เท่าอายุลูกชาย เลี้ยงลูกทำกิจกรรมงานสวน

ภรรยาช่วยเปลี่ยนชีวิตเพราะความเรียบง่ายที่ลงตัว เพราะที่ผ่านมาการใช้ชีวิตของเรานั้นมีแต่ความวุ่นวายแบบคนเมืองแต่สุดท้ายความตั้งใจสูงสุดในชีวิตเราก็อยากอยู่แบบสงบกับธรรมชาติ ภรรยาทำให้รู้และเข้าใจเริ่มใช้ชีวิตบั้นปลายโดยไม่ต้องรอเวลา